[กระทู้มุงกองทุน] วันหยุด เสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2556

กระทู้คำถาม
เมื่อคืนหลับ มุงกับเขาไม่ทันครับ ขออนุญาตคุณแก้มอ้น มาตั้งตรงนี้นะครับ
อาทิตย์ที่แล้วคิดว่ามันจะปรับตัวลง ก็เจอปรากฎการณ์ เบนเอฟเฟค
ยินดีด้วยกับคนที่มีของในมือครับ


เงินอ่อนค่าเกือบทั้งภูมิภาค สองอันบนคือ ออสเตรเลีย กับ นิวซีแลนด์ ค่าเงินเขาไป
คนละทางกับของเราอยู่แล้วครับ


ตลาดหุ้นขึ้นเกือบทั้งภูมิภาค ไม่ขึ้นแค่จีน ฮ่องกง เกาหลี


PE 16.50 เท่า
set week +0.86% ปิดที่ 1453.71 จุด
เงินบาทกลับมาอ่อนค่า ตามภูมิภาค
ทองลงมาหน่อย หลังจากขึ้นมา 3 วัน
ต่างชาติซื้อสุทธิตราสาร 1.4 พันล้าน
ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้น 2.2 พันล้าน
จากวันที่ 11/7 กองทุนกับ ป๊อบ ซื้อน้อยลง กองทุนซื้อแค่ 1% ของยอดเมื่อวาน ส่วนป๊อบซื้อแค่ 10% ของยอดเมื่อวาน

คิดว่ารอบนี้ไม่น่าขึ้นไปได้ไกลครับ ข้างล่างอ่านเพลินๆ แล้วกันครับ ตอนนี้ไม่น่าซื้อครับ ถ้ามีจังหวะ น่าขายครับ

วันจันทร์จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีน ก่อนตลาดเปิด ถ้าจีนออกมาแย่ ....
ส่วนตัวเลขของเมกา จะประกาศหลังตลาดปิด ถ้าเมกาออกมาดี.....

1.ในปฐกถา  ตอนแรกที่ตลาดตอบรับเกินคาดเพราะลุงแกพูดกำกวม หลังจากนั้น
พอนักเศรษฐศาสตร์เริ่มออกมาวิเคราะห์คำพูดของลุง จะเห็นว่าลุงเบน ไม่ได้บอกว่าไม่ลดขนาด qe
ลุงแกบอกว่า เฟดอาจจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย ถึงตัวเลขการจ้างงานจะต่ำกว่า 6.5
2.คณะกรรมการเฟด ครึ่งหนึ่งบอกว่ายกเลิก qe อีกครึ่งบอกว่าขอดูตัวเลขก่อน
3.เศรษฐกิจจีนแย่แน่ๆ แต่มากน้อยขนาดไหนยังไม่ทราบ แต่ที่ทราบแน่ๆ คือถ้าจีนแย่ ไทยแย่ด้วย
4.ตัวเลข gdp ไตรมาสสองที่จะประกาศออกมา ถ้า ติดลบ อีกจะเป็นการติดลบติดต่อกันสองไตรมาส
ทำให้ตัวเลขดุลการค้าจะขาดดุล แปลว่า รายได้ น้อยกว่ารายจ่าย
5.สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ลดเป้าดัชนีเหลือ 1569 จุด จากต้นปีที่ประเมินไว้ 1625 จุด
(ดัชนีขึ้นสูงสุดวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 ปิดที่ 1643.43)
ถ้าเราเอา 1569 จุด เป็นจุดสูงสุด ตอนนี้ 1453.71 เท่ากับเหลืออัพไซด์ 7.35% ถือว่าขึ้นไปอีกได้ไม่มาก
6.คนที่ติดดอย เยอะมาก ที่รอขาย เห็นได้จากวันที่ 11 กรกฎา ที่หุ้นขึ้นมา 58 จุด รายย่อยขาย 7 พันล้าน
เมื่อวานขายอีก 2.6 พันล้าน set จะขึ้นลำบากครับ เพราะคนต้นทุนสูงกว่านี้เขารอขายอยู่

ต้องถือว่าไทยจังหวะไม่ค่อยดี เพราะตอนเงินบาทแข็ง เราแข็งมากกว่าคนอื่น
พอเงินอ่อน ก็อ่อนพร้อมกัน และจีนดันแย่อีก ที่เห็นชัดเลยจาก
1.เงินอ่อนคือน้ำมันแพงขึ้น
2.เมื่อน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนแพง ก็จะทำให้ของแพง
3.เมื่อของแพง ก็จะเกิดเงินเฟ้อ
4.เมื่อเกิดเงินเฟ้อ อำนาจซื้อในกระเป๋าก็น้อยลงทำให้คนชะลอจากใช้จ่าย
5.คนชะลอการใช้จ่าย ผลประกอบการของบริษัท ก็จะลดลง

กลยุทธ์ตอนนี้คือ
1.อยู่เฉยๆ สำหรับคนที่ไม่มีกองทุนในมือ
2.ลดความเสี่ยง สำหรับคนที่มีกองทุนในมือ คือทยอยขาย ยอมขาดทุนสักเล็กน้อย
เอาเงินสดมาถือในมือ แล้วค่อยซื้อกลับตอนหุ้นมันลง เพื่อลดความสูงของดอย
3.ใครคิดว่ามันจะขึ้นไปได้อีก ต้องหนีให้เร็ว ถ้ามันเกิดกลับทางขึ้นมา
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
จะพูดว่าอย่างไรดี  จึงจะตรงกับใจของตัวเองที่คิดไว้

คือเราเองลงทุนในกองทุนรวมมานาน  มีระบบการลงทุนของตัวเอง  มีการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ระยะยาวของเราคือ  RMF  ระยะกลางคือ  LTF   ส่วนกองทุนอื่นๆ เราเล่นระยะสั้น  (แต่ก็หลายเดือนอยู่)
ตอนนี้เงินเราแบ่งเป็นสามส่วน   ส่วนนึงลง R & L   ส่วนที่สองลงกองต่างประเทศ  และส่วนที่สามลงกองไทย

กองไทยเรามีงบก้อนนึง  ซึ่ง 70%  ตอนนี้ลงใน MMF  ส่วนกองหุ้นก็ยังแบ่งเป็นถือยาว (กะว่าจะถือยาว)  และเล่นรอบ
สัดส่วนคือ 50:50  (ของ30%)  เพราะเราคิดว่ามีกำลังดูแลได้ทั่วถึงเพียงเท่านี้   และเราคิดว่าเงินอยู่ใน  MMF มันไม่ลดลง
แม้จะเพิ่มน้อย  แต่ก็เพิ่มได้สม่ำเสมอและคล่องตัวกว่าเงินฝากประจำ/ตราสารหนี้ที่ฟิกซ์อายุกองทุน

ที่จัดพอร์ตแบบนี้  เพราะเรามองว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มจะลงมากกว่าขึ้น  และถึงขึ้นก็มี เพดานจำกัด
แต่ถ้าลงมันไม่จำกัด   ดังนั้นเราเล่นรอบเท่าที่เราดูแลไหวจริงๆ  ของคนอื่นๆ ที่ฝากเราลงทุนเราเอาจับใส่ MMF
เกือบหมดแล้วถ้าตลาดมันลงหนักไปแล้ว  ค่อยซื้อกองทุนหุ้นให้เขาก็ยังไม่สาย  

เรามองว่าหลายคนคงติดดอยสูง  ถ้าคิดว่าทำใจได้เหมือนถือ RMF/LTF  ก็ถือต่อไป  และอย่าไปมองมันมากไป
มองแล้ววันไหนมันลงหนัก  อาจตัดสินใจปุ๊บปั๊บคัทลอสขาดทุนมากมาย   ดังนั้นถ้าจะถือยาวๆๆๆๆๆ ต้องหนักแน่นจริงๆ
ถ้าจะเอาตัวอย่างคนที่เขาลงทุนมานาน  ต้นทุนใกล้ศูนย์มาเป็นบรรทัดฐาน  ก็ขอให้ไตร่ตรองให้ดีว่าเงื่อนไขเราเหมือนเขาไหม

ส่วนคนที่ไม่สามารถทนตัวแดงๆ ได้  และไม่มีอาวุธคู่กายเช่นกราฟต่างๆ  อยากเสนอว่าค่อยๆ คัทลอสออกมา จะดีกว่ามั้ย
แต่ไม่ต้องคัทหมดก็ได้  และอย่าคัทตอนมันลงหนักแล้ว  รีบาวน์ก็ค่อยๆ คัทออกมา   ยังพอมีเวลานะคะ

ช่วงนี้เรามองว่าตลาดอาจจะเล่นกันอยู่ในกรอบ  1350 - 1450 -1500  ต้องระมัดระวังค่ะ   ไม่อยากให้คาดหวังว่า
ตลาดจะขึ้นไป 1600 -1700  เพราะอาจจะยากอยู่สักหน่อย   ด้วยสถานการณ์ทั้งภายนอกและภายในบีบบังคับค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
เราขออนุญาตคิดต่างนะว่าทำไมเวลาติดดอยแล้วต้องยอมขาย แล้วทำไมต้องยอมขาดทุน มันคงเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีแน่ๆ เวลาเราตัดใจยอมขายขาดทุน มันเหมือนเราจำใจทำร้ายตัวเองยังไงไม่รู้ ทำไมเราไม่ลงทุนอย่างต่อเนื่องถ้ามีกำลังทรัพย์ มีเงินเย็น หรือ แบ่งมาเป็นเงินออมแบบลงทุน ที่ไม่กระทบกับชีวิตประจำวัน หรือ ยามฉุกเฉิน เพราะการลงทุนช่วงนี้มีผลช่วยให้ต้นทุนจะลดลงบางส่วน ยิ่งการอยู่เฉยๆก็ยิ่งเสียโอกาสในการลงทุนเข้าไปใหญ่ ไม่สะสมการลงทุนช่วงนี้จะไปสะสมและเริ่มตอนไหน ถ้าตลาดฟื้นตัวในอนาคต เดี๋ยวก็มารู้งี้กันอีกและ ถ้ายอมขายขาดทุนเพื่อหวังมาเข้าซื้อตอนราคาลดลง แล้วจะลดลงจริงหรือไม่ เมื่อไหร่ หรือ ไม่มีอีก ไม่มีทางรู้ ถ้าเงินเย็นก็สะสมความมั่งคั่งไปเรื่อยๆ สบายใจดี อย่าไปกระวนตามข่าวมากเลย มันมีทั้งข่าวจริง ข่าวไม่จริง ปนเปกันไป เราว่าเสียเวลาในชีวิตประจำวัน และ ส่งผลต่อสุขภาพจิตเสียด้วยซ้ำ ถ้าเราคล้อยตามมากไป หรือ ฟังมากไป
เราเพียงมองว่าการเข้า-ออก ตลาดบ่อยครั้งจนเกินไปมันเท่ากับนำตัวเองเข้าหาความเสี่ยงบ่อยครั้งเท่านั้น หมายถึงโอกาสพลาดพลั้งมันก็จะมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ถ้าเราคาดการณ์จังหวะผิด

ด้วยรักและหวังดีต่อเพื่อนมุงกองทุนทุกท่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่