ด้วยความเคารพ คับ
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ นับ1ใหม่ไตรมาส3/56 เงินไหลเข้ายังเป็นปัจจัยชี้ขาด แต่ไม่ใช่เงินฝรั่ง หากแต่เป็นเงินเยน
ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา(2555) ตลาดหุ้นไทยได้อานิสงส์จากการที่ค่าเงินสกุลเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนตัวลง ทำให้มีเม็ดเงินจากญี่ปุ่นไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย รอบที่ผ่านมานี้จึงไม่น่าจะเป็นเงิน”ฝรั่ง”เนื่องจากพบว่ามีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นญี่ปุ่นมากกว่าดาวโจนส์ และฮั่งเส็ง
ทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นและโซนTIP และควรพยากรณ์ว่าในช่วงไตรมาส3/2556 และครึ่งปีหลัง/2556 ก็ยังมีแนวโน้มดังกล่าวนี้ต่อไป คือ
1.มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินเยน..หากค่าเงินเยนอ่อนลงต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย ในทางตรงกันข้ามหากค่าเงินเยนแข็งขึ้นจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นไทย
2.มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตลาดหุ้นโซนTIP สังเกตในช่วงครึ่งปีแรกที่ขึ้นไปพีคในช่วงวันไล่เลี่ยกันคือราววันที่ 21-23 พฤษภาคม และตกมาต่ำสุดในราววันที่ 23 มิถุนายนเข่นกัน และฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงวันเวลาเดียวกัน ดังนั้น ควรพยากรณ์ว่าในช่วงไตรมาส3/2556 และครึ่งปีหลัง/2556 ก็ยังมีแนวโน้มดังกล่าวนี้ต่อไป
3.เงินลงทุนต่างประเทศ(Fund flow)ยังกำหนดทิศทางหลักของตลาดหุ้นไทยในไตรมาส3/2556 แต่อาจไม่ใช่เงินทุนจากอเมริกาหรือยุโรป หากแต่เป็นเงินจากญี่ปุ่น ที่เรียกว่าเยนแครี่เทรด
4.ค่าเงินเยนมีแนวโน้มจะอ่อนลงไปทำนิวโลว์กว่าที่ทำไว้103.72เยน โดยอาจอ่อนลงไปตั้งแต่110ถึง120เยน หรือแม้แต่130เยน/ดอลลาร์ จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย และมีแนวโน้มที่ค่าเงินบาทจะอ่อนตัวลง จะได้เห็นนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
5.การเปรียบเทียบนั้นควรจับตาการอิงไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น รวมทั้งโซนTIP มากกว่าดาวโจนส์ หรือฮั่งเส็ง
6.ในปลายไตรมาส 2/2556นั้น ผมได้ชี้ว่าดัชนีSETอาจจะลงมาปรับฐานทำจุดต่ำสุดไปแล้วที่เขต 1338 จุด เพื่อทำจุดกลับตัว(reversal pattern) แบบBullish Divergence โดยมีโอกาสขึ้นกลับไปพีคเก่า1650ในไตรมาส3/2556 หรือนิวไฮเป้าหมาย1750จุดในไตรมาส3/2556 (ซึ่งจะกล่าวรายละเอียดในบทที่ 4) ดังนั้นผมจึงได้ให้คำแนะนำการลงทุนว่า หากพอร์ตว่างก็น่าเริ่มซื้อเมื่อเกิดสัญญาณการกลับตัว และรอซื้อเพิ่มเมื่อผ่านด่าน1450หรือผ่านด่านเขต1492ไปแล้ว/หากติดหุ้นไว้ก็ไม่ควรตัดขายขาดทุน ควรจะรอการฟื้นขึ้นรอบใหม่ และหรือซื้อเฉลี่ยหุ้นที่ติดไว้ได้ และไปซื้อแบบมั่นใจเต็มทื่หากสัปดาห์นี้ขึ้นไปผ่านด่าน1450 หรือยืนยันด้วยการผ่านด่าน1492ขึ้นไป
วันจันทร์ และต่อจากนี้ เซท ขึ้นแน่นอน กูรูฟันธง แล้ว
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ นับ1ใหม่ไตรมาส3/56 เงินไหลเข้ายังเป็นปัจจัยชี้ขาด แต่ไม่ใช่เงินฝรั่ง หากแต่เป็นเงินเยน
ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา(2555) ตลาดหุ้นไทยได้อานิสงส์จากการที่ค่าเงินสกุลเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนตัวลง ทำให้มีเม็ดเงินจากญี่ปุ่นไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย รอบที่ผ่านมานี้จึงไม่น่าจะเป็นเงิน”ฝรั่ง”เนื่องจากพบว่ามีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นญี่ปุ่นมากกว่าดาวโจนส์ และฮั่งเส็ง
ทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นและโซนTIP และควรพยากรณ์ว่าในช่วงไตรมาส3/2556 และครึ่งปีหลัง/2556 ก็ยังมีแนวโน้มดังกล่าวนี้ต่อไป คือ
1.มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินเยน..หากค่าเงินเยนอ่อนลงต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย ในทางตรงกันข้ามหากค่าเงินเยนแข็งขึ้นจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นไทย
2.มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตลาดหุ้นโซนTIP สังเกตในช่วงครึ่งปีแรกที่ขึ้นไปพีคในช่วงวันไล่เลี่ยกันคือราววันที่ 21-23 พฤษภาคม และตกมาต่ำสุดในราววันที่ 23 มิถุนายนเข่นกัน และฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงวันเวลาเดียวกัน ดังนั้น ควรพยากรณ์ว่าในช่วงไตรมาส3/2556 และครึ่งปีหลัง/2556 ก็ยังมีแนวโน้มดังกล่าวนี้ต่อไป
3.เงินลงทุนต่างประเทศ(Fund flow)ยังกำหนดทิศทางหลักของตลาดหุ้นไทยในไตรมาส3/2556 แต่อาจไม่ใช่เงินทุนจากอเมริกาหรือยุโรป หากแต่เป็นเงินจากญี่ปุ่น ที่เรียกว่าเยนแครี่เทรด
4.ค่าเงินเยนมีแนวโน้มจะอ่อนลงไปทำนิวโลว์กว่าที่ทำไว้103.72เยน โดยอาจอ่อนลงไปตั้งแต่110ถึง120เยน หรือแม้แต่130เยน/ดอลลาร์ จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย และมีแนวโน้มที่ค่าเงินบาทจะอ่อนตัวลง จะได้เห็นนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
5.การเปรียบเทียบนั้นควรจับตาการอิงไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น รวมทั้งโซนTIP มากกว่าดาวโจนส์ หรือฮั่งเส็ง
6.ในปลายไตรมาส 2/2556นั้น ผมได้ชี้ว่าดัชนีSETอาจจะลงมาปรับฐานทำจุดต่ำสุดไปแล้วที่เขต 1338 จุด เพื่อทำจุดกลับตัว(reversal pattern) แบบBullish Divergence โดยมีโอกาสขึ้นกลับไปพีคเก่า1650ในไตรมาส3/2556 หรือนิวไฮเป้าหมาย1750จุดในไตรมาส3/2556 (ซึ่งจะกล่าวรายละเอียดในบทที่ 4) ดังนั้นผมจึงได้ให้คำแนะนำการลงทุนว่า หากพอร์ตว่างก็น่าเริ่มซื้อเมื่อเกิดสัญญาณการกลับตัว และรอซื้อเพิ่มเมื่อผ่านด่าน1450หรือผ่านด่านเขต1492ไปแล้ว/หากติดหุ้นไว้ก็ไม่ควรตัดขายขาดทุน ควรจะรอการฟื้นขึ้นรอบใหม่ และหรือซื้อเฉลี่ยหุ้นที่ติดไว้ได้ และไปซื้อแบบมั่นใจเต็มทื่หากสัปดาห์นี้ขึ้นไปผ่านด่าน1450 หรือยืนยันด้วยการผ่านด่าน1492ขึ้นไป