บังเอิญเผลอใจ..
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตบ้างหรือเปล่า.. เคยคิดไหมว่าคู่ชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร..
แม้เรื่องราวความรักจะเกิดขึ้นได้ไม่ว่ากับใคร.. แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ตั้งใจหรือแค่เผลอใจ
แล้วความรักของคุณล่ะ..เป็นแบบไหนกันบ้าง?
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกหน้าต่างสร้างความอบอุ่นกำลังดีไม่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นเยียบจนเกินไป ผ้าม่านสีขาวสว่างพัดพลิ้วตามแรงลมจากเครื่องปรับอากาศที่เปิดทำงานมาแล้วทั้งคืน หญิงสาวนอนขดกายภายใต้ผ้มห่มผืนหนาหลับตาพริ้มพลางระบายยิ้มน้อยๆ พร้อมขยับตัวเคลื่อนไหวบนหมอนข้าง นึกถึงความฝันที่ดูคล้ายจะเป็นเรื่องราวเปี่ยมสุขสำหรับเธอ
รอยสัมผัสจากจุมพิตที่ฝากไว้ตามเรือนร่างยังคงอบอุ่นไม่จางหายตลอดคืนที่ผ่านมา ความเร่าร้อนในรสสวาทยังตราตรึงความรู้สึกราวกับมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่แค่ฝันไป ความคลับคล้ายคลับคลาของบุคคลแปลกหน้าทำให้เธออยากพบเจอเขาอีกครั้งหากมันเป็นไปได้อย่างใจต้องการ หลงใหลใฝ่หาลีลาและท่วงท่าอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนสักครั้ง นี่หรือเปล่าสัมพันธ์ทางกายที่ใครหลายคนให้คำจำกัดความ..ร่วมรัก
“โอ้ย.. ปวดหัวเป็นบ้า!”
เสียงทุ้มต่ำดังผ่านโสตประสาทในยามกึ่งหลับกึ่งฝัน ภาพความทรงจำวาบหวามยังทำให้ติดอยู่ในโลกมายาไม่อยากตื่น หากยังนอนอยู่บนเตียงนิ่มๆ ไม่ใช่กอดก่ายร่างกายของใครบางคนที่ขยับเคลื่อนไหวจนทำให้รู้สึกตัวพร้อมลืมตาพบเจอความจริง แผงอกกว้างและร่างกายเปลือยเปล่าทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวพลางคว้าผ้าห่มพันรอบกายโดยอัตโนมัติ ใบหน้าคมสันของชายหนุ่มหน้าตาดีนอนกุมขมับจนคิ้วหนาขมวดชนกัน ทำให้เธอย้อนคิดความจำกลับไปยังคืนวานที่ผ่านมา
ภาพคนเมาสองคนนั่งปรับทุกข์ปรึกษาปัญหาหัวใจซึ่งต่างฝ่ายต่างถูกคนรักทำร้ายจนบอบช้ำ แอลกอฮอล์สีชาถูกยกดื่มแก้วต่อแก้วจนเรียกได้ว่าเมาหัวราน้ำ ทำให้เธอนึกได้ในทันทีชีวิตนี้พลาดไปเสียแล้ว ร่างกายไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ภายใต้ผ้าห่มเริ่มเย็นวาบสลับร้อนรุ่มคล้ายคนกำลังจะเป็นไข้ สายตากวาดมองชายหนุ่มเบื้องหน้าที่ขยับเคลื่อนไหวแต่ยังไม่ยอมตื่นเต็มตาเสียทีเดียว คงเป็นเขาคนนั้น คนแปลกหน้าซึ่งอยู่ในสภาพอกหักไม่ต่างกันเมื่อคืนนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังสับสนและไม่เข้าใจคือเธอกับเขาตกลงปลงใจกันอย่างไรถึงมานอนร่วมห้องภายในสถานที่ซึ่งดูอย่างไรก็คือโรงแรมชัดเจน
จบสิ้นแล้วในความพลาดพลั้งครั้งใหญ่หลวง หญิงสาวพ่นลมหายใจหนักหน่วงก่อนเก็บเสื้อผ้าและชั้นในที่วางเกลื่อนเตียงซุกใต้ผ้าห่มก่อนขยับลงเหยียบพื้นห้องโดยไม่ใส่ใจเขาคนนั้นว่าตื่นหรือหลับอย่างไร ประตูห้องน้ำถูกแง้มเปิดอย่างเบาแรง หญิงสาวถอนใจอีกครั้งราวกับแบกโลกหนักๆ ไว้ทั้งใบ พร้อมหรือยังกับการทำภารกิจส่วนตัวก่อนออกจากสถานที่ผิดพลาดเสียที เธอได้แต่ถามตัวเอง
ร่วมครึ่งชั่วโมงที่ความปวดปร่ายึดครองสมองจนทนนอนต่อไม่ไหว ชายหนุ่มดึงร่างกายลุกขึ้นในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนโดยมีหมอนหนุนไว้ด้านหลัง สันฝ่ามือตบกระแทกศีรษะเบาๆ เพื่อเรียกสติคืนมา เมื่อเปลือกตาเปิดกว้างจนมองเห็นรอบบริเวณ รวมทั้งสภาพล่อนจ้อนของตัวเอง จึงเกิดเป็นคำถามในใจ..อยู่ไหน ความสับสนปนเปสงสัยวิ่งพล่านในสมองทำให้งุนงงหนักกว่าเดิมอีกเท่าตัว นึกไม่ออกจริงๆ ว่าตัวเองมานอนอยู่ในที่แปลกตาได้อย่างไร และความคิดต้องหยุดชะงักเมื่อประตูด้านข้างเปิดกว้างพร้อมหญิงสาวในชุดสูทกระโปรงสั้นระดับหัวเข่าย่างกรายออกมา
“เห้ย!!”
หมอนสีขาวใกล้มือถูกคว้าปิดร่างกายท่อนล่างอย่างตกตะลึงคล้ายถูกผีหลอกกลางวันแสกๆ คำถามที่สองวิ่งตามมา..เธอคือใคร รวมทั้งอีกหลากหลายคำถามที่ยังนึกไม่ออกและไม่ทันได้ซักถาม แม้แต่ดึงสติที่กระเจิดกระเจิงให้กลับมายังยากเย็น เธอกลับไม่มองไม่เห็นทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน กระเป๋าแบรนด์เนมใบกำลังเหมาะถูกสะพายพาดไหล่ก่อนก้าวเดินยังประตูทางออกและหยุดฝีเท้าลงตรงนั้นชั่วครู่ โดยไม่หันหลังกลับมาระหว่างการเจรจากับเขา
“ลืมเรื่องวันนี้ให้หมด ทำเหมือนเราสองคนไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่ต้องอยากรู้ ไม่ต้องสงสัย เพราะฉันก็จะทำอย่างนั้นเหมือนกัน”
ประตูเปิดพร้อมหญิงสาวก้าวออกไป มีเพียงความว่างเปล่าและความสับสนทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ชายหนุ่มนั่งนิ่งคล้ายแปลงร่างเป็นหินและอยากระเบิดตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับเธอเมื่อคืนนี้ พิษสงของน้ำเมาช่างรุนแรงร้ายกาจขนาดทำให้ความจำเลอะเลือนจนนึกอะไรไม่ออกเชียวหรือ ชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างหนักจนเวลานี้รู้สึกว่าสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง
โปรดติดตามตอนต่อไป
เกิดความคิดอยากเขียนเรื่องสั้น หัดบรรยายให้เห็นภาพมากกว่าประโยคสนทนา
มีอะไรแนะนำติเตือนได้เหมือนเดิมนะคะ บังเอิญเผลอใจคงเป็นเรื่องราวเรียบๆ
ไม่พ้นเรื่องโรแมนติกของชายหญิงอีกแล้วมั้งเนี้ย
บังเอิญเผลอใจ... (1)
บังเอิญเผลอใจ..
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตบ้างหรือเปล่า.. เคยคิดไหมว่าคู่ชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร..
แม้เรื่องราวความรักจะเกิดขึ้นได้ไม่ว่ากับใคร.. แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ตั้งใจหรือแค่เผลอใจ
แล้วความรักของคุณล่ะ..เป็นแบบไหนกันบ้าง?
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกหน้าต่างสร้างความอบอุ่นกำลังดีไม่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นเยียบจนเกินไป ผ้าม่านสีขาวสว่างพัดพลิ้วตามแรงลมจากเครื่องปรับอากาศที่เปิดทำงานมาแล้วทั้งคืน หญิงสาวนอนขดกายภายใต้ผ้มห่มผืนหนาหลับตาพริ้มพลางระบายยิ้มน้อยๆ พร้อมขยับตัวเคลื่อนไหวบนหมอนข้าง นึกถึงความฝันที่ดูคล้ายจะเป็นเรื่องราวเปี่ยมสุขสำหรับเธอ
รอยสัมผัสจากจุมพิตที่ฝากไว้ตามเรือนร่างยังคงอบอุ่นไม่จางหายตลอดคืนที่ผ่านมา ความเร่าร้อนในรสสวาทยังตราตรึงความรู้สึกราวกับมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่แค่ฝันไป ความคลับคล้ายคลับคลาของบุคคลแปลกหน้าทำให้เธออยากพบเจอเขาอีกครั้งหากมันเป็นไปได้อย่างใจต้องการ หลงใหลใฝ่หาลีลาและท่วงท่าอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนสักครั้ง นี่หรือเปล่าสัมพันธ์ทางกายที่ใครหลายคนให้คำจำกัดความ..ร่วมรัก
“โอ้ย.. ปวดหัวเป็นบ้า!”
เสียงทุ้มต่ำดังผ่านโสตประสาทในยามกึ่งหลับกึ่งฝัน ภาพความทรงจำวาบหวามยังทำให้ติดอยู่ในโลกมายาไม่อยากตื่น หากยังนอนอยู่บนเตียงนิ่มๆ ไม่ใช่กอดก่ายร่างกายของใครบางคนที่ขยับเคลื่อนไหวจนทำให้รู้สึกตัวพร้อมลืมตาพบเจอความจริง แผงอกกว้างและร่างกายเปลือยเปล่าทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวพลางคว้าผ้าห่มพันรอบกายโดยอัตโนมัติ ใบหน้าคมสันของชายหนุ่มหน้าตาดีนอนกุมขมับจนคิ้วหนาขมวดชนกัน ทำให้เธอย้อนคิดความจำกลับไปยังคืนวานที่ผ่านมา
ภาพคนเมาสองคนนั่งปรับทุกข์ปรึกษาปัญหาหัวใจซึ่งต่างฝ่ายต่างถูกคนรักทำร้ายจนบอบช้ำ แอลกอฮอล์สีชาถูกยกดื่มแก้วต่อแก้วจนเรียกได้ว่าเมาหัวราน้ำ ทำให้เธอนึกได้ในทันทีชีวิตนี้พลาดไปเสียแล้ว ร่างกายไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ภายใต้ผ้าห่มเริ่มเย็นวาบสลับร้อนรุ่มคล้ายคนกำลังจะเป็นไข้ สายตากวาดมองชายหนุ่มเบื้องหน้าที่ขยับเคลื่อนไหวแต่ยังไม่ยอมตื่นเต็มตาเสียทีเดียว คงเป็นเขาคนนั้น คนแปลกหน้าซึ่งอยู่ในสภาพอกหักไม่ต่างกันเมื่อคืนนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังสับสนและไม่เข้าใจคือเธอกับเขาตกลงปลงใจกันอย่างไรถึงมานอนร่วมห้องภายในสถานที่ซึ่งดูอย่างไรก็คือโรงแรมชัดเจน
จบสิ้นแล้วในความพลาดพลั้งครั้งใหญ่หลวง หญิงสาวพ่นลมหายใจหนักหน่วงก่อนเก็บเสื้อผ้าและชั้นในที่วางเกลื่อนเตียงซุกใต้ผ้าห่มก่อนขยับลงเหยียบพื้นห้องโดยไม่ใส่ใจเขาคนนั้นว่าตื่นหรือหลับอย่างไร ประตูห้องน้ำถูกแง้มเปิดอย่างเบาแรง หญิงสาวถอนใจอีกครั้งราวกับแบกโลกหนักๆ ไว้ทั้งใบ พร้อมหรือยังกับการทำภารกิจส่วนตัวก่อนออกจากสถานที่ผิดพลาดเสียที เธอได้แต่ถามตัวเอง
ร่วมครึ่งชั่วโมงที่ความปวดปร่ายึดครองสมองจนทนนอนต่อไม่ไหว ชายหนุ่มดึงร่างกายลุกขึ้นในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนโดยมีหมอนหนุนไว้ด้านหลัง สันฝ่ามือตบกระแทกศีรษะเบาๆ เพื่อเรียกสติคืนมา เมื่อเปลือกตาเปิดกว้างจนมองเห็นรอบบริเวณ รวมทั้งสภาพล่อนจ้อนของตัวเอง จึงเกิดเป็นคำถามในใจ..อยู่ไหน ความสับสนปนเปสงสัยวิ่งพล่านในสมองทำให้งุนงงหนักกว่าเดิมอีกเท่าตัว นึกไม่ออกจริงๆ ว่าตัวเองมานอนอยู่ในที่แปลกตาได้อย่างไร และความคิดต้องหยุดชะงักเมื่อประตูด้านข้างเปิดกว้างพร้อมหญิงสาวในชุดสูทกระโปรงสั้นระดับหัวเข่าย่างกรายออกมา
“เห้ย!!”
หมอนสีขาวใกล้มือถูกคว้าปิดร่างกายท่อนล่างอย่างตกตะลึงคล้ายถูกผีหลอกกลางวันแสกๆ คำถามที่สองวิ่งตามมา..เธอคือใคร รวมทั้งอีกหลากหลายคำถามที่ยังนึกไม่ออกและไม่ทันได้ซักถาม แม้แต่ดึงสติที่กระเจิดกระเจิงให้กลับมายังยากเย็น เธอกลับไม่มองไม่เห็นทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน กระเป๋าแบรนด์เนมใบกำลังเหมาะถูกสะพายพาดไหล่ก่อนก้าวเดินยังประตูทางออกและหยุดฝีเท้าลงตรงนั้นชั่วครู่ โดยไม่หันหลังกลับมาระหว่างการเจรจากับเขา
“ลืมเรื่องวันนี้ให้หมด ทำเหมือนเราสองคนไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่ต้องอยากรู้ ไม่ต้องสงสัย เพราะฉันก็จะทำอย่างนั้นเหมือนกัน”
ประตูเปิดพร้อมหญิงสาวก้าวออกไป มีเพียงความว่างเปล่าและความสับสนทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ชายหนุ่มนั่งนิ่งคล้ายแปลงร่างเป็นหินและอยากระเบิดตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับเธอเมื่อคืนนี้ พิษสงของน้ำเมาช่างรุนแรงร้ายกาจขนาดทำให้ความจำเลอะเลือนจนนึกอะไรไม่ออกเชียวหรือ ชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างหนักจนเวลานี้รู้สึกว่าสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง
โปรดติดตามตอนต่อไป
เกิดความคิดอยากเขียนเรื่องสั้น หัดบรรยายให้เห็นภาพมากกว่าประโยคสนทนา
มีอะไรแนะนำติเตือนได้เหมือนเดิมนะคะ บังเอิญเผลอใจคงเป็นเรื่องราวเรียบๆ
ไม่พ้นเรื่องโรแมนติกของชายหญิงอีกแล้วมั้งเนี้ย