เหตุการณ์ ทุกวันนี้ ในบ้านเมืองของผม มีสองฝ่าย
ใช้ระบอบ ประชาธิปไตย เหมือนกัน แต่มอง ประชาธิปไตย
ไปคนละแบบ อีกฝ่าย มองไปแบบ ประชาชน ต้องการอะไร
ทำเพื่อประชาชน
อีกฝ่าย มอง ไปแบบ ทุกอย่าง ต้องอยู่ภายไต้ การควบคุม ของ กู
ประชาชน ต้องการอะไร ต้องผ่านความเห้นชอบ จาก กู เสียก่อน
ต้องขออภัย ที่ใช้ คำว่า กู เพราะไม่มีคำอื่นที่ สุภาพ กว่านี้แล้ว
เอาง่าย ๆ เมื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล กู้เงิน มา 4 แสน
กับ อีก 4 แสน ล้าน เอาม่ทำโครงการต่าง ๆ ที่ปรากฏ ภายหลังว่า
เป็นเรื่องของการ คอรัปชั่น ที่เห็นกันอย่างไม่ต้องเอาแว่น อะไร ไป ตรวจพิสูจน์
หรือไม่ก็โครงการประกันรายได้ ชาวนา ที่ เงินอยู่กับ เจ้าของนา และ
โรงสี ทั้งหมดนี้ ฝ่ายที่สนับสนุน บอกผ่าน ได้ สะอาด
พรรคเพื่อไทย เข้ามาเป็นรับบาล ประกาศ โครงการจำนำข้าว เท่านั้นแหละ
ออกมา คัดค้านกัน อย่างมากหน้าหลายตาโดยฝ่าย ตรงข้าม ตั้งแต่พรรคฝ่ายค้าน
ไปยัน นักวิชาการ โครงการ จัดระบบน้ำ 3.5 แสนล้าน ที่น้ำท่วม จน เป็น มหาวินาศภัย
ค้านอีก ตั้งแต่ยังไม่ลงมือ กุ้เงิน บอก อนาคต มีคอรัปชั่นแน่ โครงการ 2.2 ล้าน ๆ บอกไอ้นี่
ต้องคอรัปชั่น กันอีก
แก้ก.ม. รัฐธรรมนูญ อีกฝ่ายที่เคยเป็นรัฐบาล แก้ บอกไม่เป็นไร อีกฝ่าย ล้มล้างระบอบการปกครอง
สี่งที่ผ่านมาแบบนี้ ทุกอย่างคงไม่สามารถพูดจากันแบบปรกติได้ แล้ว ผมมองไม่เห็นทางวเลย
ว่าทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยกัน อย่างไร เพราะเมื่อ อีกฝ่าย ชี้มือไป ซ้าย อีกฝ่าย ต้องขวาทันที
องค์กรอิสระ ที่ว่าต้องเป็นกลาง แต่มันกลาง พรรคพวกของตนเอง ก้าวก่ายเข้าไป ทั้งในระบบ บริหาร และนิติบัญญัติ
นายกล้าณรงค์ จันทึก กวักมือให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี เอาเรื่องไปฟ้องร้อง กรณี ศาลปกตครอง สั่งว
ให้ นายก ย้าย กลับมาที่เดิม บอก ถ้านายกอุธรณ์ เอาเรื่องมาฟ้องเลย จะทำให้ ต่อมาภายหลัง จึง
นึกได้ว่า ไม่ใช่เรื่องของ กู กลับคำซะงั้น
สื่อ แบ่งข้างแบ่งฝ่ายกันอย่างจริงจัง ไม่ต้องคำนึง ถึง จรรยาบรรณ ถึงการเป็นสื่อแล้ว
แม้แต่เรื่องของข้าว ที่ชาวนาปลูก ตีข่าว ให้มันเลวร้าย เพื่อดิสเครดิต รัฐบาล ซึ่ง ผลร้าย จะตกกับ ชาวนาอย่างช่วยไม่ได้
เห็นที บ้านเมืองของผม คงเป็นลักษณะ น้ำกับ น้ำมัน ที่ไม่สามารถ จูนเข้าหากัน ได้ แล้ว ใน ชาตินี้
เปรียบเสมือน สามี ภรรยา ที่ โกรธ กัน จนกระทั่ง ไม่ สามารถพูด คุยถึง ความสัมพันธ์ เก่า ๆ ที่ เคยรักกันมา
ฝ่า ฟันอุปสรรค์ ร่วมกันมา จนกระทั่งเป็นปึกแผ่น ทุกวันนี้ มองหน้ากันไม่ติด ต่างฝ่าย ถือว่าตัวเองถูก
เห็นที่จะต้องเดิน ขึ้น อำเภอ ไปเซ็น ใบหย่า ขาดจากการเป็นสามี ภรรยา เสียแล้วกระมัง
ต่างคนต่างอยู่ ใช้เงินใครเงินมัน ชาตินี้ อย่าร่วมเดินทาง ด้วยกันเลย เอางั้นไหม
หย่า ขาดกันเลย ดีไหม
ใช้ระบอบ ประชาธิปไตย เหมือนกัน แต่มอง ประชาธิปไตย
ไปคนละแบบ อีกฝ่าย มองไปแบบ ประชาชน ต้องการอะไร
ทำเพื่อประชาชน
อีกฝ่าย มอง ไปแบบ ทุกอย่าง ต้องอยู่ภายไต้ การควบคุม ของ กู
ประชาชน ต้องการอะไร ต้องผ่านความเห้นชอบ จาก กู เสียก่อน
ต้องขออภัย ที่ใช้ คำว่า กู เพราะไม่มีคำอื่นที่ สุภาพ กว่านี้แล้ว
เอาง่าย ๆ เมื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล กู้เงิน มา 4 แสน
กับ อีก 4 แสน ล้าน เอาม่ทำโครงการต่าง ๆ ที่ปรากฏ ภายหลังว่า
เป็นเรื่องของการ คอรัปชั่น ที่เห็นกันอย่างไม่ต้องเอาแว่น อะไร ไป ตรวจพิสูจน์
หรือไม่ก็โครงการประกันรายได้ ชาวนา ที่ เงินอยู่กับ เจ้าของนา และ
โรงสี ทั้งหมดนี้ ฝ่ายที่สนับสนุน บอกผ่าน ได้ สะอาด
พรรคเพื่อไทย เข้ามาเป็นรับบาล ประกาศ โครงการจำนำข้าว เท่านั้นแหละ
ออกมา คัดค้านกัน อย่างมากหน้าหลายตาโดยฝ่าย ตรงข้าม ตั้งแต่พรรคฝ่ายค้าน
ไปยัน นักวิชาการ โครงการ จัดระบบน้ำ 3.5 แสนล้าน ที่น้ำท่วม จน เป็น มหาวินาศภัย
ค้านอีก ตั้งแต่ยังไม่ลงมือ กุ้เงิน บอก อนาคต มีคอรัปชั่นแน่ โครงการ 2.2 ล้าน ๆ บอกไอ้นี่
ต้องคอรัปชั่น กันอีก
แก้ก.ม. รัฐธรรมนูญ อีกฝ่ายที่เคยเป็นรัฐบาล แก้ บอกไม่เป็นไร อีกฝ่าย ล้มล้างระบอบการปกครอง
สี่งที่ผ่านมาแบบนี้ ทุกอย่างคงไม่สามารถพูดจากันแบบปรกติได้ แล้ว ผมมองไม่เห็นทางวเลย
ว่าทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยกัน อย่างไร เพราะเมื่อ อีกฝ่าย ชี้มือไป ซ้าย อีกฝ่าย ต้องขวาทันที
องค์กรอิสระ ที่ว่าต้องเป็นกลาง แต่มันกลาง พรรคพวกของตนเอง ก้าวก่ายเข้าไป ทั้งในระบบ บริหาร และนิติบัญญัติ
นายกล้าณรงค์ จันทึก กวักมือให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี เอาเรื่องไปฟ้องร้อง กรณี ศาลปกตครอง สั่งว
ให้ นายก ย้าย กลับมาที่เดิม บอก ถ้านายกอุธรณ์ เอาเรื่องมาฟ้องเลย จะทำให้ ต่อมาภายหลัง จึง
นึกได้ว่า ไม่ใช่เรื่องของ กู กลับคำซะงั้น
สื่อ แบ่งข้างแบ่งฝ่ายกันอย่างจริงจัง ไม่ต้องคำนึง ถึง จรรยาบรรณ ถึงการเป็นสื่อแล้ว
แม้แต่เรื่องของข้าว ที่ชาวนาปลูก ตีข่าว ให้มันเลวร้าย เพื่อดิสเครดิต รัฐบาล ซึ่ง ผลร้าย จะตกกับ ชาวนาอย่างช่วยไม่ได้
เห็นที บ้านเมืองของผม คงเป็นลักษณะ น้ำกับ น้ำมัน ที่ไม่สามารถ จูนเข้าหากัน ได้ แล้ว ใน ชาตินี้
เปรียบเสมือน สามี ภรรยา ที่ โกรธ กัน จนกระทั่ง ไม่ สามารถพูด คุยถึง ความสัมพันธ์ เก่า ๆ ที่ เคยรักกันมา
ฝ่า ฟันอุปสรรค์ ร่วมกันมา จนกระทั่งเป็นปึกแผ่น ทุกวันนี้ มองหน้ากันไม่ติด ต่างฝ่าย ถือว่าตัวเองถูก
เห็นที่จะต้องเดิน ขึ้น อำเภอ ไปเซ็น ใบหย่า ขาดจากการเป็นสามี ภรรยา เสียแล้วกระมัง
ต่างคนต่างอยู่ ใช้เงินใครเงินมัน ชาตินี้ อย่าร่วมเดินทาง ด้วยกันเลย เอางั้นไหม