คือจขกท.ก็ปฎิบัติธรรมมาได้ประมาณนึงนะคะ
ความคิดที่กำลังสับสนตอนนี้คือประมาณว่า ....
เวลาเห็นข่าวใดๆ หรือเหตุการณ์ใดๆ ยกตัวอย่างเช่น ข่าวการเมือง
จขกท.ก็มองเป็นเฉยๆ รับรู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น
ในใจก็คิดว่า มันเป็นแบบนี้เพราะมันก็มีเหตุแบบนี้ แบบที่ทำให้มันเป็นไป
แต่จขกท.ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกใดอย่างจริงจัง (อาจมีบ้างเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย พอใจ ไม่พอใจ)
ไม่ได้คิดว่าจะต้องไปมีส่วนร่วมในการคัดค้าน หรือวิพากวิจารณ์
ก็รู้สึกว่า สบายดี เราก็ไม่ได้เอาจิตเราเข้าไปขุ่นมัวกับเรื่องพวกนั้น เน้นดูแลใจตัวเองให้ดีก่อน
จขกท.ก็แอบสบายใจว่า อืม ... เราคงปล่อยวางเรื่องต่างๆได้เก่งขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิบัติธรรม
แต่บางคนก็ว่า ประเทศของเรา เราต้องช่วยกันคัดค้านคนที่ทำผิด ให้ทำผิดได้ยากขึ้น etc
บางคนก็ว่า คนดี ต้องร่วมกันต่อต้านความชั่ว อะไรแบบนี้
จขกท.ก็เริ่มสับสนขึ้นมา ว่าการที่เราเพิกเฉย ไม่ได้ทำอะไรกับใครเค้าบ้าง เป็นการเห็นแก่ตัวรึเปล่า
อยากขอความคิดเห็นเพื่อนๆห้องศาสนา ว่าเราควรวางใจอย่างไร และทำตัวอย่างไร
ประมาณนี้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ^_^
เส้นแบ่งระหว่างคำว่า ปล่อยวาง กับ เห็นแก่ตัว
ความคิดที่กำลังสับสนตอนนี้คือประมาณว่า ....
เวลาเห็นข่าวใดๆ หรือเหตุการณ์ใดๆ ยกตัวอย่างเช่น ข่าวการเมือง
จขกท.ก็มองเป็นเฉยๆ รับรู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น
ในใจก็คิดว่า มันเป็นแบบนี้เพราะมันก็มีเหตุแบบนี้ แบบที่ทำให้มันเป็นไป
แต่จขกท.ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกใดอย่างจริงจัง (อาจมีบ้างเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย พอใจ ไม่พอใจ)
ไม่ได้คิดว่าจะต้องไปมีส่วนร่วมในการคัดค้าน หรือวิพากวิจารณ์
ก็รู้สึกว่า สบายดี เราก็ไม่ได้เอาจิตเราเข้าไปขุ่นมัวกับเรื่องพวกนั้น เน้นดูแลใจตัวเองให้ดีก่อน
จขกท.ก็แอบสบายใจว่า อืม ... เราคงปล่อยวางเรื่องต่างๆได้เก่งขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิบัติธรรม
แต่บางคนก็ว่า ประเทศของเรา เราต้องช่วยกันคัดค้านคนที่ทำผิด ให้ทำผิดได้ยากขึ้น etc
บางคนก็ว่า คนดี ต้องร่วมกันต่อต้านความชั่ว อะไรแบบนี้
จขกท.ก็เริ่มสับสนขึ้นมา ว่าการที่เราเพิกเฉย ไม่ได้ทำอะไรกับใครเค้าบ้าง เป็นการเห็นแก่ตัวรึเปล่า
อยากขอความคิดเห็นเพื่อนๆห้องศาสนา ว่าเราควรวางใจอย่างไร และทำตัวอย่างไร
ประมาณนี้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ^_^