ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงหน้าฝนกันแล้ว อากาศเย็นสบาย สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ เหมาะกับช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น "ทุ่งดอกกระเจียว" ที่ออกดอกในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือน มิถุนายน – สิงหาคม ของทุกปี บางปีดอกกระเจียวบานช้า อาจมีให้ชมไปถึงเดือนกันยายน โดยจังหวัดชัยภูมิจะจัดงาน "หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว" เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน จังหวัดชัยภูมิ ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง ก็มีทุ่งดอกกะเจียวสวยๆเหมือนกันครับ
สถานที่ที่จะพาไปก็มี
- อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
- อุทยานแห่งชาติไทรทอง
- อุทยานแห่งชาติตาดโตน
- อุทยานแห่งชาติภูแลนคา(มอหินขาว)
          เรามากันที่แรกเลยนะครับ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ในยามที่สายฝนโปรยปรายชโลมความชุ่มฉ่ำลงบนผืนดิน เหล่าพฤกษชาติที่พักตัวในยามแล้งก็แทงใบ ผลิตดอกออกมาเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ด้วยความสะพรั่งและพร้อมเพียงกัน ทำให้ป่าเต็งรัง ที่แห้งแล้ง กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาในฤดูกาลนี้ กระเจียวที่ชูช่อดอกสีชมพูสดใสนับพันนับหมื่นช่ออวดต่อสายตาคนเดินทางมานานเนิ่นนั้น เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ขิงข่า

การเดินทางมาชมทุ่งดอกกระเจียวช่วงที่สวยงามที่สุด คือช่วงเช้าที่มีสายหมอกบางๆปกคลุมแต่ถ้าหากมาในช่วงบ่าย หลังฝนหยุดตกใหม่ๆ ก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้ได้เช่นกัน นอกจากการเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติทุ่งดอกกระเจียวแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยว บริเวณข้างเคียงที่สามารถแวะชมได้อีกด้วย เช่น ป่าหินงาม ที่มีก้อนหินรูปทรงแปลกตา เช่น รูปถ้วยรางวัลฟุตบอลฟีฟ่า รูปดอกเห็ดเขาประตูชุมพล น้ำตกเทพประทาน
การขึ้นไปเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ขับรถยนต์ขึ้นไปเอง แต่จะจัดรถรับ-ส่ง ไว้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งรถแต่ละคัน จะมีนักเรียนอาสาเป็นมัคคุเทศน์ตัวน้อย คอยบรรยายความเป็นมาของทุ่งกระเจียว และพรรณไม้ในป่าของอุทยานฯ ระหว่างที่นั่งรถชมธรรมชาติขึ้นไปยังทุ่งกระเจียว และยังมีจุดจอดรถให้เลือกลงไปเที่ยวชมธรรมชาติได้ตามใจชอบอีกด้วย

จุดแรกที่รถพาไปจอดคือจุดชมวิวผาสุดแผ่นดิน
      ผาสุดแผ่นดิน เป็นจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย ซึ่งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม สูง 846 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เกิดจากการยกตัวของพื้นที่เป็นที่ราบสูงภาคอีสานเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางกับภาคอีสาน บริเวณนี้จึงถูกเรียกว่า “สุดแผ่นดิน” ณ จุดนี้จะเห็นทิวทัศน์ของสันเขาพังเหยและพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จุดชุมวิวนี้อยู่ทางด้านทิศเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวมักนิยมขึ้นไปสัมผัสสายหมอกยามเช้า และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในช่วงเย็น

          จากรูปจะเห็นถึงความสวยงามของผาสุดแผ่นดิน แสงแดดอ่อนๆ ลมพัดเย็นๆ เล่นเอาผมอยากจะนั่งอยู่ที่นี้ทั้งวันเลยครับ ยิ่งถ้าได้ไปเที่ยวในช่วงเวลาดีดีก็จะได้สัมผัส หมอกที่แผ่วเบาลอยผ่านตัวเราไปมาเหมือนมีก้อนเมฆมาโดนตัวทำให้มีความสุขมาก       
          เดินลงมาก็จะเป็นทุ่งดอกกระเจียวที่ชูช่องดงาม ตลอดระยะทางราว 1 กม. จากจุดชมวิวผาสุดแผ่นดินไปจนถึงลานหินงาม จะพบดอกกระเจียวตลอดเส้นทางเดิน ทุ่งดอกกระเจียวที่นี่ จะบานในช่วง เดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี
ชมความสวยงามของทุ่งกระเจียวแล้วนั่งรถลงมา "ลานหินงาม" แท่งหินน่าอัศจรรย์ใจ
          เป็นลานหินที่มีรูปร่างแปลกในพื้นที่กว่า 10 ไร่ เกิดจากการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไปนานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันมองดูสวยงามเป็นที่อัศจรรย์ สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง

"หินฟีฟ่าเวิลด์คัพ" เมื่อเดินขึ้นเนิน มองมาทางซ้ายมือ ผาหินถ้วยฟีฟ่า ตั้งตะหง่านให้เห็นเป็นอันดับแรก  ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่าเป็น หินรูปถ้วยฟุตบอลโลก มองไปก็เห็นแล้วไม่ต้องใช้จินตนาการแต่อย่างใด ใช่เลยถ้วยฟุตบอลโลกหรือฟีฟ่าเวิลด์คัพแน่นอน ถึงแล้วก็ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย
ทางขวาของหินปราสาท มีป้ายเขียนบอกไว้ว่า “มอตั้ง” มองดูแล้วก็เห็นว่าหินมันตั้งสมชื่อจริงๆ
อุทยานแห่งชาติไทรทอง (Sai Thong)
          อุทยานแห่งชาติไทรทอง ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2535 ครอบคลุมพื้นที่ป่าเทือกเขาพังเหย และป่านายางกลัก ในท้องที่ตำบลท่าใหญ่ ตำบลถาวัวแดง ตำบลบ้านเจียง ตำบลเจาทอง ตำบลวังทอง กิ่งอำเภอภักดีชุมพล อำเภอหนองบัวแดง ตำบลห้วยแย้ ตำบลวังตะเฆ่ อำเภอหนองบัวระเหว และตำบลโป่งนก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ และมีอาณาเขตติดต่อกับอุทยานฯ ป่าหินงามและภูแลนคา
เราจะต้องนำรถส่วยตัวจอดไว้ที่ทำการอุทยานแล้วนั่งรถรถโฟวิลรับส่ง พาเราออกจากที่ทำการอุทยานฯ มาประมาณ 12 กม. ก็ขึ้นมาถึงลานจอดรถด้านบนแล้ว จากตรงนี้ก็ต้องเดินเท้ากันต่อแล้วล่ะครับ การชมทุ่งดอกกระเจียวที่นี่จะไม่เหมือนกับที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามซึ่งรถจอดปุ๊บก็ถึงทุ่งกระเจียวทันที แต่ทุ่งกระเจียวที่ไทรทองแห่งนี้มีอยู่หลายทุ่ง แต่ละทุ่งก็อยู่ห่างจากกันค่อนข้างมาก กว่าจะเดินชมครบทุกทุ่งก็ต้องออกแรงเดินกันจนเหนื่อย เดินจากที่จอดรถมาไม่ไกลก็มาถึงจุดแรกที่ต้องแวะชม ซึ่งก็คือ"แนวผาพ่อเมือง" จากจุดนี้เราสามารถชมทิวทัศน์ได้กว้างไกลเป็นมุมมองแบบพาโนรามา ถ้าอากาศดีๆ สามารถมองเห็นไปได้ไกลถึงอำเภอภักดีชุมพลเลยล่ะครับ .....

มุมมองกว้างไกลที่มองเห็นจากจากแนวผาพ่อเมือง

          ถัดจากแนวผาพ่อเมือง ก็จะเป็นเส้นทางเดินเลียบไปกับแนวหน้าผา เราต้องเดินขึ้นเนินเขาค่อนข้างชันมาอีกพักใหญ่ จึงจะมาถึงหน้าผาที่นับได้ว่าเป็นไฮไล้ท์จุดหนึ่งของอุทยานแห่งชาติไทรทองที่ไม่ควรพลาดชม ผาแห่งนี้มีชื่อน่าหวาดเสียวว่า "ผาหด" ซึ่งมีลักษณะเด่นคือจะมีชะง่อนหินยื่นออกไปจากหน้าผา ใครที่ได้ไปยืนที่ชะง่อนผาแห่งนี้ ผมว่าน่าจะมีสิทธิ์หดสมชื่อผานะครับ
ผ่าความเสียวของ"ผาหด"เราก็เดินจะมาถึง "ทุ่งบัวสววค์"

อุทยานแห่งชาติตาดโตน
          น้ำตกตาดโตน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ ห่างจากตัวจังหวัดชัยภูมิไปทางทิศเหนือ 21 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงาม ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตาดโตน ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ มีน้ำไหลตลอดปี โดย เฉพาะในฤดูฝนจะสวยงามเป็นพิเศษ
มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย
มอหินขาว เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคาตั้งอยู่ที่บ้านวังคำแคน เป็นกลุ่มหินทรายสีขาวขนาดใหญ่กลางทุ่งหญ้าบนเนินเขา มองเห็นได้เด่นชัดในระยะไกล ลักษณะคล้ายสโตนเฮ็นจ์ ของประเทศอังกฤษ
สองข้างทางที่จะมามอหินขาวมีตวามสวยงามเป็นระยะๆ บางจุดอดใจไม่ไหวต้องลงมาถ่ายรูปเก็บไว้ครับ

***รูปบางรูปเป็นเรื่องของมุมกล้อง ผู้ถ่ายไม่ได้ลงไปจุดที่ห้ามถ่ายครับ***