สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
หมายถึง ให้เรียนภาษาอื่น โดยไม่ติดยึดกับภาษาแม่ มั้งครับ
ไม่ใช่ว่าเอะอะอะไร ก็จะจับเทียบกับภาษาแม่ให้หมด
แบบที่เราเคยเรียนกันสมัยเด็ก (เฉพาะบางคน ในบางโรงเรียนนะ)
ที่สอนว่า a = เอ หรือ แอ b= บ n = น
แล้วพอเจอ ban ก็ถอดเป็น บอ-แอ-นอ แบน แบบนี้น่ะ
หรือ ถ้าภาษาญี่ปุ่นก็.... มัวฝังใจว่า a i u e o เป็นสระเสียงสั้น ออกเสียง อะ อิ อุ เอะ โอะ เท่านั้น
พอเจอสระเสียงยาว เช่น u+u ก็ออกเสียง อู แต่ไม่ได้ลากเสียงให้ยาวพอ
เพราะสระเสียงยาวของญี่ปุ่น มันก็คือ มองว่า เป็น ฮิรางานะ ๒ ตัว ก็ต้องออกเสียงให้ยาว สองเท่า จริง ๆ
พอออกเสียง "อู" แต่ไม่ยาว คนญี่ปุ่นก็ฟังว่า เราพูด u อยู่ดี ไม่ใช่ uu เป็นต้น
นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเสียง z tsu g ที่ไม่ตรงกับภาษาไทยตัวไหนเลยนะ
---
สรุป ความเห็นผมคือ ให้ "ลืมชั่วคราว" เฉพาะตอนเรียนภาษาอื่นครับ ในความหมายที่ว่า ไม่ติดยึด ไม่เรียนภาษาอื่น
โดยเอามาอ้างอิงบนพื้นฐานของภาษาแม่อยู่ตลอดเวลา
ไม่ใช่ว่าเอะอะอะไร ก็จะจับเทียบกับภาษาแม่ให้หมด
แบบที่เราเคยเรียนกันสมัยเด็ก (เฉพาะบางคน ในบางโรงเรียนนะ)
ที่สอนว่า a = เอ หรือ แอ b= บ n = น
แล้วพอเจอ ban ก็ถอดเป็น บอ-แอ-นอ แบน แบบนี้น่ะ
หรือ ถ้าภาษาญี่ปุ่นก็.... มัวฝังใจว่า a i u e o เป็นสระเสียงสั้น ออกเสียง อะ อิ อุ เอะ โอะ เท่านั้น
พอเจอสระเสียงยาว เช่น u+u ก็ออกเสียง อู แต่ไม่ได้ลากเสียงให้ยาวพอ
เพราะสระเสียงยาวของญี่ปุ่น มันก็คือ มองว่า เป็น ฮิรางานะ ๒ ตัว ก็ต้องออกเสียงให้ยาว สองเท่า จริง ๆ
พอออกเสียง "อู" แต่ไม่ยาว คนญี่ปุ่นก็ฟังว่า เราพูด u อยู่ดี ไม่ใช่ uu เป็นต้น
นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเสียง z tsu g ที่ไม่ตรงกับภาษาไทยตัวไหนเลยนะ
---
สรุป ความเห็นผมคือ ให้ "ลืมชั่วคราว" เฉพาะตอนเรียนภาษาอื่นครับ ในความหมายที่ว่า ไม่ติดยึด ไม่เรียนภาษาอื่น
โดยเอามาอ้างอิงบนพื้นฐานของภาษาแม่อยู่ตลอดเวลา
แสดงความคิดเห็น
คุณคิดยังไงกับความคิดที่ว่า "การจะเรียนภาษาต่างประเทศ ต้องลืมภาษาแม่"