ฉลองช่วงแห่งความสุขที่กำลังจะจบ ป.เอก แต่ดันต้องรออนุมัติความสมบูรณ์ของเล่มให้ตรงกับระเบียบของทางมหาลัย
ตัวผมเองก็เลยว่าง แถมเงินก็ร่อยหรอ จะออกไปซ่าที่ไหนก็ไม่ได้ ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่บ้าน ช่วงนี้เลยว่างแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นอนกลิ้งไป กลิ้งมาครับ ช่วงที่นอนกลิ้งไป กลิ้งมานั้นความทรงจำสมัยยังเป็นเด็กเกรียนวิ่งเล่นอยู่ที่เมืองไทยก็ผุดขึ้นมา เลยเอามาเขียนให้ท่าน ๆ ทั้งหลายอ่านกันดีกว่า แต่ต้องทำใจนะครับ เพราะว่าความทรงจำช่วงนี้มันเข้าทำนองหม่น ๆ แบบ ฟิลม์นัวร์ นิดนึง
ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว สมัยเด็กมหาลัยหน้าอ่อน ๆ ของไทยยังเล่น Diablo 2 ยังอย่างบ้าคลั่ง
ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นด้วย เรื่องเรียนนี่แทบไม่ต้องพูดกันเลยทีเดียว ตี Diablo 2 กันทั้งวันทั้งคืน, เด็ก ๆ ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ, และในคืนฝนตกฟ้าร้องวันหนึ่งระหว่างที่ผมกำลังตี Diablo เพื่อเก็บของอย่างหน้ามืดตามัวนั้นเอง ไอ้เจ้าหมาคู่ใจที่นอนอยู่ใต้โต๊ะวางคอมพิวเตอร์ก็มุดออกมา พร้อมกับเดินไปทางห้องหน้าบ้าน และส่งเสียงเห่าอย่างต่อเนื่อง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ท่านแม่ของผมนั้นส่งเสียงมาแต่ไกลเชียวว่า ให้ไปดูซิว่าหมามันเห่าอะไร
ด้วยความที่เป็นคนที่เคารพท่านแม่หรืออีกนัยหนึ่ง คือ นายธนาคาร เป็นอย่างมาก ผมจึงจำเป็นต้องลาจากน้อง Diablo แล้วก็เดินไปทางห้องหน้าบ้าน แล้วก็แง้มผ้าม่านดู ท่ามกลางไฟน้าบ้านอันสลัว ๆ นั้นผมก็เห็นร่างของใครบางคนยืนอยู่ตรงประตูรั้วหน้าบ้าน ซึ่งตรงประตูรั้วนี้จะมีหลังคาที่ยื่นออกมาจากโรงจอดรถพอกันแดดกันฝนได้นิดหน่อย
พอเห็นดังนั้นผมก็จึงตะโกนบอกท่านแม่ไปว่ามีคนมายืนอยู่หน้าบ้าน ท่านแม่ของผมก็เลยสั่งให้ออกไปดูซิว่าเป็นใคร ซึ่งตามธรรมเนียมของผมเองนั้น เวลาจะออกไปหน้าบ้านนั้นจะต้องส่งไอ้หมาคู่ใจออกไปเป็นทัพหน้าก่อน โดยตัวผมเองจะเป็นทัพหลักตามออกไปทีหลัง แล้วพอเปิดประตูตัวบ้านแค่นั้น ไอ้หมาของผมก็วิ่งออกไปยังประตูรั้วหน้าบ้านทันที พร้อมกับเห่าไปตามทาง
แค่อึดใจเดียวเท่านั้นผมก็ได้ยินเสียงตกใจของผู้หญิง ตามมาด้วยเสียงของหล่น และเสียงด่าของหญิงวัยกลางคน สลับกับเสียงเห่าของน้องหมา เมื่อได้ยินดังนั้นผมก็เลยรีบวิ่งไปดูที่ประตูรั้วหน้าบ้านทันที และสิ่งที่ผมเห็นก็คือ น้องหมายืนเกาะรั้วเห่าอยู่ โดยมีหญิงวัยกลางคนยืนชี้หน้าด่าน้องหมา และที่ปลายเท้าของหญิงผู้นั้นก็มีถุงใส่สิ่งของบางอย่างหล่นอยู่
ด้วยความงงและสงสัยผมจึงเดินเข้าไปดึงน้องหมาให้เข้าบ้าน ตามด้วยการไต่ถามหญิงวัยกลางคนผู้นั้นทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งก็ได้ความว่า แกมาหลบฝนอยู่ที่ประตูรั้วหน้าบ้านของผม และระหว่างที่แกยืนเหม่อ ๆ อยู่ก็ได้ยินเสียงตึงตัง ตามมาด้วยภาพของหมาตัวใหญ่กำลังกระโจนใส่แก ด้วยความตกใจแกเลยอุทานและปล่อยมือที่ถือถุงใส่ไข่เต็มถุง ส่งผลให้ไข่จำนวนสองโหลที่แกซื้อมาแตกกระจัดกระจาย ด้วยความโกรธแกจึงมาด่าน้องหมาของผม และแกก็เรียกร้องว่าไข่ที่แตกไปนั้นเป็นความผิดของหมาผม
หลังจากที่ไต่ถามหญิงวัยกลางคนผู้นั้นจบ ท่านแม่ของผมก็เดินออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งผมและหญิงวัยกลางคนผู้นั้นก็เล่าไปตามจริง และด้วยความสงสารแม่ของผมก็สั่งให้ผมไปเอาไข่ในตู้เย็นใส่ถุงมาให้แก 24 ใบ จากนั้นก็จึงให้ไข่ทั้งหมดกับหญิงวัยกลางคนคนนั้นไป เมื่อหญิงวัยกลางคนได้รับไข่ไป แกถึงยอมหยุดด่าน้องหมาของผม และก็เดินฝ่าฝนกลับไปบ้านของแก ซึ่งในใจของผมตอนนั้นคิดแต่ว่า แม่ไปยอมให้ไข่ไปทำไม บ้านเราไม่เห็นผิดตรงไหน ประตูหน้าบ้านก็ล็อคไว้ หมาก็อยู่ในบ้าน ไม่มีทางที่จะหลุดไปได้ เราไม่ได้ผิดซะหน่อย ผู้หญิงคนนั้นมายืนอยู่หน้าบ้านประชิดรั้วของเราเอง ทำไมต้องไปยอมให้ไข่กับผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นด้วย แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรกับแม่ในตอนนั้น เพราะอยากจะเข้าไปเล่มเกมต่อมากกว่าครับ
พอมาถึงวันนี้ผมก็ยังคิดว่าฝ่ายเราไม่ผิดนะ แต่เพื่อให้เรื่องจบ ๆ ไปก็ยอมให้ไข่เค้าไปดีกว่า แล้วท่าน ๆ คิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ เรื่องนี้ใครผิด
ตัวผมและหมา กับป้าในคืนวันฝนตก
ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว สมัยเด็กมหาลัยหน้าอ่อน ๆ ของไทยยังเล่น Diablo 2 ยังอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นด้วย เรื่องเรียนนี่แทบไม่ต้องพูดกันเลยทีเดียว ตี Diablo 2 กันทั้งวันทั้งคืน, เด็ก ๆ ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ, และในคืนฝนตกฟ้าร้องวันหนึ่งระหว่างที่ผมกำลังตี Diablo เพื่อเก็บของอย่างหน้ามืดตามัวนั้นเอง ไอ้เจ้าหมาคู่ใจที่นอนอยู่ใต้โต๊ะวางคอมพิวเตอร์ก็มุดออกมา พร้อมกับเดินไปทางห้องหน้าบ้าน และส่งเสียงเห่าอย่างต่อเนื่อง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ท่านแม่ของผมนั้นส่งเสียงมาแต่ไกลเชียวว่า ให้ไปดูซิว่าหมามันเห่าอะไร
ด้วยความที่เป็นคนที่เคารพท่านแม่หรืออีกนัยหนึ่ง คือ นายธนาคาร เป็นอย่างมาก ผมจึงจำเป็นต้องลาจากน้อง Diablo แล้วก็เดินไปทางห้องหน้าบ้าน แล้วก็แง้มผ้าม่านดู ท่ามกลางไฟน้าบ้านอันสลัว ๆ นั้นผมก็เห็นร่างของใครบางคนยืนอยู่ตรงประตูรั้วหน้าบ้าน ซึ่งตรงประตูรั้วนี้จะมีหลังคาที่ยื่นออกมาจากโรงจอดรถพอกันแดดกันฝนได้นิดหน่อย
พอเห็นดังนั้นผมก็จึงตะโกนบอกท่านแม่ไปว่ามีคนมายืนอยู่หน้าบ้าน ท่านแม่ของผมก็เลยสั่งให้ออกไปดูซิว่าเป็นใคร ซึ่งตามธรรมเนียมของผมเองนั้น เวลาจะออกไปหน้าบ้านนั้นจะต้องส่งไอ้หมาคู่ใจออกไปเป็นทัพหน้าก่อน โดยตัวผมเองจะเป็นทัพหลักตามออกไปทีหลัง แล้วพอเปิดประตูตัวบ้านแค่นั้น ไอ้หมาของผมก็วิ่งออกไปยังประตูรั้วหน้าบ้านทันที พร้อมกับเห่าไปตามทาง
แค่อึดใจเดียวเท่านั้นผมก็ได้ยินเสียงตกใจของผู้หญิง ตามมาด้วยเสียงของหล่น และเสียงด่าของหญิงวัยกลางคน สลับกับเสียงเห่าของน้องหมา เมื่อได้ยินดังนั้นผมก็เลยรีบวิ่งไปดูที่ประตูรั้วหน้าบ้านทันที และสิ่งที่ผมเห็นก็คือ น้องหมายืนเกาะรั้วเห่าอยู่ โดยมีหญิงวัยกลางคนยืนชี้หน้าด่าน้องหมา และที่ปลายเท้าของหญิงผู้นั้นก็มีถุงใส่สิ่งของบางอย่างหล่นอยู่
ด้วยความงงและสงสัยผมจึงเดินเข้าไปดึงน้องหมาให้เข้าบ้าน ตามด้วยการไต่ถามหญิงวัยกลางคนผู้นั้นทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งก็ได้ความว่า แกมาหลบฝนอยู่ที่ประตูรั้วหน้าบ้านของผม และระหว่างที่แกยืนเหม่อ ๆ อยู่ก็ได้ยินเสียงตึงตัง ตามมาด้วยภาพของหมาตัวใหญ่กำลังกระโจนใส่แก ด้วยความตกใจแกเลยอุทานและปล่อยมือที่ถือถุงใส่ไข่เต็มถุง ส่งผลให้ไข่จำนวนสองโหลที่แกซื้อมาแตกกระจัดกระจาย ด้วยความโกรธแกจึงมาด่าน้องหมาของผม และแกก็เรียกร้องว่าไข่ที่แตกไปนั้นเป็นความผิดของหมาผม
หลังจากที่ไต่ถามหญิงวัยกลางคนผู้นั้นจบ ท่านแม่ของผมก็เดินออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งผมและหญิงวัยกลางคนผู้นั้นก็เล่าไปตามจริง และด้วยความสงสารแม่ของผมก็สั่งให้ผมไปเอาไข่ในตู้เย็นใส่ถุงมาให้แก 24 ใบ จากนั้นก็จึงให้ไข่ทั้งหมดกับหญิงวัยกลางคนคนนั้นไป เมื่อหญิงวัยกลางคนได้รับไข่ไป แกถึงยอมหยุดด่าน้องหมาของผม และก็เดินฝ่าฝนกลับไปบ้านของแก ซึ่งในใจของผมตอนนั้นคิดแต่ว่า แม่ไปยอมให้ไข่ไปทำไม บ้านเราไม่เห็นผิดตรงไหน ประตูหน้าบ้านก็ล็อคไว้ หมาก็อยู่ในบ้าน ไม่มีทางที่จะหลุดไปได้ เราไม่ได้ผิดซะหน่อย ผู้หญิงคนนั้นมายืนอยู่หน้าบ้านประชิดรั้วของเราเอง ทำไมต้องไปยอมให้ไข่กับผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นด้วย แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรกับแม่ในตอนนั้น เพราะอยากจะเข้าไปเล่มเกมต่อมากกว่าครับ
พอมาถึงวันนี้ผมก็ยังคิดว่าฝ่ายเราไม่ผิดนะ แต่เพื่อให้เรื่องจบ ๆ ไปก็ยอมให้ไข่เค้าไปดีกว่า แล้วท่าน ๆ คิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ เรื่องนี้ใครผิด