แอนโทนี่ โคลาแพรต หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์โครงการแอลครอสส์ ซึ่งสำรวจหาแหล่งน้ำบนดวงจันทร์ (water on the moon) เปิดเผย หลังจากนาซ่าปล่อยจรวดเซนทอร์ น้ำหนัก 2,200 กิโลกรัม กับดาวเทียมแอลครอสส์ พุ่งชนหลุมคาเบียส บริเวณขั้วใต้ของดวงจันทร์ เพื่อค้นหาน้ำใต้พื้นผิว ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องสเปกโตรมิเตอร์ล่าสุดจากดาวเทียมแอลครอสส์ ซึ่งส่งกลับมายังฐานนาซ่าบนพื้นโลก ประกอบกับการวิเคราะห์ภาพถ่ายจากอุปกรณ์อื่น ๆ ของนาซ่า พบว่า แรงระเบิดจากการพุ่งชนทำให้มองเห็นน้ำแข็งและไอน้ำพวยพุ่งออกมาจากปากหลุม ขนาด 20-30 เมตร เบื้องต้นเชื่อว่า น้ำตรงจุดนี้น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม ว่าไปแล้วก็เหมือนกับเวลาขุดค้นหาน้ำมันบนพื้นโลก เมื่อไหร่ก็ตามที่พบน้ำในจุดนั้น ก็มีโอกาสสูงจะพบน้ำมันมากขึ้นอีกในจุดข้างเคียง
คาดว่า อนาคตน่าจะสามารถทำโดมปรับอุณหภูมิ เพื่อเป็นที่พักอาศัยของนักบินอวกาศและทดลองปลูกพืชเพื่อรับประทานได้ ถ้าน้ำบนดวงจันทร์มีปริมาณมากพอ
ปล. เฉพาะท่านที่ไม่เคยได้ข่าวนะครับ
เมื่อนาซ่า พบน้ำ บนดวงจันทร์
คาดว่า อนาคตน่าจะสามารถทำโดมปรับอุณหภูมิ เพื่อเป็นที่พักอาศัยของนักบินอวกาศและทดลองปลูกพืชเพื่อรับประทานได้ ถ้าน้ำบนดวงจันทร์มีปริมาณมากพอ
ปล. เฉพาะท่านที่ไม่เคยได้ข่าวนะครับ