เตือนสติ "หน้ากากขาว" สู้ "แม้ว" ยก "วัสสการพราหมณ์" สอน   ข่าวแนวหน้าออนไลน์

4 ก.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊ค V For ฉะเชิงเทรา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ "วัสสการพราหมณ์"
ตัวละครใน "สามัคคีเภทคำฉันท์" อันเป็นบทประพันธ์ของ ชิต บุรทัต กวีเอกในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 เพื่อยก
เป็นคติสอนใจ ให้ประชาชนชาวไทย ลุกขึ้นต่อสู้กับ "ระบอบทักษิณ" โดยมีข้อความดังนี้

บ้านเมืองเรายามนี้ยังมี “วัสสการพราหมณ์”
จะทำการใหญ่รู้รัก สามัคคีกันไว้เถิด

+++++++++++++++++++++++++

“วัสสการพราหมณ์”

วัสสการพราหมณ์คือ ตัวละครใน “สามัคคีเภทคำฉันท์” อันเป็นบทประพันธ์ของ
ชิต บุรทัต กวีเอกในแผ่นดินรัชกาลที่ ๖

ชิต บุรทัต เชี่ยวชาญในเชิงฉันท์อย่างไร คงจะเห็นกันได้จากการร่ำพรรณนาถึงความงดงามของ
กรุงราชคฤห์อันเป็นนครหลวงของพระเจ้าอาชาตศัตรูแห่งแคว้นมคธ เอาไว้ว่าดังนี้

“ช่อฟ้าตระการกละจะหยัน จะเยาะยั่วทิฆัมพร

บราลีพิลาศุภจรูญ นพศูลประภัศร

หางหงส์ผจงพิจิตระงอน ดุจะกวักนภาลัย”...

อันนับได้ว่างามนัก วัสสการพราหมณ์ ในคำฉันท์เรื่องนี้เป็นครูอาจารย์ผู้สอนศิลปะวิทยา
อยู่ในแคว้นมคธ แต่ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นก็คือ เป็นนักการเมืองเจ้าเล่ห์ เป็น “บ่างช่างยุ” หรือว่า
นักยุแยงตะแคงรั่วมือระดับปรมาจารย์

วัสสการพราหมณ์เข้าไปเป็น “ไส้ศึก” อยู่ในแว่นแคว้นวัชชีซึ่งปกครองโดยเหล่าบรรดากษัตริย์
ลิจฉวี และใช้ระยะเวลายุแหย่อยู่ไม่นานนัก เหล่าบรรดาผู้นำดังที่ว่านั้น ก็ถึงกาลแตกแยก

ก่อนหน้านี้วัสสการพราหมณ์ได้ยอมเจ็บตัวเล่นละครตบตา ยอมให้เจ้านายตนเฆี่ยนตี และโกน
หัวขับไล่ให้ออกจากเมืองไป ดังที่ผู้ประพันธ์ได้บรรยายเอาไว้ว่า

“ยลเนื้อก็เนื้อเต้น พิศะเส้นก็สั่นรัว

ทั้งร่างและทั้งตัว ก็ระริกระริวไป

แลหลังก็หลั่งโล หิตโอ้เลอะลามไหล

พ่งผาดอนาถใจ ตละล้วนระรอยหวาย”...

และนี่ก็คือฝีมือในการแต่งฉันท์ที่เป็นหนึ่งของชิต บุรทัต สามัคคีเภทคำฉันท์

ไม่เพียงแต่งดงามด้วยภาษากวีเท่านั้น แต่เนื้อหาสาระนับว่า ยังเหมาะเป็นยิ่งด้วยสำหรับสังคมไทยยามนี้

เหตุก็เพราะความไม่สมานฉันท์ ไม่สามัคคีกัน โดยแท้ ที่นำมาซึ่งความวิบัติล่มจมของบ้านเมือง

ฟังว่า เหล่าบรรดากษัตริย์ลิจฉวีอันเป็นผู้ปกครองแคว้นวัชชีทั้งปวงนั้น ได้เคยมีการปกครองใน
ระบบรัฐสภาที่เข้มแข็งเป็นอย่างยิ่ง

ก่อนที่วัสสการพราหมณ์จะเข้ามาทำให้สภาเกิดแตกแยก และเกิด หวั่นระแวงแคลงใจกันขึ้น ดังที่ผู้ประพันธ์ว่า

“สามัคคีธัมมะทำลาย มิตระภิทนะกระจาย

สรรพะเสื่อมหายน์ ก็เปนไป”...

สมดังชื่อเรื่องว่า สามัคคีเภท

สรุปแล้ว ทั้งสภาและบ้านเมืองประชาชนของแคว้นวัชชีก็ไม่มีอะไรเหลือ ด้วยฝีมือการยุแหย่
ของวัสสการพราหมณ์แต่ผู้เดียวโดยแท้

ใครคือ “วัสสการพราหมณ์” ยามนี้ก็น่าจะมองเห็นตัวกันอยู่...

๓ / ๔ / ๕๐

โดย อัศศิริ-ธรรมโชติ

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=142936

http://www.naewna.com/politic/58426

หึ หึ ... “วัสสการพราหมณ์” อัศศิริ  กับของคนอ่าน  อาจจะคนละคนกันก็ได้
แน่จริง เอ่ยชื่อออกมาเลย   อย่ามาอำกันแบบนี้    ....   

พท.เตือน'หน้ากากขาว'ระวังตกเป็นเหยื่อการเมือง กลายเป็นตัวตลก ..... ข่าวไทยรัฐออนไลน์

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เตือน'หน้ากากขาว'ระวังตกเป็น
เหยื่อการเมือง จะกลายเป็นตัวตลก ขอชื่นชมที่ตัดสินใจ หยุดเพื่อทบทวนตัวเอง
วันที่ 4 ก.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี
เฟซบุ๊ก V For Thailand หรือหน้ากากขาว แถลงยุติกิจกรรมใน กทม.ชั่วคราว
โดยระบุถูกคนพยายามแย่งเป็นแกนนำ โดยใช้ความก้าวร้าวหยาบคาย
หยุดเพื่อให้พวกแทรกแซงกลับไปทบทวนตัวเองว่า ตนได้เตือนกลุ่มนี้ไปหลายครั้ง
ว่าให้ระวังมือที่สาม เท้าที่สี่ จะสวมรอยมาก่อเหตุรุนแรง

ชีวิตบนท้องถนน กับนักสู้หน้าคีย์บอร์ดมันคนละเรื่อง อย่าตกเป็นเหยื่อของการยั่วยุ
อันตรายมากที่ชุมนุมโดยขาดแกนนำ ขาดการควบคุม มีแต่คนเปิด ไม่มีคนช่วย ดังนั้น
ขอชื่นชมที่ลงบันไดทัน ถือว่ารับผิดชอบต่อแนวร่วม ส่วนที่มีมวลชนหน้ากากขาว
บางส่วนคาใจ ผิดหวัง จะประกาศรวมตัวหน้าเซ็นทรัลเวิลด์วันอาทิตย์เหมือนเดิมนั้น
ถือว่าน่าห่วง

"ยิ่งถ้ามีกลุ่มพิทักษ์สยามมาเทกโอเวอร์ นำชุมนุมต่อ พร้อมแจกหน้ากากหนุมาน
อาจจะกลายเป็นเรื่องตลกโปกฮาสำหรับบางคน อีกหน่อยอาจจะได้เห็นหน้ากาก
เห้งเจีย ไซอิ๋ว ตือโป๊ยก่าย อะไรออกมาอีก แต่เมื่อเห็นว่าอาจจะเป็นตลกร้าย
สำหรับคนที่ถูกล่อลวงมา หรือตกเป็นเหยื่ออุปาทานหมู่
ต้องเผชิญเหตุรุนแรงที่ไร้การควบคุม จึงขอแนะนำให้คัดค้านรัฐบาลในรูปแบบอื่นๆ
จะเหมาะสมกว่า ซึ่งรัฐบาลยินดีรับฟังทุกเรื่องอยู่แล้ว" นายอนุสรณ์  กล่าว

http://www.thairath.co.th/content/pol/355237

เอ้า ...ถามเพื่อนๆ  หน้ากากขาว  จะเชื่อใครดี...ค้าาาา   เตือนกันหย่าาาาาาย
แบบนี้  เรียกว่าเตือน  หรือ  วิตกจริต   ก็แล้วแต่  คุณอยู่ฝั่งไหน   ...