6 ข้อหลักที่บังยีแถลงการณ์ก่อนเลือกนายกฯสมาคม
มาไล่ไทม์ไลน์สำคัญ 8 สิงหา เชิญตัวแทน FIFA มาชี้แจงอีกครั้ง / 9 สิงหา เปิดประชุมเรื่องธรรมนูญใหม่ และ 23 กันยา ดีเดย์เลือกตั้ง
จาก :
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/130705_438.html
===================================================
วรวีร์ มะกูดี ตั้งโต๊ะแถลงการณ์ 6 ข้อสอดคล้องน้อมรับคำสั่งฟีฟ่าทุกกระเบียด 8 ส.ค.56 เชิญผู้แทนฟีฟ่าชี้แจงธรรมนูญใหม่ ต่อด้วย 9 ส.ค.56 เปิดประชุมพิจารณาธรรมนูญใหม่ ส่วนวันเลือกตั้งยังคงเดิม 23 ก.ย.56 ยันชัดสมาชิก 108 เสียงที่เข้าชื่อหวังจัดเลือกตั้งเองเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ เพราะถือเป็นการฝ่าฝืนมติฟีฟ่าที่เซตไว้แล้วว่าจะต้องมีการเปิดรับรองธรรมนูญใหม่ก่อนการเลือกตั้ง อยู่ดีๆ จะมาเลือกตั้งเลยไม่ได้ หากเกิดขึ้นจริงถือเป็นเรื่องเสี่ยงที่จะถูกลงโทษแบนจากฟีฟ่า
วรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย วีระ คำมี ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ, องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ, วิมล กาญจนะ ประธานจัดการแข่งขันเอไอเอสลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2, พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม สภากรรมการฯ ร่วมตั้งโต๊ะออกแถลงการณ์แสดงความชัดเจนว่า จะไม่ทำตามหนังสือร้องขอของสมาชิกจำนวน 108 เสียงที่ใช้สิทธิ์ตามข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พ.ศ.2546 (ฉบับปัจจุบัน) ข้อ 21.1 เพื่อให้เปิดประชุมเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ภายในวันที่ 23 ก.ค.56 ซึ่งงานแถลงครั้งนี้จัดขึ้นที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอล เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ก.ค.56
วรวีร์ มะกูดี ออกแถลงการณ์ 6 ข้อหลัก เพื่อยืนยันการบริหารจัดการสมาคมฟุตบอลฯ สำหรับการเลือกตั้งนายกคนใหม่ประกอบด้วย
1.ยืนยันกำหนดการ 9 สิงหาคม 2556 เพื่อประชุมพิจารณาธรรมนูญใหม่ โดยจะมีการเปิดเวทีอธิบายอีกครั้งในวันที่ 8 สิงหาคม 2556 เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งจะมีผู้แทนของฟีฟ่าร่วมชี้แจงในครั้งนี้ด้วย
2.กำหนดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ วันที่ 23 กันยายน 2556 เป็นไปตามกรอบเวลาที่ฟีฟ่าได้กำหนดไว้
3.การดำเนินการตามกำหนดการทั้งหมดนี้ ก็เป็นไปตามข้อบังคับ ข้อ4.4 ที่สมาคมฟุตบอลฯ จะต้องดำเนินการตามหน้าที่สมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี)
4.สำหรับการมายื่นขอเปิดประชุมพิเศษ และให้มีการเลือกตั้งของสมาชิกของสมาคมฯซึ่งมีจำนวนสมาชิก 1 ใน 3 (108 เสียง) ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดนั้น สมาคมฯ ได้มีหนังสือแจ้งให้สมาชิกได้ทราบว่า สมาคมฯ ไม่สามารถดำเนินการฝ่าฝืนมติของฟีฟ่าได้ เพราะฟีฟ่าได้กำหนดชัดเจนว่า จะต้องมีการพิจารณารับรองธรรมนูญข้อบังคับใหม่เสียก่อน จึงจะกำหนดให้มีการเลือกตั้งได้ ซึ่งเรื่องนี้สมาคมฯ ขอยืนยันว่าสมาคมฯ ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับที่ให้อำนาจสมาคมฯ ดำเนินการได้
5.สมาคมฯ ขอเน้นย้ำว่าสมาคมฯ ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย และข้อบังคับทุกอย่าง และสภากรรมการของสมาคมฯ ก็มีอำนาจตีความตามข้อบังคับ ตามข้อบังคับลักษณะปกครองของสมาคมฯ ข้อ 16
6.สมาคมฯ ขอความร่วมมือจากสมาชิกให้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของสมาคมฯ ตามธรรมนูญของฟีฟ่าข้อ 13 ซึ่งว่าด้วยหน้าที่ของสมาชิก โดยข้อบังคับดังนี้ 13.1 กำหนดไว้ว่า-สมาชิกมีหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ให้สอดคล้องกับธรรมนูญ กฎข้อบังคับ ข้อกำหนด มติ คำตัดสินต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยองค์คณะของฟีฟ่า-สมาชิกของฟีฟ่าต้องให้สมาชิกของตนเอง ปฏิบัติตามธรรมนูญ ข้อบังคับ ข้อกำหนด มติ คำตัดสินของคณะกรรมการต่างๆ ของฟีฟ่า-สมาชิกมีหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดให้สอดคล้องกับธรรมนูญข้อบังคับเหล่านี้ และระเบียบข้อบังคับอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วน 13.2 กำหนดไว้ว่า "การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของสมาชิก อาจนำไปสู่การลงโทษต่างๆ ที่กำหนดไว้ในธรรมนูญข้อบังคับนี้"
วีระ คำมี ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ ได้เผยเพิ่มเติมด้วยว่า "ตามที่คุณวรวีร์ มะกูดี ถูกโจมตีเรื่องการพ้นสภาพการเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ แล้วใช้อำนาจในทางไม่ชอบนั้น ข้อกฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจนว่า คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ทำงานต่อไปในช่วงนี้ แม้จะหมดวาระไปแล้วก็ตาม ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการรักษาการ คุณวรวีร์ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายเหมือนอย่างที่หลายคนเข้าใจ อีกทั้งตามกฎหมาย กกท. มาตรา 8 ระบุว่า กกท.ก่อตั้งมาเพื่อให้ความร่วมมือ และส่งเสริมสนับสนุนสมาคมกีฬา กกท.จะต้องให้ความร่วมมือองค์กรกีฬาระหว่างประเทศอย่างฟีฟ่าด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามถึงประเด็นที่ อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสร "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอให้มีการเปิดประชุมใหญ่พิเศษ เสนอญัตติเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล แทนคนเก่าที่หมดวาระ ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จำนวน 108 เสียง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะมีความผิดหรือไม่ ซึ่งวรวีร์มะกูดีเผยว่า
ทางสมาคมฟุตบอลฯ ได้มีการทำหนังสือ แจ้งไปให้กับสมาชิกสโมสรรับทราบแล้วว่า สามารถทำได้ แต่ไม่สามารถดำเนินการที่ฝ่าฝืนมติของฟีฟ่าได้ เพราะถ้าหากมีการกระทำตามที่สโมสรสมาชิกได้ยื่นหนังสือเข้ามา และให้มีการจัดการเลือกตั้งวันที่ 23 ก.ค.นี้ คงจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เนื่องจากต้องรอการจัดตั้งรัฐธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่า อีกทั้งในข้อปฏิบัติทางสมาคมฟุตบอลฯ จะต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียมาสู่ประเทศไทย
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึงประเด็นที่มีสมาชิกหลายทีม เตรียมถอนชื่อออกจากหนังสือร้องขอให้มีการเปิดประชุมใหญ่พิเศษ หลังจากที่มีการล่ารายชื่อมาได้ 108 เสียง เนื่องจากมีสโมสรท้วงมาว่าไม่ทราบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในการลงนามดังกล่าว ว่าจะนำมาสู่การเลือกตั้งวันที่ 23 ก.ค.นี้ โดย วรวีร์ มะกูดี กล่าวว่า
"เรายังคงเคารพเรื่องเสียงของสโมสรสมาชิกที่ได้ทำการยื่นเข้ามา ซึ่งหลังจากที่มีการตรวจสอบไปแล้ว เราก็ได้ทำหนังสือแจ้งกลับไปถึงข้อบังคับต่างๆ ของทางสมคมฟุตบอลฯ ที่สามารถแก้ไขได้เนื่องจากไม่ใช่กฎหมาย แต่ทั้งนี้เรากำลังทำไปตามที่ฟีฟ่าได้กำหนดออกมา"
สุดท้ายผู้สื่อข่าวได้มีการซักถาม วรวีร์ มะกูดี ถึงเรื่องหนังสือจากสมาคมฟุตบอลฯ ที่ได้ส่งไปยังการกีฬาแห่งปะเทศไทย ในเรื่องของการเลือกตั้ง ว่า ได้รับการตอบกลับมาหรือยัง ซึ่งเจ้าบอกว่า "ยังไม่ทราบเช่นกันว่าทาง กกท.จะตอบมาเมื่อไร แต่เราก็แสดงเจตนารมณ์ไปแล้วว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คงจะต้องให้ฟีฟ่า เป็นผู้มารับรองธรรมนูญใหม่เสียก่อน"
ขณะเดียวกัน "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ได้เผยถึงประเด็นต่อเนื่องจากกรณีที่ฟีฟ่าสั่งแบนสมาคมฟุตบอลแคเมอรูนอย่างไร้กำหนดหลังจากถูกรัฐแทรกแซง ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจส่งผลกระทบกับผู้เล่นชาวแคเมอรูนที่ค้าแข้งอยู่ในลีกอาชีพเมืองไทยในอนาคตด้วยว่า "สมาคมฟุตบอลได้รับหนังสือแจ้งมาจากทางฟีฟ่าถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่เราจะต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัยถึงคำสั่งที่ฟีฟ่าสั่งแบนอีกครั้งว่าจะมีผลกระทบครอบคลุมถึงตัวผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ในต่างแดนหรือไม่อย่างไร หากสุดท้ายผลวินิจฉัยออกมาว่าผู้เล่นแคเมอรูนถูกสั่งแบนตามสมาคมฯ ด้วยแล้วนั้น เราก็คงจะต้องหาวิธีแก้ไขกันต่อไป"
วรวีร์แถลงย้ำรับคำสั่งฟีฟ่ายืนตามเดิมวันเลือกตั้ง23ก.ย.นี้
มาไล่ไทม์ไลน์สำคัญ 8 สิงหา เชิญตัวแทน FIFA มาชี้แจงอีกครั้ง / 9 สิงหา เปิดประชุมเรื่องธรรมนูญใหม่ และ 23 กันยา ดีเดย์เลือกตั้ง
จาก : http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/130705_438.html
===================================================
วรวีร์ มะกูดี ตั้งโต๊ะแถลงการณ์ 6 ข้อสอดคล้องน้อมรับคำสั่งฟีฟ่าทุกกระเบียด 8 ส.ค.56 เชิญผู้แทนฟีฟ่าชี้แจงธรรมนูญใหม่ ต่อด้วย 9 ส.ค.56 เปิดประชุมพิจารณาธรรมนูญใหม่ ส่วนวันเลือกตั้งยังคงเดิม 23 ก.ย.56 ยันชัดสมาชิก 108 เสียงที่เข้าชื่อหวังจัดเลือกตั้งเองเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ เพราะถือเป็นการฝ่าฝืนมติฟีฟ่าที่เซตไว้แล้วว่าจะต้องมีการเปิดรับรองธรรมนูญใหม่ก่อนการเลือกตั้ง อยู่ดีๆ จะมาเลือกตั้งเลยไม่ได้ หากเกิดขึ้นจริงถือเป็นเรื่องเสี่ยงที่จะถูกลงโทษแบนจากฟีฟ่า
วรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย วีระ คำมี ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ, องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ, วิมล กาญจนะ ประธานจัดการแข่งขันเอไอเอสลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2, พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม สภากรรมการฯ ร่วมตั้งโต๊ะออกแถลงการณ์แสดงความชัดเจนว่า จะไม่ทำตามหนังสือร้องขอของสมาชิกจำนวน 108 เสียงที่ใช้สิทธิ์ตามข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พ.ศ.2546 (ฉบับปัจจุบัน) ข้อ 21.1 เพื่อให้เปิดประชุมเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ภายในวันที่ 23 ก.ค.56 ซึ่งงานแถลงครั้งนี้จัดขึ้นที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอล เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ก.ค.56
วรวีร์ มะกูดี ออกแถลงการณ์ 6 ข้อหลัก เพื่อยืนยันการบริหารจัดการสมาคมฟุตบอลฯ สำหรับการเลือกตั้งนายกคนใหม่ประกอบด้วย
1.ยืนยันกำหนดการ 9 สิงหาคม 2556 เพื่อประชุมพิจารณาธรรมนูญใหม่ โดยจะมีการเปิดเวทีอธิบายอีกครั้งในวันที่ 8 สิงหาคม 2556 เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งจะมีผู้แทนของฟีฟ่าร่วมชี้แจงในครั้งนี้ด้วย
2.กำหนดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ วันที่ 23 กันยายน 2556 เป็นไปตามกรอบเวลาที่ฟีฟ่าได้กำหนดไว้
3.การดำเนินการตามกำหนดการทั้งหมดนี้ ก็เป็นไปตามข้อบังคับ ข้อ4.4 ที่สมาคมฟุตบอลฯ จะต้องดำเนินการตามหน้าที่สมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี)
4.สำหรับการมายื่นขอเปิดประชุมพิเศษ และให้มีการเลือกตั้งของสมาชิกของสมาคมฯซึ่งมีจำนวนสมาชิก 1 ใน 3 (108 เสียง) ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดนั้น สมาคมฯ ได้มีหนังสือแจ้งให้สมาชิกได้ทราบว่า สมาคมฯ ไม่สามารถดำเนินการฝ่าฝืนมติของฟีฟ่าได้ เพราะฟีฟ่าได้กำหนดชัดเจนว่า จะต้องมีการพิจารณารับรองธรรมนูญข้อบังคับใหม่เสียก่อน จึงจะกำหนดให้มีการเลือกตั้งได้ ซึ่งเรื่องนี้สมาคมฯ ขอยืนยันว่าสมาคมฯ ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับที่ให้อำนาจสมาคมฯ ดำเนินการได้
5.สมาคมฯ ขอเน้นย้ำว่าสมาคมฯ ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย และข้อบังคับทุกอย่าง และสภากรรมการของสมาคมฯ ก็มีอำนาจตีความตามข้อบังคับ ตามข้อบังคับลักษณะปกครองของสมาคมฯ ข้อ 16
6.สมาคมฯ ขอความร่วมมือจากสมาชิกให้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของสมาคมฯ ตามธรรมนูญของฟีฟ่าข้อ 13 ซึ่งว่าด้วยหน้าที่ของสมาชิก โดยข้อบังคับดังนี้ 13.1 กำหนดไว้ว่า-สมาชิกมีหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ให้สอดคล้องกับธรรมนูญ กฎข้อบังคับ ข้อกำหนด มติ คำตัดสินต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยองค์คณะของฟีฟ่า-สมาชิกของฟีฟ่าต้องให้สมาชิกของตนเอง ปฏิบัติตามธรรมนูญ ข้อบังคับ ข้อกำหนด มติ คำตัดสินของคณะกรรมการต่างๆ ของฟีฟ่า-สมาชิกมีหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดให้สอดคล้องกับธรรมนูญข้อบังคับเหล่านี้ และระเบียบข้อบังคับอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วน 13.2 กำหนดไว้ว่า "การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของสมาชิก อาจนำไปสู่การลงโทษต่างๆ ที่กำหนดไว้ในธรรมนูญข้อบังคับนี้"
วีระ คำมี ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ ได้เผยเพิ่มเติมด้วยว่า "ตามที่คุณวรวีร์ มะกูดี ถูกโจมตีเรื่องการพ้นสภาพการเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ แล้วใช้อำนาจในทางไม่ชอบนั้น ข้อกฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจนว่า คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ทำงานต่อไปในช่วงนี้ แม้จะหมดวาระไปแล้วก็ตาม ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการรักษาการ คุณวรวีร์ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายเหมือนอย่างที่หลายคนเข้าใจ อีกทั้งตามกฎหมาย กกท. มาตรา 8 ระบุว่า กกท.ก่อตั้งมาเพื่อให้ความร่วมมือ และส่งเสริมสนับสนุนสมาคมกีฬา กกท.จะต้องให้ความร่วมมือองค์กรกีฬาระหว่างประเทศอย่างฟีฟ่าด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามถึงประเด็นที่ อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสร "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอให้มีการเปิดประชุมใหญ่พิเศษ เสนอญัตติเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล แทนคนเก่าที่หมดวาระ ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จำนวน 108 เสียง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะมีความผิดหรือไม่ ซึ่งวรวีร์มะกูดีเผยว่า
ทางสมาคมฟุตบอลฯ ได้มีการทำหนังสือ แจ้งไปให้กับสมาชิกสโมสรรับทราบแล้วว่า สามารถทำได้ แต่ไม่สามารถดำเนินการที่ฝ่าฝืนมติของฟีฟ่าได้ เพราะถ้าหากมีการกระทำตามที่สโมสรสมาชิกได้ยื่นหนังสือเข้ามา และให้มีการจัดการเลือกตั้งวันที่ 23 ก.ค.นี้ คงจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เนื่องจากต้องรอการจัดตั้งรัฐธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่า อีกทั้งในข้อปฏิบัติทางสมาคมฟุตบอลฯ จะต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียมาสู่ประเทศไทย
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึงประเด็นที่มีสมาชิกหลายทีม เตรียมถอนชื่อออกจากหนังสือร้องขอให้มีการเปิดประชุมใหญ่พิเศษ หลังจากที่มีการล่ารายชื่อมาได้ 108 เสียง เนื่องจากมีสโมสรท้วงมาว่าไม่ทราบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในการลงนามดังกล่าว ว่าจะนำมาสู่การเลือกตั้งวันที่ 23 ก.ค.นี้ โดย วรวีร์ มะกูดี กล่าวว่า
"เรายังคงเคารพเรื่องเสียงของสโมสรสมาชิกที่ได้ทำการยื่นเข้ามา ซึ่งหลังจากที่มีการตรวจสอบไปแล้ว เราก็ได้ทำหนังสือแจ้งกลับไปถึงข้อบังคับต่างๆ ของทางสมคมฟุตบอลฯ ที่สามารถแก้ไขได้เนื่องจากไม่ใช่กฎหมาย แต่ทั้งนี้เรากำลังทำไปตามที่ฟีฟ่าได้กำหนดออกมา"
สุดท้ายผู้สื่อข่าวได้มีการซักถาม วรวีร์ มะกูดี ถึงเรื่องหนังสือจากสมาคมฟุตบอลฯ ที่ได้ส่งไปยังการกีฬาแห่งปะเทศไทย ในเรื่องของการเลือกตั้ง ว่า ได้รับการตอบกลับมาหรือยัง ซึ่งเจ้าบอกว่า "ยังไม่ทราบเช่นกันว่าทาง กกท.จะตอบมาเมื่อไร แต่เราก็แสดงเจตนารมณ์ไปแล้วว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คงจะต้องให้ฟีฟ่า เป็นผู้มารับรองธรรมนูญใหม่เสียก่อน"
ขณะเดียวกัน "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ได้เผยถึงประเด็นต่อเนื่องจากกรณีที่ฟีฟ่าสั่งแบนสมาคมฟุตบอลแคเมอรูนอย่างไร้กำหนดหลังจากถูกรัฐแทรกแซง ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจส่งผลกระทบกับผู้เล่นชาวแคเมอรูนที่ค้าแข้งอยู่ในลีกอาชีพเมืองไทยในอนาคตด้วยว่า "สมาคมฟุตบอลได้รับหนังสือแจ้งมาจากทางฟีฟ่าถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่เราจะต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัยถึงคำสั่งที่ฟีฟ่าสั่งแบนอีกครั้งว่าจะมีผลกระทบครอบคลุมถึงตัวผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ในต่างแดนหรือไม่อย่างไร หากสุดท้ายผลวินิจฉัยออกมาว่าผู้เล่นแคเมอรูนถูกสั่งแบนตามสมาคมฯ ด้วยแล้วนั้น เราก็คงจะต้องหาวิธีแก้ไขกันต่อไป"