ข้อ 47.. Vi & Vs.. อาจมีคนให้ทฤษฎีเล่นหุ้นให้ท่าน เพื่อหวังให้ท่านพ้นจากแมงเม่า พ้นชีวิตรายย่อยที่ถูกเอาเปรียบ แต่ท่านก็ยังขาดทุน เพราะธรรมชาติของจิตจะขัดขวางกฎเกณท์นั้นเสมอ
(อธิบาย...การเล่นหุ้น ก็เหมือนการค้าขายแบบหนึ่ง ต้องมีทุน ต้องวางแผนกลยุทธ เพื่อให้ได้กำไร ทุกขั้นตอนไม่ใช่ผ่านง่าย ๆ แต่ระบบมันทำให้รู้สึกง่าย แค่ซื้อแล้วรอดวง เมื่อขึ้นก็ขาย เมื่อลงก็ซื้อ ความแตกต่างอยู่ที่การกำหนดสูตรที่ดีเหมาะกับตนเอง ดังนั้นตลอดเวลาตัวเราเองจะทำร้ายตัวเองด้วยความคิดความโลภเสมอ ขาดวินัย ละเลยยอมให้ตนเองผ่านสิ่งที่ผิดง่ายๆ จึงมักขาดทุนเป็นนิจ)
ข้อ 48.. Vi &Vs..อย่าซื้อหุ้นเมื่อตลาดซบเซามาก อย่าทำซ๊อตแซลด้วย เพราะมันคือช่วงเวลาเสี่ยงและน่าเบื่อหน่ายในการรอ แต่ก็จำเป็นต้องรอ
(อธิบาย... เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาตลาดซบเซา คือ ไม่มีวอลุ่ม กระแสเงินหายจากตลาด แต่อย่าลืมว่า จำนวนหุ้นที่จดทะเบียน ยังคงอยู่ครบ ดังนั้นหากราคากระเตื้องเพียงเล็กน้อย คนถือหุ้นก็อยากโยนขายให้เต็มที่ ดังนั้น ซื้อได้แต่ขายไม่ออกนอกจากขายขาดทุนเท่านั้น แล้วยังจะซื้ออีก ทำไมไม่ทนรอก่อน )
ข้อ 49 ..Vi &Vs..จำไว้ในสมองอันปราดเปรื่องของท่านว่า โอกาสทำกำไรดีที่สุดคือ ช่วงตลาดตื่นตระหนกและตลาดผันผวน
(อธิบาย ...ตลาดที่ตื่นตระหนก มักไม่มีเหตุผลทั้งตื่นขาย และตื่นซื้อ คนจะมีความกล้าแบบบ้าบิ่น หรือ กลัวจนเหมือนบ้า ดังนั้นจะเกิดราคาพุ่งสูงรวดเร็ว ขายปุ๊บขึ้นต่อปั๊บ แต่เวลาลง ซื้อปุ๊บ ลงต่อปั๊บ การลงมือที่เร็วโดยไม่ไตร่ตรองหรือ มีแผนรองรับ อาจทำให้ขาดทุนกำไรและขาดทุนเงินอย่างรวดเร็วและมากมาย ซึ่งจะส่งผลต่อจิตใจและความคิดมาก ต้องระวังหรือ ทยอยลงมือ ปล่อยเวลาเดินทางนำไปก่อน)
ข้อ 50.. Vi &Vs ..ตลาดตื่นตระหนก คือ ราคาหุ้นเกือบทุกตัวลงพร้อมกัน ด้วยข่าวจริงหรือข่าวลือเหลือเชื่อ ไม่มีเหตุผล หุ้นที่มีปัจจัยคงที่ก็ลงแรงไม่แพ้กัน
(อธิบาย... เวลาที่ตลาดตื่นตระหนก panic จะเกิดจากเหตุใดก็ตาม แรงขายจะกระหน่ำจากรายใหญ่ก่อน ที่ทำให้รายย่อยเห็นแล้วสร้างภาพความกลัวต่อเนื่องเป็นระลอก ทั้งที่รายใหญ่หยุดขาย แต่แรงขายจากรายย่อยเองก็ยังกระทบต่อไป จนกว่าจะเห็นรายใหญ่เข้าช้อนซื้อสวน หลายครั้ง รายย่อยจึงจะหยุด)
ตำราเล่นหุ้น..........(ตอน 11)
(อธิบาย...การเล่นหุ้น ก็เหมือนการค้าขายแบบหนึ่ง ต้องมีทุน ต้องวางแผนกลยุทธ เพื่อให้ได้กำไร ทุกขั้นตอนไม่ใช่ผ่านง่าย ๆ แต่ระบบมันทำให้รู้สึกง่าย แค่ซื้อแล้วรอดวง เมื่อขึ้นก็ขาย เมื่อลงก็ซื้อ ความแตกต่างอยู่ที่การกำหนดสูตรที่ดีเหมาะกับตนเอง ดังนั้นตลอดเวลาตัวเราเองจะทำร้ายตัวเองด้วยความคิดความโลภเสมอ ขาดวินัย ละเลยยอมให้ตนเองผ่านสิ่งที่ผิดง่ายๆ จึงมักขาดทุนเป็นนิจ)
ข้อ 48.. Vi &Vs..อย่าซื้อหุ้นเมื่อตลาดซบเซามาก อย่าทำซ๊อตแซลด้วย เพราะมันคือช่วงเวลาเสี่ยงและน่าเบื่อหน่ายในการรอ แต่ก็จำเป็นต้องรอ
(อธิบาย... เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาตลาดซบเซา คือ ไม่มีวอลุ่ม กระแสเงินหายจากตลาด แต่อย่าลืมว่า จำนวนหุ้นที่จดทะเบียน ยังคงอยู่ครบ ดังนั้นหากราคากระเตื้องเพียงเล็กน้อย คนถือหุ้นก็อยากโยนขายให้เต็มที่ ดังนั้น ซื้อได้แต่ขายไม่ออกนอกจากขายขาดทุนเท่านั้น แล้วยังจะซื้ออีก ทำไมไม่ทนรอก่อน )
ข้อ 49 ..Vi &Vs..จำไว้ในสมองอันปราดเปรื่องของท่านว่า โอกาสทำกำไรดีที่สุดคือ ช่วงตลาดตื่นตระหนกและตลาดผันผวน
(อธิบาย ...ตลาดที่ตื่นตระหนก มักไม่มีเหตุผลทั้งตื่นขาย และตื่นซื้อ คนจะมีความกล้าแบบบ้าบิ่น หรือ กลัวจนเหมือนบ้า ดังนั้นจะเกิดราคาพุ่งสูงรวดเร็ว ขายปุ๊บขึ้นต่อปั๊บ แต่เวลาลง ซื้อปุ๊บ ลงต่อปั๊บ การลงมือที่เร็วโดยไม่ไตร่ตรองหรือ มีแผนรองรับ อาจทำให้ขาดทุนกำไรและขาดทุนเงินอย่างรวดเร็วและมากมาย ซึ่งจะส่งผลต่อจิตใจและความคิดมาก ต้องระวังหรือ ทยอยลงมือ ปล่อยเวลาเดินทางนำไปก่อน)
ข้อ 50.. Vi &Vs ..ตลาดตื่นตระหนก คือ ราคาหุ้นเกือบทุกตัวลงพร้อมกัน ด้วยข่าวจริงหรือข่าวลือเหลือเชื่อ ไม่มีเหตุผล หุ้นที่มีปัจจัยคงที่ก็ลงแรงไม่แพ้กัน
(อธิบาย... เวลาที่ตลาดตื่นตระหนก panic จะเกิดจากเหตุใดก็ตาม แรงขายจะกระหน่ำจากรายใหญ่ก่อน ที่ทำให้รายย่อยเห็นแล้วสร้างภาพความกลัวต่อเนื่องเป็นระลอก ทั้งที่รายใหญ่หยุดขาย แต่แรงขายจากรายย่อยเองก็ยังกระทบต่อไป จนกว่าจะเห็นรายใหญ่เข้าช้อนซื้อสวน หลายครั้ง รายย่อยจึงจะหยุด)