ชะตากรรมข้าวไทยบนเวทีโลก หยุดเล่นการเมือง "สุมไฟเผาบ้านตัวเอง"




ขณะที่ถนนทุกสายจับจ้องไปที่การจัดทัพปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชนิด “ล้างไพ่” ของรัฐบาล โดยเฉพาะการจัดทัพรัฐมนตรีเศรษฐกิจใหม่เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย “รับจำนำข้าวทุกเมล็ด” ที่ถือเป็นนโยบายหาเสียงหลักของรัฐบาลให้เดินหน้าต่อไปได้

หลังนโยบายดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่ “สั่นคลอน” เสถียรภาพของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และหวิดทำเอารัฐบาลล้มทั้งยืนมาแล้ว

แต่แม้จะมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “ยกเครื่อง” กันไปแล้ว แต่การขุดคุ้ยประเด็นอื้อฉาวในโครงการรับจำนำข้าวดังกล่าวยังคงถูกตีแผ่ออกมาไม่จบสิ้น ทั้งเรื่องผลขาดทุนเรื่องการทุจริตในกระบวนการรับจำนำ รวมถึงปัญหาสต๊อกข้าวรัฐ ทั้งข่าวจริง ข่าวลือ ข่าวลวง ที่ยังคงทะลักท่วมท้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นที่ถูกโพสต์ ถูกแชร์กันใน “โลกออนไลน์” ว่า มีการสับเปลี่ยนเอาข้าวสารไร้คุณภาพ เอาข้าวเน่า ข้าวเสื่อมคุณภาพเข้ามาสวมรอยในโครงการรับจำนำ รวมทั้งการประโคมข่าวว่าข้าวของไทยไม่ปลอดภัย เป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ มีการรมสารรมยาฆ่าแมลงจนเกินมาตรฐานที่จะนำไปบริโภคได้ และลุกลามไปจนถึงว่า หน่วยงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (USFDA) กักข้าวของไทยไว้เพื่อตรวจสอบ

แม้เรื่องนี้จะได้รับการปฏิเสธจากผู้เกี่ยวข้องอย่างหนักแน่น ว่า “ไม่เป็นความจริง” แต่ดูเหมือนจะยังไม่สามารถสยบเจ้ากรมข่าวลือที่ว่านี้ได้ จนหลายฝ่ายแสดงความห่วงใยว่า คู่ค้า ผู้นำเข้าข้าวของไทยในหลายประเทศทั่วโลกจะ “วิตกกังวล” ถึงประเด็นนี้แค่ไหน

“ทีมเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในวงการข้าว รวมถึงผู้รับผิดชอบเพื่อชี้แจงข้อสงสัยถึงคุณภาพข้าวไทยว่า แท้จริงเป็นอย่างไรกันแน่ และที่มาที่ไปกรณีอื้อฉาวที่ว่านี้เป็นไปอย่างไร ดังนี้ :

วอนอย่าดึงการเมืองทุบหม้อข้าว

เริ่มจาก นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่เคยสร้างความฮือฮากับวลีสุดฮิต “ปลาบู่ชนเขื่อน” ได้กล่าวถึงกระแสข่าวที่โจมตีคุณภาพข้าวไทย และมีข่าวถึงขั้นสหรัฐฯ จะกักกันข้าวไทยทุกตู้คอนเทนเนอร์เพื่อตรวจสอบว่า

“ข่าวที่เกิดขึ้น มองว่าคนบางกลุ่มเอารายงานที่หน่วยงานไทยในต่างประเทศ รายงานเข้ามายังกระทรวงไปขยายผลไปทางไม่ดี เป็นการผสมโรงกับข่าวข้าวที่เป็นเรื่องเป็นราวอยู่ในขณะนี้ ทำให้ภาพลักษณ์ของโครงการรับจำนำ และข้าวในสต๊อกของรัฐบาลเสียหาย”

การตรวจสอบของ USFDA นั้นมีการตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็มีสินค้าไทยถูกกักไว้ตรวจสอบ แต่ก็เป็นสินค้าของผู้ส่งออกเฉพาะราย เฉพาะลอต ไม่ใช่ทุกตู้คอนเทนเนอร์ และไม่ใช่ผู้ส่งออกทุกราย ประเทศอื่นๆ ก็ถูกตรวจสอบเหมือนกัน ไม่ได้ถูกกักกันเฉพาะข้าวไทยหรือสินค้าไทยรายเดียว

นอกจากนี้ ยังมองว่า การค้าในโลกปัจจุบัน เป็นการอาศัยจังหวะ โอกาส เวลา ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะมีการฉวยโอกาสปล่อยข่าวโจมตีข้าวไทยอยู่เรื่อยๆ เพื่อหวังผลประโยชน์ ซึ่งในบ้านเราก็มีพวกปล่อยข่าวในลักษณะนี้อยู่มาก คนพวกนี้มักมีโอกาสพูดอย่างต่อเนื่อง พูดบ่อยๆ เข้า คนก็เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

“โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลถูกโจมตีมาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการเมือง เพราะความสำเร็จของพรรคเพื่อไทยอยู่ที่โครงการรับจำนำข้าว จึงต้องการนำเสนอข่าวว่าโครงการนี้ล้มเหลว ขาดทุนมหาศาล มีการทุจริตคอรัปชันมาก หวังจะให้ล้มเลิกโครงการ”

อย่างไรก็ตาม แม้โครงการรับจำนำข้าวจะ “ขาดทุน” แต่อยากให้ทุกฝ่ายตระหนักและมองอีกมุม เหตุใดไม่มองว่า โครงการนี้เป็นการลงทุนเพื่อเกษตรกร เหมือนโครงการอื่นๆ ของรัฐ อย่างการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าเป็นแสนล้านบาท หรือการซื้อรถเมล์มาให้บริการประชาชนที่รัฐบาลไม่ได้อะไรเลย

“โครงการอย่างนี้ แม้รัฐขาดทุน 100% แต่ก็เป็นการลงทุนเพื่อประชาชน จึงไม่สนว่าได้ กำไรหรือขาดทุน กับชาวนารัฐบาลก็ทำในทำนองเดียวกัน เพราะชาวนายังต้องการความช่วยเหลือ แต่กลับไม่มีใครมองมุมนั้น ทุกคนมองว่า โครงการรับจำนำทำให้รัฐขาดทุนเหมือนกันหมด เหตุใดไม่มองว่า โครงการนี้ก็เป็นการลงทุนให้ชาวนา”


http://www.thairath.co.th/column/eco/ecoscoop/355700

=============================
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่