เมื่อวานนี้ไปทานข้าวที่ร้านเนื้อย่างแห่งหนึ่งแถวซอยนวลจันทร์ ทั้งที่ทำงานอยู่แถวนี้มานานแต่เพิ่งได้แวะเข้ามากิน ด้วยเพราะทางเข้าร้านที่มืดๆ และร้านก็โดนชื่อเสียงของโคขุนบดบังรัศมีเสียหมดสิ้น

เรื่องรสชาติอาหารเราค่อนข้างติดใจทั้งคุณภาพและบริการของร้านมากๆ ค่ะ แม้จะไม่มีบุฟเฟต์เหมือนหลายๆ ร้าน แต่เราก็โอเคในระดับหนึ่งในราคาที่ไม่แพงมาก

ระหว่างกำลังนั่งรออาหารมาเสิร์ฟ เพื่อนเราก็ได้กลิ่นบุหรี่ เลยหันมองหาต้นตอ ก็ไปเห็นชาย (ฉะกัน) กลุ่มหนึ่งกำลังสูบบุหรี่ระหว่างสังสรรค์ตามประสาชาย (ฉะกัน) พร้อมด้วยขวดเหล้าและมิกซ์เซอร์เต็มโต๊ะ

คิดว่าก็คงเป็นธรรมดาของร้านเนื้อย่าง ส้มตำ อาหารอีสานทั่วไป ที่จะมีคนมานั่งกินเหล้าเบียร์เคล้าเนื้อย่างกันแบบนี้ แล้วสูบบุหรี่ไปด้วย ถ้าเราไม่บังเอิญหันไปเห็นป้ายนี้ค่ะ



เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่แพ้บุหรี่และก็รู้สึกว่า หลายๆ ร้านก็แบ่งโซนสำหรับลูกค้าที่สูบและไม่สูบอย่างชัดเจน เลยค่อนข้างมีอารมณ์เล็กน้อย ว่าทำไมลูกค้ากลุ่มนั้นไม่ทำตาม ทั้งที่ กฎหมายก็ระบุชัดเจนว่าให้ร้านอาหารแบ่งโซน และร้านก็มีป้ายขึ้นแจ้งลูกค้าไว้แล้วด้วย เลยเรียกเด็กเสิร์ฟมาถาม น้องเค้าก็อ้ำๆ อึ้งๆ

เจ้าของร้านเลยเดินมาถามว่ามีอะไรคะ เราเลยถามว่า ที่ร้านขึ้นป้ายห้ามสูบบุหรี่ไม่ใช่เหรอคะ ???

สิ่งที่เราได้ยินกลับมาก็คือว่า "อ๋อ ขึ้นป้ายไว้อย่างนั้นแหล่ะค่ะ เอาไว้หลอกเจ้าหน้าที่เวลาเค้ามาตรวจ จริงๆ แล้วสูบได้ค่ะ !!!!!!!!!!!!!!"

แม่เจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

คือ ก็เข้าใจอะนะคะ ว่าอิชั้นเป็นแค่ลูกค้าที่ไม่กินเหล้าเคล้าเนื้อย่าง ที่คุณจะขายได้เรื่อยๆ มากินอิ่มแล้วก็กลับ

แต่ถ้าคุณจะเอาใจแต่ลูกค้าขี้เหล้า โดยไม่สนใจที่จะรักษาสิทธิของลูกค้ามากินอิ่มแบบอิชั้นเนี่ย มันเกินไปรึเปล่าคะ

เราขอขอบคุณหลายๆ ร้านมากเลยนะคะ ที่รักษาสิทธิและสุขภาพของลุกค้า และรักษากฎหมายไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

ต่อให้อาหารของร้านคุณอร่อยแค่ไหน แต่ถ้ามัวแต่เอาใจลูกค้าขาประจำเฉพาะกลุ่ม โดยไม่สนใจลูกค้ากลุ่มอื่นแบบนี้ เราก็คงขอโบกมือลาดีกว่าค่ะ