เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 4.2-5.2 ในปีพ.ศ. 2556 เนื่องจากการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ และปรับตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชียและเศรษฐกิจโลก โดยมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นในปี พ.ศ. 2557 อีกประมาณร้อยละ 4.0-5.0 หอการค้าอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตามนโยบายรัฐ LOOK EAST ที่มองศักยภาพของตลาดประเทศในแถบเอเชีย และเล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทยในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนร่วมกัน เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 จึงได้วางแผนจัดงานแสดงสินค้าและบริการจากประเทศตุรกีขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย หรือ 1st Turkish Products Exhibition in Thailand โดยมอบหมายให้บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่นส์ ออกาไนเซอร์ จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบด้านการจัดงานและการตลาด
นายปณิธาน บำราศอรินทร์พ่าย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานจัดการประชุม บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และรักษาการผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่นส์ ออกาไนเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ประเทศตุรกีเป็นหนึ่งประเทศที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากความสัมพันธ์ของไทยและตุรกีนั้นมีมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี รวมทั้งมีนโยบายสนับสนุนด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและตุรกีที่ชัดเจน รวมทั้งพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการจัดงานแสดงสินค้าและบริการจากประเทศตุรกี หรือ 1st Turkish Products Exhibition in Thailand ครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้แก่นักลงทุนในการดำเนินธุรกิจร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการโดยตรง รวมทั้งเปิดโลกทัศน์การดำเนินธุรกิจในประเทศใหม่ๆ อย่างประเทศตุรกี ให้แก่นักธุรกิจไทยที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพและราคาที่สามารถแข่งขัน เพื่อให้สามารถเติบโตได้ต่อไปในตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึง”
งานแสดงสินค้าและบริการจากประเทศตุรกี หรือ 1st Turkish Products Exhibition in Thailand จัดขึ้นระหว่าง 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ กรุงเทพฯ ภายในงานจะมีการจัดแสดงเทคโนโลยี เครื่องมือ นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการค้าและการลงทุนในประเทศตุรกี โดย หอการค้าอิสตันบลู ประเทศตุรกี ได้นำสินค้าและบริการจากหน่วยงานภาครัฐ สมาคม และองค์กรธุรกิจมาจัดแสดงจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ อาทิ อาหาร เครื่องจักร เทคโนโลยี เครื่องมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ เครื่องครัว ของตกแต่ง การท่องเที่ยว เวชภัณฑ์ สุขภาพ ความงาม เสื้อผ้าและแฟชั่น เป็นต้น
“สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการที่โดดเด่น มีชื่อเสียง และปัจจุบันไทยได้นำเข้าจากประเทศตุรกีมากที่สุด ได้แก่ เครื่องจักรกล เรือ อัญมณี เงินและทองแท่ง เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องประดับ และสิ่งทอด้วยคุณภาพและราคา จึงทำให้ตลาดเหล่านี้เป็นที่ต้องการมากในประเทศไทย ดังนั้น หากนักธุรกิจ นักลงทุน หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจ ยังนึกไม่ออกว่าจะทำธุรกิจใดดีกับประเทศตุรกีสามารถเข้ามาศึกษาได้ในงานดังกล่าว” นายปณิธาน กล่าวเสริม
ด้านเศรษฐกิจและการค้าของประเทศตุรกีท่ามกลางกระแสการชุมนุมประท้วงรัฐบาล ณ ปัจจุบัน นายปณิธาน บำราศอรินทร์พ่าย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานจัดการประชุม บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และรักษาการผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่นส์ ออกาไนเซอร์ จำกัด กล่าวว่า “ผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศตุรกีแน่นอน แต่ในด้านความสัมพันธ์ นโยบายการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับตุรกียังคงเหมือนเดิม และมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่นับปัญหาการชุมนุมประท้วง ปัจจุบัน ตุรกีมี GDP ที่เติบโตเร็วมาก แม้ว่าจะมีปัญหาจากวิกฤตยูโรโซน (EuroZone) ทำให้ตุรกีได้รับผลกระทบบ้าง เพราะภาคอุตสาหกรรมหลักเชื่อมโยงกับฝั่งยุโรป แต่ก็ยังมีตัวเลขการเจริญเติบโตที่น่าสนใจ โดยคาดการณ์ว่าตุรกีจะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในประเทศกลุ่ม "โออีซีดี (OECD* – Organization for Economic Co-operation and Development) ภายในปี พ.ศ. 2559 (องค์กรระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และยอมรับระบอบประชาธิปไตยและเศรษฐกิจการค้าเสรีในการร่วมกันและพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภายุโรปและโลก มีสมาชิกประเทศยุโรปตะวันตกจำนวน 19 ประเทศ เป็นผู้ลงนาม ได้แก่ ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, กรีซ, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, นอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์ ,โปรตุเกส, อังกฤษ, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, สหรัฐอเมริกา,เยอรมนีตะวันตกและแคว้นอิสระของตรีเอสเต)“
ไทยเนื้อหอม หอการค้าอิสตันบูลจับตลาดไทย เปิดโอกาสนักธุรกิจรุ่นใหม่ Go Inter
นายปณิธาน บำราศอรินทร์พ่าย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานจัดการประชุม บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และรักษาการผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่นส์ ออกาไนเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ประเทศตุรกีเป็นหนึ่งประเทศที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากความสัมพันธ์ของไทยและตุรกีนั้นมีมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี รวมทั้งมีนโยบายสนับสนุนด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและตุรกีที่ชัดเจน รวมทั้งพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการจัดงานแสดงสินค้าและบริการจากประเทศตุรกี หรือ 1st Turkish Products Exhibition in Thailand ครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้แก่นักลงทุนในการดำเนินธุรกิจร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการโดยตรง รวมทั้งเปิดโลกทัศน์การดำเนินธุรกิจในประเทศใหม่ๆ อย่างประเทศตุรกี ให้แก่นักธุรกิจไทยที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพและราคาที่สามารถแข่งขัน เพื่อให้สามารถเติบโตได้ต่อไปในตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึง”
งานแสดงสินค้าและบริการจากประเทศตุรกี หรือ 1st Turkish Products Exhibition in Thailand จัดขึ้นระหว่าง 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ กรุงเทพฯ ภายในงานจะมีการจัดแสดงเทคโนโลยี เครื่องมือ นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการค้าและการลงทุนในประเทศตุรกี โดย หอการค้าอิสตันบลู ประเทศตุรกี ได้นำสินค้าและบริการจากหน่วยงานภาครัฐ สมาคม และองค์กรธุรกิจมาจัดแสดงจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ อาทิ อาหาร เครื่องจักร เทคโนโลยี เครื่องมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ เครื่องครัว ของตกแต่ง การท่องเที่ยว เวชภัณฑ์ สุขภาพ ความงาม เสื้อผ้าและแฟชั่น เป็นต้น
“สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการที่โดดเด่น มีชื่อเสียง และปัจจุบันไทยได้นำเข้าจากประเทศตุรกีมากที่สุด ได้แก่ เครื่องจักรกล เรือ อัญมณี เงินและทองแท่ง เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องประดับ และสิ่งทอด้วยคุณภาพและราคา จึงทำให้ตลาดเหล่านี้เป็นที่ต้องการมากในประเทศไทย ดังนั้น หากนักธุรกิจ นักลงทุน หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจ ยังนึกไม่ออกว่าจะทำธุรกิจใดดีกับประเทศตุรกีสามารถเข้ามาศึกษาได้ในงานดังกล่าว” นายปณิธาน กล่าวเสริม
ด้านเศรษฐกิจและการค้าของประเทศตุรกีท่ามกลางกระแสการชุมนุมประท้วงรัฐบาล ณ ปัจจุบัน นายปณิธาน บำราศอรินทร์พ่าย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานจัดการประชุม บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และรักษาการผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่นส์ ออกาไนเซอร์ จำกัด กล่าวว่า “ผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศตุรกีแน่นอน แต่ในด้านความสัมพันธ์ นโยบายการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับตุรกียังคงเหมือนเดิม และมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่นับปัญหาการชุมนุมประท้วง ปัจจุบัน ตุรกีมี GDP ที่เติบโตเร็วมาก แม้ว่าจะมีปัญหาจากวิกฤตยูโรโซน (EuroZone) ทำให้ตุรกีได้รับผลกระทบบ้าง เพราะภาคอุตสาหกรรมหลักเชื่อมโยงกับฝั่งยุโรป แต่ก็ยังมีตัวเลขการเจริญเติบโตที่น่าสนใจ โดยคาดการณ์ว่าตุรกีจะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในประเทศกลุ่ม "โออีซีดี (OECD* – Organization for Economic Co-operation and Development) ภายในปี พ.ศ. 2559 (องค์กรระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และยอมรับระบอบประชาธิปไตยและเศรษฐกิจการค้าเสรีในการร่วมกันและพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภายุโรปและโลก มีสมาชิกประเทศยุโรปตะวันตกจำนวน 19 ประเทศ เป็นผู้ลงนาม ได้แก่ ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, กรีซ, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, นอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์ ,โปรตุเกส, อังกฤษ, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, สหรัฐอเมริกา,เยอรมนีตะวันตกและแคว้นอิสระของตรีเอสเต)“