ที่จังหวัดอุบลราชธานีเริ่มแล้ววันนี้ ที่หอประชุมใหญ่ ม.อุบลฯ ตั้งแต่เวลา 9.30 -16.00 น. ซึ่งจะมีขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวม 108 เวที
ซึ่งมีผู้เข้าร่วมราว 800 คน จากหลากหลายสาขาอาชีพ โดยวิทยากรส่วนใหญ่มาจากวิทยาลัยเทคนิคยโสธรและอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ศิลปศาสตร์ ม.อุบล (แดง 80 %) ที่จะมาเป็นผู้ดำเนินการประชุมกลุ่มย่อยที่แตกออกไปกว่า 10 ประเด็นปัญหา นอกเหนือจากประเด็นความขัดแย้งในสังคมที่เป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญ มาล้อมจุดประสงค์ที่แท้จริงเอาไว้ เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียด
เช่นการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายและการทำงานของรัฐบาลและนักการเมืองพอหอมปากหอมคอ แต่ก็มีวิทยากรบางคนแดงจัดๆ ถึงกับเถียงแทนแบบในห้องราชดำเนินก็มี ลีลา สำนวน วิธีเหมือนกันเด๊ะ ราวกับออกมาจากพิมพ์เดียวกัน
เอกสารประกอบที่แจกให้ อ้างถึงความขัดแย้งต่างๆในสังคมปัจจุบัน เป็นผลพวงมาจากรัฐประหาร ทางแก้คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 50 หรือยกเลิกแล้วกลับไปใช้ปี 40 แทน รวมทั้งการยุบองค์กรอิสระ ที่มีปัญหากับทัษิณและพรรครัฐบาลปัจจุบัน
เป็นธงนำให้ผู้เข้าร่วมงาน(ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อแดงจัดตั้งมา) ได้แสดงความเห็นคล้อยตาม และกรอกแบบสอบถาม ในเชิงเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อส่งกลับไปที่สำนักนายก จะได้เป็นข้ออ้างว่า ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนทั่วประเทศแล้ว แทนการทำประชามติ
แต่สรุปแล้ว งานนี้ ชงเอง กินเอง แบบไม่ต้องเกรงใจใครอีกแล้ว เพราะโครงการนี้ ทำเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการเท่านั้น แต่ไม่ได้ตั้งใจหาทางออกให้กับประเทศไทย ยกเว้นเพื่อคนแดนไกลเพียงคนเดียว ที่จะได้รับอานิสงค์มากที่สุด จากการแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ตามแผนการที่ได้วางเอาไว้
สำหรับคนที่รู้ทัน แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วว่า ทำไปเพื่อต้องการอะไร เพราะไม่ว่าจะคิดมุขไหนมา ก็เพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น คือ ทำเพื่อล้างผิดคนโกงที่พยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมายตลอดมา
แต่สิ่งหนึ่งที่ชาวบ้านที่อยู่กลางๆ สะท้อนออกมาให้เห็นว่า เขากลับมองว่า นักการเมืองเองนั่นหละ คือผู้สร้างปัญหาทั้งหมดให้กับประเทศไทยเอาประชาชนและคำว่าประชาธิปไตยมาอ้าง สร้างความชอบธรรมให้กับการแสวงหาผลประโยชน์ หวังเพียงคะแนนเสียงเพื่อเข้าไปมีอำนาจโดยไม่ได้จริงใจที่จะช่วยเหลือประชาชนตาดำๆตามที่เคยหาเสียงเอาไว้
เวทีพูดจาหาทางออกให้ประเทศไทย 108 เวที
ซึ่งมีผู้เข้าร่วมราว 800 คน จากหลากหลายสาขาอาชีพ โดยวิทยากรส่วนใหญ่มาจากวิทยาลัยเทคนิคยโสธรและอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ศิลปศาสตร์ ม.อุบล (แดง 80 %) ที่จะมาเป็นผู้ดำเนินการประชุมกลุ่มย่อยที่แตกออกไปกว่า 10 ประเด็นปัญหา นอกเหนือจากประเด็นความขัดแย้งในสังคมที่เป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญ มาล้อมจุดประสงค์ที่แท้จริงเอาไว้ เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียด
เช่นการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายและการทำงานของรัฐบาลและนักการเมืองพอหอมปากหอมคอ แต่ก็มีวิทยากรบางคนแดงจัดๆ ถึงกับเถียงแทนแบบในห้องราชดำเนินก็มี ลีลา สำนวน วิธีเหมือนกันเด๊ะ ราวกับออกมาจากพิมพ์เดียวกัน
เอกสารประกอบที่แจกให้ อ้างถึงความขัดแย้งต่างๆในสังคมปัจจุบัน เป็นผลพวงมาจากรัฐประหาร ทางแก้คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 50 หรือยกเลิกแล้วกลับไปใช้ปี 40 แทน รวมทั้งการยุบองค์กรอิสระ ที่มีปัญหากับทัษิณและพรรครัฐบาลปัจจุบัน
เป็นธงนำให้ผู้เข้าร่วมงาน(ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อแดงจัดตั้งมา) ได้แสดงความเห็นคล้อยตาม และกรอกแบบสอบถาม ในเชิงเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อส่งกลับไปที่สำนักนายก จะได้เป็นข้ออ้างว่า ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนทั่วประเทศแล้ว แทนการทำประชามติ
แต่สรุปแล้ว งานนี้ ชงเอง กินเอง แบบไม่ต้องเกรงใจใครอีกแล้ว เพราะโครงการนี้ ทำเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการเท่านั้น แต่ไม่ได้ตั้งใจหาทางออกให้กับประเทศไทย ยกเว้นเพื่อคนแดนไกลเพียงคนเดียว ที่จะได้รับอานิสงค์มากที่สุด จากการแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ตามแผนการที่ได้วางเอาไว้
สำหรับคนที่รู้ทัน แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วว่า ทำไปเพื่อต้องการอะไร เพราะไม่ว่าจะคิดมุขไหนมา ก็เพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น คือ ทำเพื่อล้างผิดคนโกงที่พยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมายตลอดมา
แต่สิ่งหนึ่งที่ชาวบ้านที่อยู่กลางๆ สะท้อนออกมาให้เห็นว่า เขากลับมองว่า นักการเมืองเองนั่นหละ คือผู้สร้างปัญหาทั้งหมดให้กับประเทศไทยเอาประชาชนและคำว่าประชาธิปไตยมาอ้าง สร้างความชอบธรรมให้กับการแสวงหาผลประโยชน์ หวังเพียงคะแนนเสียงเพื่อเข้าไปมีอำนาจโดยไม่ได้จริงใจที่จะช่วยเหลือประชาชนตาดำๆตามที่เคยหาเสียงเอาไว้