วิถีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ บ้านเรา ลุยกัน
แบบหน้ามืดจนใกล้จะถึงจุดเผาบ้านไล่หนูตัวเดียว น่าจะดูกรณี
ของแคเมอรูนที่โดนฟีฟ่าแบนเป็นรายล่าสุด เป็นอุทาหรณ์นะครับ

          แทบไม่น่าเชื่อว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของตัวบุคคลที่
นายอิยา โมฮัมเหม็ด นายกสมาคมฟุตบอลแคเมอรูน ได้รับเลือกตั้ง
เป็นนายกสมัยที่ 2 เมื่อเดือนก่อนตามครรลอง ไม่สามารถจะปฏิบัติงานได้
เพราะเขาโดนเจ้าหน้าที่ทางการจับ (ย่อมผ่านกระบวนการออกหมายศาล
และตำรวจ) ในข้อหามีความผิดทางการเงิน

           พอกระบวนการฟุตบอลในประเทศของแคเมอรูน ถูก “ฟรีซ”
ในข้อกฎหมายเล่นงานตัวนายกฯ วิถีลูกหนังดำเนินต่อไปไม่ได้ ยังไม่มี
อะไรขยับ ฟีฟ่าสั่งแบนฟุตบอลแคเมอรูนออกไปจากวงการฟุตบอลสากล
ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ทีมชาติ, สโมสรเกมอุ่นเครื่องใดๆ มีผลปฏิบัติทันที

           ฟีฟ่าใช้กฎ “บุคคลที่ 3” เข้ามาก้าวก่ายการบริหารจัดการฟุตบอลภายใต้ร่มของฟีฟ่า
ขนาดที่ว่า มือที่สาม ในวิถีลูกหนังแคเมอรูนคือ รัฐบาล (กระบวนการกฎหมายจับกุม ที่ต้องมีอำนาจศาล อัยการ
และการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ) ก็ฟีฟ่ายังไม่สนใจ

        คำสั่งนี้จะถูกยกเลิกก็ต่อเมื่อภาครัฐ “เปิดช่องทาง” ให้บอร์ดบริหารสมาคมฟุตบอลแคเมอรูนบริหารจัดดำเนิน
การตามกฎระเบียบฟีฟ่าจนเป็นที่เรียบร้อยน่าพอใจก่อน

         แต่ถ้าปัญหายังคาราคาซัง ทำกันเองไม่ได้ ฟีฟ่าก็จะจัดตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษเข้ามาดำเนินการเพื่อวิถีลูกหนัง
ของแคเมอรูนดำเนินการต่อไป ในปลายเดือนมีนาคม 2014 ปีหน้า

         อันหมายความว่า ถ้าแคเมอรูนไม่ขยับอะไรในเรื่องวิถีฟุตบอล ก็จะเป็น “สูญญากาศ” ถูกตัดขาดจากโลก
ลูกหนัง 9 เดือนเต็ม

         คนที่น่ากระอักเลือดก็คือ แคเมอรูนมีโอกาสเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2014 ตัวแทนโซนแอฟริกา ด้วยก่อนหน้า
นี้แข่งในรอบคัดเลือกกับโตโก ถึงแคเมอรูนจะแพ้คาบ้าน (0-2) แต่โตโกโดนฟีฟ่าปรับให้แพ้ เพราะส่งนักเตะขาดคุณสมบัติลง
เล่น แคเมอรูนได้ 3 แต้มฟรี นำโด่งในสาย

          หากจะไม่มีประโยชน์อันใดเลย ถ้าโดนแบนไป 9 เดือน
นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดว่า ฟีฟ่าเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจเฉียบขาดเสมอ กับประเทศสมาชิกที่มีปัญหาภายใน
กันเอง ทำให้วงการลูกหนังประเทศถึงทางตัน ขยับไม่ได้

          ฟีฟ่ามีหน้าที่จรรโลงวิถีลูกหนังทั้งโลกให้เดินไปร่วมกัน ถ้าที่ไหนติดขัด ก็ต้อง “ทุบ” อย่างนี้ เพื่อให้อยู่ใน
ระเบียบวิถี เพื่อให้กีฬาฟุตบอลทั้งโลกก้าวหน้า ดำเนินต่อไปอย่างมีมาตรฐาน

          ไม่ใช่ ฟีฟ่าพ่อใคร หรือ ฟีฟ่ายื่นจมูกมาแส่อะไรกับวิถีฟุตบอลภายในประเทศคนอื่นที่เขามีกฎหมายกีฬาของตัวเอง
เรื่องภายในของแคเมอรูนยังน้อยกว่าบ้านเรา ที่เป็นเรื่องของการชิงตำแหน่งนายกฯ ของคนสองฟากสองฝ่าย
ที่อีกฝ่ายอิงฟีฟ่า ดึงเกมไปยังจุดที่ต้องการ อีกฝ่ายใช้วิธี “ดับเครื่องชน” ลุยเละทั้งภาพลักษณ์ตัวบุคคล ทั้งใช้ “ช่องโหว่”
หรือ “ช่องว่าง” ระหว่างกฎหมาย เพื่อให้อีกฝ่ายหมดความชอบธรรม

           วิถีที่เกิดขึ้นในบ้านเราในเดือนสองเดือนที่ผ่านมา เข้าข่ายประเด็น “บุคคลที่ 3” ในกฎฟีฟ่าแทบทั้งนั้น ไม่ว่า
การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวในภาคขององค์กรรัฐที่รักษากฎพระราชบัญญัติ (ที่ย่อมมีอำนาจเต็มภายในราช
อาณาจักรไทย แต่ข้ามแดนไทยไปก็ไม่ใช่แล้ว)

การฟ้องศาลปกครอง ของสโมสรฟุตบอลที่ฟ้องไปแล้วถอนไปแล้ว กับการขู่ว่าจะฟ้องอีกคำรบสอง ให้สมาคม
ฟุตบอลฯ ภายใต้ร่มของฟีฟ่าเป็นจำเลย

          ปฏิกิริยาที่ฟีฟ่ามีต่อประเทศไทย นับว่า “นิ่มนวล” กว่าประเทศอื่นๆ ที่มีปัญหาเยอะ
ยิ่งเทียบกับแคเมอรูนแล้ว สถานภาพของฟุตบอลประเทศไทยยังถือว่าจิ๊บจ๊อยกว่าแคเมอรูนเยอะ
แคเมอรูนสร้างมาตรฐานฟุตบอลระดับหัวกะทิของทวีปแอฟริกา มีส่วนทำเงินมหาศาลร่วมกับฟีฟ่า ฐานะทีมที่เข้า
รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกมาก็หลายครั้งแล้ว

          ขณะที่บอลไทยเราคุยว่าเป็นเจ้าภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ก็ไม่ใช่แล้ว
ฟีฟ่ายัง “ฟัน” แคเมอรูน ไม่กะพริบตา แบบโขกโป๊ก เอายางหัวออกเห็นๆ
แต่กับไทย ฟีฟ่ายังอดทน เทียวไล้เทียวขื่อ ชี้แจง เจรจา ออกกำหนดการให้สารพัด
ทำไม คุณวรวีร์ มะกูดี จะต้องอ้างฟีฟ่า ฟีฟ่า ขอความโปร่งใสจากฟีฟ่า และแสดงเจตนาในหลักการของฟีฟ่า
จนโดนด่า เอาฟีฟ่ามาละเมิดกฎหมายไทย เอาฟีฟ่าเป็นพ่อ อะไรก็ฟีฟ่า ฟีฟ่าอยู่นั่น

         นั่นก็เพราะต้องยันเจตนารมณ์ว่า วงการฟุตบอลไทยไม่ได้ทำผิดกฎกติกา ไม่เปิดช่องว่างให้ฟีฟ่าที่เป็นองค์กรกีฬา
อำนาจระดับโลก ฟันกลางกบาลโป๊ะทีเดียวยางออกหัวกันทั้งยวง

          ผมว่า ถ้าไม่ใช่คุณวรวีร์ที่มีความเก๋ามีประสบการณ์สูงบนวิถีลูกหนังสากล ไม่ใช่เพราะคุณวรวีร์มีความอดทนสูง
ยังรั้งดึงเชือกสุดๆ ไม่ให้ฟีฟ่าลงดาบที่เงื้อง่า

          ป่านนี้ วงการฟุตบอลไทยก็ต้องโดนอย่างที่แคเมอรูนโดน หรือเผลอๆ โดนก่อนไปตั้งนานแล้ว
          จริงๆ นะครับ บางทีผมยังนึกอยากบอกคุณวรวีร์ว่า...พี่ทั้งโดนขี่คอขย่ม ถูกเอาภาพหน้าไปเช็ดตีนถึงขนาดนั้น
พี่ยังจะเหนี่ยวเชือกรั้งฟีฟ่าทำไม ปล่อยมือไปเถอะ
ใครนึกถึงบุญคุณพี่มั่ง ไม่มีหรอก

           คนเรานะครับ ต่อให้จะสะใจอย่างไร มันก็เจ็บหัวเวลาเลือดยางหัวออก
           หากวิถีฟุตบอลไทยโดยรวมจะ เลือดยางหัวออก แบบเดียวกับ แคเมอรูน
        ใครเป็นคนกระทำ จะเป็นจำเลยสังคม จะโดนด่า (อย่างหยาบคาย) แบบคุณวรวีร์โดนไหม?

ยอดทอง

http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=301571.new#new