บริษัทที่ผมทำอยู่ ผมทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์ครับ (วันเสาร์ทำครึ่งวัน) ผมทำงานที่นี่มาแล้ว 10 ปีแล้ว (ปีนี้เข้าปีที่ 11)
ขอเท้าความในอดีตก่อนนะครับ - ในช่วง 7 ปีแรกที่ผมทำงานบริษัทนี้ ผมไม่เคยลากิจไปเที่ยวเลยสักครั้ง (นอกจากวันอาทิตย์ที่ผมอาจมีไปเที่ยวใกล้ๆ เพราะหยุดแค่วันอาทิตย์ อ้อ และยังมีวันหยุดราชการที่บริษัทกำหนดไว้ ปีละ 13 วัน ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าจะตรงกับวันไหน) แต่ละปีผมจะลากิจเต็มวันเพียงวันเดียว คือวันไปเช็งเม้งครับ จะเป็นวันจันทร์ 1 วันในเดือนมีนาคม (คือบ้านผมค้าขายครับ เสาร์อาทิตย์ขายดี เลยต้องไปวันจันทร์ ซึ่งลูกค้าน้อย และจะไปก่อนวันเช็งเม้งจริง) มีลาอีกครั้งคือ ตอนอาม่าเสีย (ช่วงนั้นเข้างานปีที่ 2 แล้ว) เลยลาติดกัน 2 วันเต็ม เป็นวันทำงานกลางสัปดาห์ นอกนั้นอาจมีลาป่วยปีละ 1-4 วันครับ (เคยมี admit โรงพยาบาลด้วย ตรงนี้คงห้ามไม่ได้) และก็ลาครึ่งวันบ่าย(ไม่ใช่เต็มวัน)ไปทำธุระทั้งหมด 4 หรือ 5 ครั้ง(จำเป๊ะๆไม่ได้แล้ว)ในรอบ 7 ปี ตรงนี้คือทั้งหมดในรอบ 7 ปีที่ผมขอเท้าความก่อนครับ
อ้อ บริษัทผมไม่เคยมีใครลาพักร้อนนะครับ เพราะที่ผ่านมา ทุกคนในบริษัทไม่ได้ท่องเที่ยวเท่าไหร่ ต่างก็มีครอบครัว บางคนก็อาจมีภาระ อันนี้ก็เป็นเหตุผลของแต่ละคน ส่วนผมยังโสดอยู่ (แต่ถ้าใครจะลากิจ ก็มาลาเป็นครั้งๆเป็นวันๆไป หรือจะลาป่วย ก็มาเขียนใบลาตามหลังได้)
แต่มาช่วง 3 ปีหลัง ผมเริ่มรู้สึกว่า อยากชาร์จแบ็ตให้ตัวเองน่ะครับ อยู่กับงานที่บริษัท (คือก่อนหน้านี้ไม่เคยลาหยุดไปเที่ยวไหนอยู่แล้ว) มา 3 ปีนี้ รู้สึกชีวิตมันดูเนือยๆไป ก็เลยอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเองหน่อย พอได้ทำ ก็รู้สึกว่า ชีวิตมันสดชื่นขึ้นครับ (อ้อ แต่งานของผมไม่ได้หนักหนาสาหัสนะครับ เป็นงานในออฟฟิศนี่แหละ เข้าเช้า 8.30 เลิก 5 โมงเย็น)
ผมเริ่มมาลากิจไปเที่ยวช่วง 3 ปีหลังนี่แหละครับ
สำหรับปี 2556 วันลาของผมเป็นดังนี้ครับ
ใบลาครั้งที่ 1 ลาวันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2556 เนื่องจากวันศุกร์เป็นวันตรุษจีน (ซึ่งเป็นวันหยุดของบริษัท) ผมเลยลาวันเสาร์ 1 วัน (เพราะวันเสาร์ บริษัทผมทำงาน ผมจะได้มีเวลา 3 วันในการลา)
ใบลาครั้งที่ 2 ลาวันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 เนื่องจากวันจันทร์เป็นวันมาฆบูชา (ซึ่งเป็นวันหยุดของบริษัท) ผมเลยลาวันเสาร์ 1 วัน (จะได้มีเวลา 3 วันในการลา)
ใบลาครั้งที่ 3 ลาวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2556 เนื่องจากที่บ้านไปเช็งเม้ง (อันนี้ผมหยุดทุกวันจันทร์ปีละ 1 ครั้งในเดือนมีนาคมอยู่แล้ว)
ใบลาครั้งที่ 4 ลาวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม 2556 เนื่องจากวันศุกร์ที่ 24 เป็นวันวิสาขบูชาซึ่งเป็นวันหยุดของบริษัท 1 วัน ผมเลยลาวันเสาร์ 1 วัน (จะได้มีเวลา 3 วันในการลา)
ใบลาครั้งที่ 5 ลาวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2556 (วันเสาร์ที่จะถึงนี่แหละ) เนื่องจากวันจันทร์เป็นวันอาสาฬบูชา และบริษัทผมหยุด (จะได้มีเวลา 3 วันในการลา)
อ้อ ปีนี้มีลาป่วย 1/2 (ครึ่งวัน) 2 ครั้งด้วยครับ
ช่วง 3 ปีให้หลัง ปีนึงๆผมจะลาคาบเกี่ยววันหยุดของบริษัท 5 วันครับ ตรงนี้ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น (แต่ละครั้ง ลาครั้งละ 1 วันทำงานเท่านั้น ไม่เคยลา 2 วันทำงาน ส่วนมากพยายามจะให้เป็นวันเสาร์ แต่เคยมีวันจันทร์ 1 ครั้งในปีที่สองของการหยุดครับ) ถ้ามีวันหยุดคาบเกี่ยวในหลายสัปดาห์ต่อปีเยอะกว่านี้ ผมก็ตั้งใจจะลาแค่นี้ครับ เพราะปีก่อนผมก็ลาลักษณะแบบนี้ไป 5 วัน (โดยดูช่วงวันหยุดคาบเกี่ยวเป็นหลัก เพราะบริษัทผมไม่มีใครลาพักร้อนเป็นกิจจะลักษณะเหมือนบริษัทอื่นที่เพื่อนผมทำอยู่ ผมเลยลาคาบเกี่ยววันหยุดในลักษณะนี้ครับ จะได้ลายาวๆหน่อย) ส่วนลากิจไปทำธุระใน 3 ปีหลังนี้ มีปีละครั้งครับ ครั้งละครึ่งวัน (1/2) วัน (คือคนเราก็มีธุระส่วนตัวเหมือนกัน แต่ส่วนมากผมก็ลาครึ่งวันน่ะครับ)
เกือบลืมครับ เหตุผลที่ผมเริ่มเนือยๆในชีวิต เลยอยากเที่ยวในช่วง 3 ปีหลังมานี้ หนึ่งในเหตุผลหลักก็คือ บริษัทผมไม่มีเงินเดือนขึ้นมา 5 ปีแล้วครับ และไม่มีโบนัสมา 5 ปีแล้วเช่นกัน (จากที่ก่อนหน้านี้เคยมี) เนื่องจากเจ้านายบอกว่า เศรษฐกิจไม่ดีและมันกระทบถึงธุรกิจบริษัท (พนักงานในบริษัทต่างก็เข้าใจครับ อันนี้ผมก็เข้าใจนะ) ผมเลยไม่ได้ซีเรียสอะไรกับตรงนี้ ที่ไม่ซีเรียสก็เพราะเพื่อนร่วมงานที่นี่ดีครับ ทำงานแล้วสบายใจ อีกอย่างก็คือ เจ้านายเป็นคนไม่จุกจิกกับงานของพนักงานแต่ละคน ผมหมายถึงเรื่องงานในบริษัทนะ ใครทำงานเสร็จ เขาก็ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว ขอให้งานเสร็จเป็นพอ (ตรงนี้เป็นข้อดีของเขานะในความรู้สึกผม)
ปีนี้เท่ากับผมเขียนใบลากิจมา 4 วันแล้ว (ไม่รวมลาป่วยครึ่งวัน 2 ครั้งนะครับ) ก็ใกล้เคียงเป้าหมายของผมแล้วล่ะ คือ 5 วันต่อปี ครั้งละ 1 วันเสาร์ (เหลืออีก 1 ครั้ง ผมกะจะให้เป็นวันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2556 คราวนี้ขอเป็นวันจันทร์ เพราะวันอาทิตย์เป็นวันหยุด ส่วนวันอังคารเป็นวันหยุดสิ้นปีและวันพุธก็เป็นวันขึ้นปีใหม่ ส่วนวันเสาร์ที่ 28 ธันวาคมจะมาทำงานครึ่งวันก่อน เพราะลาวันจันทร์ที่ 30 ไปแล้ว เลยไม่อยากลาวันเสาร์ด้วย จะได้หยุดคาบเกี่ยว 4 วัน อาทิตย์ จันทร์ อังคาร และพุธ ตรงนี้คือที่ตั้งใจไว้ ที่ผ่านมาอยากหยุดวันเสาร์มากกว่า แต่เรื่องหยุดวันจันทร์ ผมขอดูเป็นกรณีไปครับ อย่างเช่นกรณีนี้)
และใบลากิจครั้งที่ 4 ในวันนี้ เจ้านายผมก็เขียนข้อความสั้นๆใส่ใบลากิจของผมกลับมาว่า (เขียนแบบเป๊ะๆ ไม่ตัดแต่งประโยคเลยนะครับ) "คุณลาบ่อยมาก ดูด้วยว่า 1 ปี คุณลากี่วัน"
ทุกอย่างที่เขียนเป็นเรื่องจริงทั้งหมดนะครับ ไม่ได้ใส่สีหรือใส่ไข่อะไร จะเตือนจะว่าผมก็ได้นะครับ เช่นผมก็ไม่ถูกต้องเหมือนกันอะไรอย่างงี้ เผื่อผมจะมีเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเองก็ทำเกินเลยไป (ผมพร้อมรับฟังเหตุผลครับ)
หมายเหตุ ผมอาจใช้คำว่า "ลากิจ"ในการไปเที่ยวของผม (เพราะไม่เคยมีใครในบริษัทลาพักร้อนกันเลย) ถ้าถามว่า เคยมีคนอื่นลาไปเที่ยวไหม ก็มี แต่น้อยคนมากๆในรอบหลายๆปีที่จะลากิจคาบเกี่ยววันหยุดเพื่อไปเที่ยว มีแต่ผมนี่แหละที่มากสุดแล้ว (คือส่วนมากบริษัทหยุดมาแบบไหน ทุกคนก็หยุดตามนั้นน่ะครับ ส่วนใครจะเที่ยวหรือไม่เที่ยว ก็แล้วแต่ตัวบุคคล แต่ถ้าลาป่วย ไม่เป็นไร)
ขอบคุณครับ
ผมมีปัญหาเรื่องลาหยุดกับเจ้านายครับ ลองอ่านเรื่องของผมดู หลังจากอ่านจบ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ
ขอเท้าความในอดีตก่อนนะครับ - ในช่วง 7 ปีแรกที่ผมทำงานบริษัทนี้ ผมไม่เคยลากิจไปเที่ยวเลยสักครั้ง (นอกจากวันอาทิตย์ที่ผมอาจมีไปเที่ยวใกล้ๆ เพราะหยุดแค่วันอาทิตย์ อ้อ และยังมีวันหยุดราชการที่บริษัทกำหนดไว้ ปีละ 13 วัน ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าจะตรงกับวันไหน) แต่ละปีผมจะลากิจเต็มวันเพียงวันเดียว คือวันไปเช็งเม้งครับ จะเป็นวันจันทร์ 1 วันในเดือนมีนาคม (คือบ้านผมค้าขายครับ เสาร์อาทิตย์ขายดี เลยต้องไปวันจันทร์ ซึ่งลูกค้าน้อย และจะไปก่อนวันเช็งเม้งจริง) มีลาอีกครั้งคือ ตอนอาม่าเสีย (ช่วงนั้นเข้างานปีที่ 2 แล้ว) เลยลาติดกัน 2 วันเต็ม เป็นวันทำงานกลางสัปดาห์ นอกนั้นอาจมีลาป่วยปีละ 1-4 วันครับ (เคยมี admit โรงพยาบาลด้วย ตรงนี้คงห้ามไม่ได้) และก็ลาครึ่งวันบ่าย(ไม่ใช่เต็มวัน)ไปทำธุระทั้งหมด 4 หรือ 5 ครั้ง(จำเป๊ะๆไม่ได้แล้ว)ในรอบ 7 ปี ตรงนี้คือทั้งหมดในรอบ 7 ปีที่ผมขอเท้าความก่อนครับ
อ้อ บริษัทผมไม่เคยมีใครลาพักร้อนนะครับ เพราะที่ผ่านมา ทุกคนในบริษัทไม่ได้ท่องเที่ยวเท่าไหร่ ต่างก็มีครอบครัว บางคนก็อาจมีภาระ อันนี้ก็เป็นเหตุผลของแต่ละคน ส่วนผมยังโสดอยู่ (แต่ถ้าใครจะลากิจ ก็มาลาเป็นครั้งๆเป็นวันๆไป หรือจะลาป่วย ก็มาเขียนใบลาตามหลังได้)
แต่มาช่วง 3 ปีหลัง ผมเริ่มรู้สึกว่า อยากชาร์จแบ็ตให้ตัวเองน่ะครับ อยู่กับงานที่บริษัท (คือก่อนหน้านี้ไม่เคยลาหยุดไปเที่ยวไหนอยู่แล้ว) มา 3 ปีนี้ รู้สึกชีวิตมันดูเนือยๆไป ก็เลยอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเองหน่อย พอได้ทำ ก็รู้สึกว่า ชีวิตมันสดชื่นขึ้นครับ (อ้อ แต่งานของผมไม่ได้หนักหนาสาหัสนะครับ เป็นงานในออฟฟิศนี่แหละ เข้าเช้า 8.30 เลิก 5 โมงเย็น)
ผมเริ่มมาลากิจไปเที่ยวช่วง 3 ปีหลังนี่แหละครับ
สำหรับปี 2556 วันลาของผมเป็นดังนี้ครับ
ใบลาครั้งที่ 1 ลาวันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2556 เนื่องจากวันศุกร์เป็นวันตรุษจีน (ซึ่งเป็นวันหยุดของบริษัท) ผมเลยลาวันเสาร์ 1 วัน (เพราะวันเสาร์ บริษัทผมทำงาน ผมจะได้มีเวลา 3 วันในการลา)
ใบลาครั้งที่ 2 ลาวันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 เนื่องจากวันจันทร์เป็นวันมาฆบูชา (ซึ่งเป็นวันหยุดของบริษัท) ผมเลยลาวันเสาร์ 1 วัน (จะได้มีเวลา 3 วันในการลา)
ใบลาครั้งที่ 3 ลาวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2556 เนื่องจากที่บ้านไปเช็งเม้ง (อันนี้ผมหยุดทุกวันจันทร์ปีละ 1 ครั้งในเดือนมีนาคมอยู่แล้ว)
ใบลาครั้งที่ 4 ลาวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม 2556 เนื่องจากวันศุกร์ที่ 24 เป็นวันวิสาขบูชาซึ่งเป็นวันหยุดของบริษัท 1 วัน ผมเลยลาวันเสาร์ 1 วัน (จะได้มีเวลา 3 วันในการลา)
ใบลาครั้งที่ 5 ลาวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2556 (วันเสาร์ที่จะถึงนี่แหละ) เนื่องจากวันจันทร์เป็นวันอาสาฬบูชา และบริษัทผมหยุด (จะได้มีเวลา 3 วันในการลา)
อ้อ ปีนี้มีลาป่วย 1/2 (ครึ่งวัน) 2 ครั้งด้วยครับ
ช่วง 3 ปีให้หลัง ปีนึงๆผมจะลาคาบเกี่ยววันหยุดของบริษัท 5 วันครับ ตรงนี้ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น (แต่ละครั้ง ลาครั้งละ 1 วันทำงานเท่านั้น ไม่เคยลา 2 วันทำงาน ส่วนมากพยายามจะให้เป็นวันเสาร์ แต่เคยมีวันจันทร์ 1 ครั้งในปีที่สองของการหยุดครับ) ถ้ามีวันหยุดคาบเกี่ยวในหลายสัปดาห์ต่อปีเยอะกว่านี้ ผมก็ตั้งใจจะลาแค่นี้ครับ เพราะปีก่อนผมก็ลาลักษณะแบบนี้ไป 5 วัน (โดยดูช่วงวันหยุดคาบเกี่ยวเป็นหลัก เพราะบริษัทผมไม่มีใครลาพักร้อนเป็นกิจจะลักษณะเหมือนบริษัทอื่นที่เพื่อนผมทำอยู่ ผมเลยลาคาบเกี่ยววันหยุดในลักษณะนี้ครับ จะได้ลายาวๆหน่อย) ส่วนลากิจไปทำธุระใน 3 ปีหลังนี้ มีปีละครั้งครับ ครั้งละครึ่งวัน (1/2) วัน (คือคนเราก็มีธุระส่วนตัวเหมือนกัน แต่ส่วนมากผมก็ลาครึ่งวันน่ะครับ)
เกือบลืมครับ เหตุผลที่ผมเริ่มเนือยๆในชีวิต เลยอยากเที่ยวในช่วง 3 ปีหลังมานี้ หนึ่งในเหตุผลหลักก็คือ บริษัทผมไม่มีเงินเดือนขึ้นมา 5 ปีแล้วครับ และไม่มีโบนัสมา 5 ปีแล้วเช่นกัน (จากที่ก่อนหน้านี้เคยมี) เนื่องจากเจ้านายบอกว่า เศรษฐกิจไม่ดีและมันกระทบถึงธุรกิจบริษัท (พนักงานในบริษัทต่างก็เข้าใจครับ อันนี้ผมก็เข้าใจนะ) ผมเลยไม่ได้ซีเรียสอะไรกับตรงนี้ ที่ไม่ซีเรียสก็เพราะเพื่อนร่วมงานที่นี่ดีครับ ทำงานแล้วสบายใจ อีกอย่างก็คือ เจ้านายเป็นคนไม่จุกจิกกับงานของพนักงานแต่ละคน ผมหมายถึงเรื่องงานในบริษัทนะ ใครทำงานเสร็จ เขาก็ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว ขอให้งานเสร็จเป็นพอ (ตรงนี้เป็นข้อดีของเขานะในความรู้สึกผม)
ปีนี้เท่ากับผมเขียนใบลากิจมา 4 วันแล้ว (ไม่รวมลาป่วยครึ่งวัน 2 ครั้งนะครับ) ก็ใกล้เคียงเป้าหมายของผมแล้วล่ะ คือ 5 วันต่อปี ครั้งละ 1 วันเสาร์ (เหลืออีก 1 ครั้ง ผมกะจะให้เป็นวันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2556 คราวนี้ขอเป็นวันจันทร์ เพราะวันอาทิตย์เป็นวันหยุด ส่วนวันอังคารเป็นวันหยุดสิ้นปีและวันพุธก็เป็นวันขึ้นปีใหม่ ส่วนวันเสาร์ที่ 28 ธันวาคมจะมาทำงานครึ่งวันก่อน เพราะลาวันจันทร์ที่ 30 ไปแล้ว เลยไม่อยากลาวันเสาร์ด้วย จะได้หยุดคาบเกี่ยว 4 วัน อาทิตย์ จันทร์ อังคาร และพุธ ตรงนี้คือที่ตั้งใจไว้ ที่ผ่านมาอยากหยุดวันเสาร์มากกว่า แต่เรื่องหยุดวันจันทร์ ผมขอดูเป็นกรณีไปครับ อย่างเช่นกรณีนี้)
และใบลากิจครั้งที่ 4 ในวันนี้ เจ้านายผมก็เขียนข้อความสั้นๆใส่ใบลากิจของผมกลับมาว่า (เขียนแบบเป๊ะๆ ไม่ตัดแต่งประโยคเลยนะครับ) "คุณลาบ่อยมาก ดูด้วยว่า 1 ปี คุณลากี่วัน"
ทุกอย่างที่เขียนเป็นเรื่องจริงทั้งหมดนะครับ ไม่ได้ใส่สีหรือใส่ไข่อะไร จะเตือนจะว่าผมก็ได้นะครับ เช่นผมก็ไม่ถูกต้องเหมือนกันอะไรอย่างงี้ เผื่อผมจะมีเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเองก็ทำเกินเลยไป (ผมพร้อมรับฟังเหตุผลครับ)
หมายเหตุ ผมอาจใช้คำว่า "ลากิจ"ในการไปเที่ยวของผม (เพราะไม่เคยมีใครในบริษัทลาพักร้อนกันเลย) ถ้าถามว่า เคยมีคนอื่นลาไปเที่ยวไหม ก็มี แต่น้อยคนมากๆในรอบหลายๆปีที่จะลากิจคาบเกี่ยววันหยุดเพื่อไปเที่ยว มีแต่ผมนี่แหละที่มากสุดแล้ว (คือส่วนมากบริษัทหยุดมาแบบไหน ทุกคนก็หยุดตามนั้นน่ะครับ ส่วนใครจะเที่ยวหรือไม่เที่ยว ก็แล้วแต่ตัวบุคคล แต่ถ้าลาป่วย ไม่เป็นไร)
ขอบคุณครับ