บางทีก็งง ตัวเอง ไม่รู้จะไปทางไหนดีจ้า มีทั้งคนให้ + ให้ - เม่างงจ้าาาา

________________________________________________________________________________________________
บล.ธนชาต : PTTEP แนะนำ“ขาย” โดยมี DCF SoTP TP ที่ 140 บาท

เราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยพื้นฐานของการดำเนินงานของ
          PTTEP และแนวโน้มราคาน้ำมันที่อ่อนแอในระยะกลางจากเศรษฐกิจจีน
ที่ชะลอตัว การเข้าซื้อสินทรัพย์ของ Hess หากประสบความสำเร็จ น่าจะทำ
ให้เกิด upside ต่อประมาณการกำไรของเราเล็กน้อยในมุมมองของเรา

ภาพรวมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
           มุมมองของเราที่มีต่อธุรกิจของ PTTEP ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เราคาดว่า
บริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโตของกำไรที่อ่อนตัวลง ขณะที่ให้ ROE ที่ต่ำลง
จากการลดลงของอัตรากำไรซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่สูงขึ้น
จากการลงทุนในต่างประเทศในช่วงต้นของการดำเนินงาน ด้วยความ
พยายามในการหาแหล่งสำรองใหม่และการผลิตที่เติบโต เนื่องจากก๊าซใน
อ่าวไทยเริ่มหมดลง PTTEP จึงมีแผนลงทุนหนักต่อเนื่องยาวนานเพื่อ
สำรวจและผลิตโครงการในต่างประเทศและในประเทศ เราไม่คิดว่าราคา
น้ำมันจะเป็นปัจจัยผลักดันราคาหุ้นในระยะกลาง เนื่องจากการชะลอตัวลง
ของเศรษฐกิจจีนจะจำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เรายังคง
แนะนำ “ขาย” โดยมี DCF SoTP TP ที่ 140 บาท/หุ้น ที่ 2013PE ที่ 10.6
เท่า PTTEP นั้นไม่ถูก เทียบกับ China National Offshore Oil Corp (883
HK) ที่ 9.3 เท่า และ Cairn India (CAIRN IN) ที่ 4.8 เท่า

เราคาดว่ามอนทาราจะยังคงมีผลขาดทุน
          ในที่สุดแหล่งมอนทาราก็เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในวันที่ 20 มิ.ย. ซึ่งเรา
มองว่าเป็นข่าวดี แม้เราจะเชื่อว่าตลาดมองบวกมากเกินไปเกี่ยวกับส่วน
แบ่งกำไรจากแหล่งมอนทารา ด้วยคาดว่าค่าเสื่อมราคาอยู่ที่ US$80/bbl
และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ US$10-15/bbl เราคาดว่ามอนทาราจะ
สร้างผลขาดทุนให้ PTTEP ในปี 2013 ภายใต้ราคาน้ำมันดิบดูไบปัจจุบันที่
ราว US$100/bbl แหล่งมอนทาราน่าจะผลิตน้ำมันได้ 12,000bpd ในปี
2013, 25,000bpd ในปี 2014 และ 2015 และลดลงเป็น 7-8,000bpd ในอีก
สองปีต่อจากนั้นก่อนที่จะหมดลงในปี 2018

Upside จากการทำ M&As แต่ไม่น่าตื่นเต้นนัก
          เนื่องจาก PTTEP เป็นเจ้าของ 2 สินทรัพย์ไทยแล้ว และได้แสดงความ
ปรารถนาที่จะขยายฐานสินทรัพย์ เราจึงคาดว่า PTTEP จะเข้าประมูล
สินทรัพย์ Hess - บริษัทพลังงานของสหรัฐ ในประเทศไทยและอินโดนีเซีย
เนื่องจาก 1) สินทรัพย์ทั้งสองดำเนินงานแล้ว ดังนั้นจึงน่าจะเพิ่มกำไรให้
PTTEP ทันที 2) เนื่องจาก PTTEP มีความคุ้นเคยกับสินทรัพย์ในไทย
(แหล่งไพลิน และสินภูฮ่อม) เราจึงคาดว่าบริษัทฯ จะเสนอราคาประมูลที่ให้
ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ Hess
กำหนดช่วงเวลาการประมูลในช่วงกลางเดือนก.ค. เราประเมินอย่างคร่าวๆ
ว่าสินทรัพย์เหล่านี้จะสร้างกำไรเพิ่มให้ PTTEP เพียง 7-8% ภายใต้
สมมติฐานผลตอบแทนจากการลงทุนบนต้นทุนในการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่
US$1bn ที่ 15% (ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมของบริษัทฯ สำหรับ
วงเงินสินเชื่อ US$600-700m ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งเงินทุน) เรามองว่า
มูลค่าสินทรัพย์เหล่านี้ได้สะท้อนอยู่ในราคาหุ้นแล้ว

คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2Q13F
           เราคาดว่า PTTEP จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q13F ที่ 13 พันลบ. (จาก
20 พันลบ. ใน 1Q13) เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง (ราคาน้ำมันดูไบลดลง
US$8/bbl จาก 1Q13 มาอยู่ที่ US$100) และ unrealized forex จำนวน
มากที่ 4.5-5.0 พันลบ. หากไม่รวมรายการพิเศษ เราคาดว่ากำไรปกติจะอยู่
ที่ 16 พันลบ. ลดลงราว 6%q-q ซึ่งจะทำให้ 1H13 มีกำไร 33 พันลบ. หรือ
คิดเป็น 56% ของประมาณการทั้งปีของเรา

SUPANNA SUWANKIRD
_______________________________________________________________________________________________

BCPกำลังขาขึ้นดีสุดหุ้นโรงกลั่นเป้าเกิน42บาท
    หุ้นพลังงานเนื้อหอม ปัญหาขัดแย้งอียิปต์ดันราคาน้ำมันพุ่ง โบรกฯวาง BCP ดาวเด่นหุ้นโรงกลั่น กำไรไตรมาส 2 เติบโตสูงสุดในกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 42.75 บาท ฟาก PTTEP รับอานิสงส์ เป้าหมายราคาหุ้น 195 บาท

-------------------------------------
ชาวสินธร คิดว่าอย่างไรคะ ???? ช่วยเม่าคิดทีคะ