กรณีศึกษาจาก"เณรคำ"เป็นจุดเสื่อมที่เด่นชัดที่สุดของคณะสงฆ์ในไทยใช่รึไม่?

เป็นข่าวฉาวโฉ่ขึ้นทุกวัน กรณี "หลวงปู่เณรคำ" ซึ่งเรื่องราวสะเทือนวงการสงฆ์ครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็น่าแปลกที่เรากลับไม่นำบทเรียนเหล่านี้ มาเป็นภูมิคุ้มกันได้อย่างจริงๆจังๆ
  
           ดิฉันได้สนทนาเรื่องนี้กับผู้ที่คลุกคลีในวงการสงฆ์ ผู้ที่ร่วมทำธุรกรรมในแวดวงนี้ และมีความใกล้ชิดอย่างมากกับพระผู้ใหญ่ ซึ่งก็น่าแปลกที่ว่า บุคคลผู้นี้กลับมีแนวคิดที่แสดงให้เห็นถึง "เหตุที่มา" และ "ผลที่ได้" พร้อมปัจจัยแวดล้อมต่างๆ อย่างเป็นระบบ
  
           ถ้าเปิดใจให้กว้างอ่านสิ่งที่ผู้เคยถูกต้องโทษคนนี้ดู แล้วจะเข้าใจว่า "หลักคิด" นั้นสำคัญกว่า "ตัวบุคคล" ซึ่งต่างจากที่เราเชื่อและบูชากันอยู่ !!  
   .......................................

           พระพุทธศาสนามีคำพยากรณ์ไว้ว่า จะสิ้นอายุเมื่อ 5,000 ปี ปัจจุบันผ่านมา 2,600 ปีแล้ว มีระบุไว้ว่า พระพุทธศาสนาจะเสื่อมสูญโดยค่อยๆ เสื่อม เข่น การเสื่อมในสัญลักษณ์ของพระภิกษุสงฆ์นั่นคือผ้าเหลือง พระธรรมคำสั่งสอน สุดท้ายก็เสื่อมไปถึงพระพุทธสัญลักษณ์ อันได้แก่พระพุทธรูปต่างๆ
  
           คำว่า "พุท-ธะ" แปลว่า รู้ และคำว่า "ศา-สะ-นะ " แปลว่า สอน ดังนั้นพระพุทธศาสนาก็หมายความว่า "การสอนให้รู้" เป็นการสอนให้รู้แจ้ง รู้จริง รู้ดี รู้ชั่ว รู้ถูก รู้ผิดนั่นเอง
  
           กรณีของหลวงปู่เณรคำ เกิดจากที่คนในปัจจุบันไม่มีปัญญาที่แท้จริง คือไม่รู้นั่นเอง เพราะไม่ได้ศึกษาคำสอนอย่างถ่องแท้ เพราะมัวแต่ไปยึดผู้ที่สอน ไม่ได้ยึดคำสอน บวกกับคนเราทุกคน ตั้งแต่เกิดเสมือนผ้าบริสุทธิ์ เติบโตมาก็ยังปรารถนาจะเป็นคนดี เมื่ออยากเป็นคนดีแล้วก็อยากทำความดี เมื่อไปพบเห็นผู้ที่ถูกสมมุติว่าเป็นตัวแทนแห่งพระพุทธศาสนาที่ประเสริฐ ที่ดีแล้ว อีกทั้งได้เห็นการวางตัวสุขุมน่าเลื่อมใส การพูดจาสุภาพเรียบร้อย การอยู่ในสถานที่ที่น่าเคารพกราบไหว้ นุ่งห่มผ้าสีที่แลดูน่าศรัทธา ยังได้รับฟังการพูด การสอน ในเรื่องที่อิงปาฏิหาริย์แห่งพุทธประวัติต่างๆ ผสมผสานกับคำสอนดีๆ บางตอนมากล่าวอ้าง ผู้คนที่ประสบพบเห็นถ้าขาดสติปัญญาที่แท้จริงก็ต้องหลงเชื่อ เพราะใช้เพียงตาดู หูฟัง ไม่ได้ใช้ปัญญาคิด


  
           ความเชื่อของคนต่างๆ บวกกับการอยากเป็นคนดี จึงเกิดการทำดีเป็นการแสดงความเคารพบูชาต่อผู้นั้น คนเราเห็นว่าเงินเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด จึงนำเงินแห่กันไปถวาย เพราะถือว่าเป็นการทำดีและยังได้ทำดีกับผู้ที่เชื่อว่าเป็นผู้วิเศษ เป็นผู้ที่ดีเหนือกว่าผู้อื่น เป็นต้น
  
           ดังนั้นกรณี เณรคำ ไม่ใช่กรณีแรกของเมืองไทย หากจะผิดก็ผิดแต่องค์กรพระพุทธศาสนาและพระเถระที่มิได้ควบคุมจริงจัง เพราะท่านทั้งหลายมัวทำในสิ่งที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ จึงปล่อยให้เณรคำและพระต่างๆ ใช้สัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนา อันมีเครดิตอยู่แล้ว ไปทำให้ผู้คนลุ่มหลง แม้เณรคำจะมิได้ทำให้พระพุทธศาสนาสูญสิ้นในวันนี้ แต่ความศรัทธาและความเชื่อของผู้คนก็จะค่อยๆ เสื่อมถอย จะหาพระที่ดีที่น่าเชื่อถือไม่ได้ ในที่สุดไม่ต้องถึง 5,000 ปี พระพุทธศาสนาก็เห็นทางแล้วที่จะสูญสิ้นตามคำทำนาย


  
           อยากจะให้องค์กรพุทธศาสนา พระมหาเถระ มหาวิทยาลัยสงฆ์ และหน่วยงานการศึกษาต่างๆ ลด ละ เลิก เรื่องกิจกรรม พิธีการ และงดโฆษณาประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงตนเอง หันหน้ามาสร้างภูมิรู้ให้เหล่าพระสงฆ์ สารเณร ครูบาอาจารย์ให้มีปัญญาที่แท้จริง ถ้าพระสงฆ์ในประเทศนี้ มีความรู้ในคำสอนอย่างถ่องแท้ แล้วนำไปเผยแผ่จริงๆ ไม่ต้องมาก แค่ให้เยาวชนได้รู้ความหมายของบทสวดมนต์ เช่น มงคล 38 ข้อ ผู้คนในวันนี้และวันหน้าจะเปี่ยมด้วยปัญญา จะได้ไม่ถูกใครหลอก จะได้ไม่ต้องไปหลงยึดติดกับตัวบุคคลได้ง่าย
  
           และถ้าผู้คนมีปัญญาดี คนที่จะมาชักจูงหรือทำให้ผู้อื่นเชื่อในสิ่งที่ผิดก็ไม่สามารถจะพูดจะทำได้สำเร็จผล
          
โดย นายสิทธิกร บุญฉิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่