นับว่าเป็นเรื่อง น่าประหลาดใจ เป็นอย่างยิ่ง ที่พบว่า เพียงแค่คำถามง่ายๆ
ว่า นรกสวรรค์ ตามความเชื่อ ของนายคันโตนาซี เป็นภพภูมิชนิดใดกันแน่ ?
แต่ นายคันโตนาซี กลับแสดงให้เห็นว่ามีความพยายาม "หลบเลี่ยง"
จนถึงแม้กระทั่งพยายามจะ "หลีกหนี" ที่จะตอบคำถามง่ายๆ อันนั้น
ก็เป็นนายคันโตนาซีเองมิใช่หรือ ที่กล่าวถึง ภพภูมิทางเนื้อหนัง ขึ้นมา
กล่าวคือ นายคนนี้อ้างว่า นรกสวรรค์ หลังการตาย เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง
พร้อมทั้งยังยกตัวอย่าง "บันได" ที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมา(จากสวรรค์)
ดังนั้น คำถามแรก ที่ผมถาม ก็เป็นเพียงคำถามง่ายๆ ว่า ..........
นรกสวรรค์ทางเนื้อหนัง ที่หมายถึง ต้องรับรู้สัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง ๕
เหมือนกับ ภพภูมิของมนุษย์ และสัตว์ดิรัจฉาน นั้นจะมีอยู่ได้อย่างไร ?
เพราะ เหล่าสัตว์ทั้งหลายทั้งในสวรรค์และนรก ล้วนเป็นพวกโอปปาติกะกำเนิด
ไม่มีเศษซากศพ ที่เป็นเนื้อหนังอะไร ทั้งในขณะเกิดและหลังจากตาย
นอกจากจะไม่มีคำตอบที่ตรงกับคำถามแล้ว นายคันโตนาซี ยังออกอาการ "ป๊อด"
ด้วยการปฏิเสธเป็นพัลวันว่า ภพภูมิทางเนื้อหนัง นี้เขาหมายถึง ภพภูมิหลังตายเท่านั้น
นั่นจึงแปลความได้ว่า นายคันโตนาซี ได้กล่าวปฏิเสธว่า นรกสวรรค์ไม่ใช่ภพภูมิทางเนื้อหนัง
ดังนั้น คำถามที่ ๒ ที่ผมถามคนผู้นี้ ก็คือ ...........
ในเมื่อนายคันโตนาซี เห็นว่า นรกสวรรค์มิได้เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง
แล้วมันยกกรณี "บันไดสวรรค์" ขึ้นมาอ้างทำไม ?
คราวนี้ เงียบเป็น "เป่าสาก" นะครับ สิ่งที่ถาม มันไม่ตอบ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม
นายคนนี้กลับ พยายาม "แถกแถ" เอาตัวรอดจากคำถามง่ายๆ นี้ด้วยการ กล่าวเสียดสีให้ร้ายพระ(ซะงั้น)
ญาติผู้ใหญ่สอนมาแบบนี้หรือครับว่า เมื่อไม่กล้าตอบคำถามตรงๆ ก็ให้ไปด่าพระ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น
ถามจริงๆ เถิดครับ คุณนุ่งผ้าถุง ในขณะเล่นเว็บบอร์ด อยู่รึเปล่า ?
คันโตนาซี ยังพอจะจำ "คำพูด" ของตนเองได้บ้างหรือไม่ครับ ?
เพียงเพราะผมใช้วิธี "ปิดกระทู้" ไปเสีย เพื่อลดภาระ การตอบโต้ที่ไร้ความหมาย
เนื่องจากไม่นิยม "การตีฝีปาก" ที่ไร้สาระของใครบางคน(แถวๆ นี้)
คันโตนาซี ก็ถึงกับจะเป็นจะตาย ออกมาโวยวายว่า ผมหนีกระทู้ ไม่กล้าตอบ(คำถามโง่ๆ)
ทั้งๆ ที่การตั้งกระทู้ใหม่ของผม ก็คือการ "ตอบคำถาม" ของพวกมันนั่นแหละ
แน่นอนว่า ในช่วงหลังมานี้ ผมไม่ประกาศ "ปิดกระทู้" อีกเลย แต่สิ่งที่พบ ก็คือ
(๑) คนที่ไม่กล้าตอบคำถามใดๆ (๒) คนที่พยายาม "บิดเบือน" ประเด็นกระทู้
และ (๓) คนที่พยายามจะ "หนีคำถาม" อยู่ตลอดเวลา กลับกลายเป็น คันโตนาซี เองมิใช่หรือ ?
ดังนั้น ผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายคันโตนาซี จะสามารถเคลียร์งานให้เสร็จ
แล้วจงมา "จัดเต็ม" กับคำถามง่ายๆ นี้เสียที นะครับ
อย่าดีแต่เห่า !
และทั้งๆ ที่ผมไม่เคยร้อง "เฮ้ย" สักคำ
ดังนั้น คันโตนาซี ก็จงอย่าได้แสดงให้เห็นว่า พร้อมจะ "หนีหางจุกตูด" อยู่ตลอดเวลา นะครับ
หลังจากที่นายตันโตนาซี เพียรพยายามจะปฏิเสธว่า นรกสวรรค์ มิได้เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง
ดังนั้น ผมจึงถามเขาว่า เช่นนี้ นรกสวรรค์ตามความเชื่อของนายคันโตนาซี หมายถึง ภพภูมิทางใจ ใช่หรือไม่ ?
น่าสมเพช ที่คราวนี้ นายคันโตนาซี กลับแสดงอาการ "หงายเงิบ" ไม่ยอมตอบคำถาม
พร้อมทั้งยังพยายาม "เบี่ยงเบนประเด็น" ด้วยการกล่าวร้ายป้ายสีพระ หนักข้อยิ่งขึ้นไปอีก
ญาติทางไหนของคุณ สอนให้ทำแบบนี้ครับ ช่างหน้าไม่อายจริงๆ ?
กล่าวโดยสรุป ก็คือ เมื่อได้ทำการสอบถามนายคันโตนาซีมานานพอสมควร ทำให้ทราบว่า
นรกสวรรค์ตามความเชื่อของเขานั้น (๑) มิได้เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง และ (๒) ไม่ได้เป็นภพภูมิทางใจ(เพราะการเงียบเท่ากับปฏิเสธ)
ดังนั้น คำถามที่พึงมีต่อไป ก็คือ ถ้าหากนรกสวรรค์ ไม่ใช่ทั้ง ภพภูมิทางเนื้อหนัง และ ภพภูมิทางใจ
แล้วนรกสวรรค์ของ นายคันโตนาซี มันเป็นภพภูมิชนิดใด กันเล่า ?
หรือ นายคันโตนาซี เข้าใจว่า นรกสวรรค์เป็นภพภูมิทาง "ความฝัน" เหมือนดังที่นายระนาดเอก ได้เคยแสดงเอาไว้
ซึ่งจนป่านนี้ มันและพวก ยังไม่สามารถแสดงให้เห็นได้เลยว่า พระพุทธเจ้าได้ตรัสแสดง ภพภูมิทางความฝัน ปรากฏหลักฐาน อยู่ในคัมภีร์เล่มใด ?
กระทู้ ความคิดและความฝัน ของน้ำเมือกเม็ดมะขาม
http://ppantip.com/topic/30318318
กระทู้ กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ด้วยการอ้าง อภิธรรม
http://ppantip.com/topic/30345472
ด้วยความบังเอิญอย่างยิ่ง ที่ผมได้พบว่า นายคันโตนาซีคนเดียวกันนี้นี่แหละได้ไปแสดงอาการ "หัวเราะเยาะ" ใส่ผู้อื่น
ด้วยเหตุที่ ใครคนนั้น กล่าวในทำนองว่า ปรโลก(โลกหน้า หรือ โลกอื่น) เป็นภพภูมิทางใจ !
การหัวเราะใส่ผู้อื่นแบบนี้ มันหมายความว่าอย่างไร กันครับ ?
เพราะถ้าให้ผมวิเคราะห์ มันก็ต้องหมายความว่า คุณไม่เห็นด้วยกับความคิดของอีกฝ่าย
ซึ่งที่จริงแล้ว เรื่องนี้ สามารถพิจารณาออกได้เป็น ๒ ประเด็น ดังนี้คือ
(๑) ก็ถ้า โลกหน้า หมายถึง เอกโวการภพ หรือ ปัญจโวการภพ กรณีอย่างนี้ ผมเห็นว่า
คันโตนาซี สามารถหัวเราะได้ตามใจชอบ เพราะโลกหน้าในกรณีนี้ ย่อมหมายถึง "ภพภูมิทางเนื้อหนัง" อย่างไม่ต้องสงสัย
(๒) แต่ถ้า โลกหน้า หมายถึง จตุโวการภพ ซึ่งหมายถึง เทวโลก เป็นต้นนั้น
กรณีเช่นนี้ มันจะ "หัวเราะ" หา "วรนุช" อะไรกันเล่าครับ ?
เว้นไว้เสียก็แต่ คันโตนาซีเห็นว่า นรกสวรรค์ มิได้เป็นภพภูมิทางใจ แต่เห็นแย้งว่า
เทวโลก และ พรหมโลก เป็นต้นนี้ เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง เฉกเช่นเดียวกับ สัตตาวาส(เอกโวการภพ)
หรือ โลกของพวกมนุษย์และสัตว์ดิรัจฉาน(ปัญจโวการภพ) !
ถึงอย่างไร ผมก็ยังคงหวังว่า คันโตนาซี คงจะไม่หมายความไปถึง "ภพภูมิทางความฝัน"
อย่างที่ นายระนาดเอก บัญญัติขึ้นมา(ใหม่) ใช่ไหมครับ ?
ด้วยเหตุผลและหลักฐานทั้งหมดทั้งมวล ตามที่ได้กล่าวแสดงมานี้ ผมขออนุญาตกล่าวตามตรงว่า
ในบัดนี้ ดูเหมือน นายคันโตนาซี จะเสาะหา นรกสวรรค์ ของเขาไม่เจอเสียแล้ว
เมื่อถามว่า นรกสวรรค์ เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง ใช่ไหม ?
มันก็ละล่ำละลักตอบมาว่า ไม่ใช่
แต่เมื่อถามว่า เช่นนี้ นรกสวรรค์ของเขา ก็ต้องหมายถึง ภพภูมิทางใจ น่ะสิ ?
คราวนี้กลับ "เงียบกริบ" ไม่มีคำตอบซะงั้น !
แต่เมื่อพิจารณาอาการ "หัวเราะร่า" ตามหลักฐานที่ปรากฏ มันก็ย่อมเท่ากับว่า
นายคันโตนาซี ได้กล่าวปฏิเสธ ภพภูมิทางใจ ไปแล้วนี่ครับ (หรือมิใช่ ?)
คำถามสุดท้าย ซึ่งที่จริงมันก็มีอยู่แค่เพียงคำถามเดียว ซึ่งดูเหมือน นายคันโตนาซี มีความกลัว(อย่างยิ่ง)ที่จะตอบ ก็คือ
นรกสวรรค์ ตามความคิดความเชื่อของ คันโตนาซีและพวก เป็นภพภูมิชนิดใดกันหรือครับ ?
กรุณา ตอบให้ตรงคำถามเสียทีนะครับ อย่าพยายาม "หนี" อีกเลย
หรือจะต้องรอ up "ทัมใจ" ให้หายจากอาการ "เงิบ" เสียก่อน จึงจะตอบคำถามง่ายๆ นี้ได้
น่าสมเพชว่ะ !
เมื่อ คันโตนาซี หาสวรรค์ไม่พบ และ หานรกไม่เจอ (ซะงั้น)
ว่า นรกสวรรค์ ตามความเชื่อ ของนายคันโตนาซี เป็นภพภูมิชนิดใดกันแน่ ?
แต่ นายคันโตนาซี กลับแสดงให้เห็นว่ามีความพยายาม "หลบเลี่ยง"
จนถึงแม้กระทั่งพยายามจะ "หลีกหนี" ที่จะตอบคำถามง่ายๆ อันนั้น
ก็เป็นนายคันโตนาซีเองมิใช่หรือ ที่กล่าวถึง ภพภูมิทางเนื้อหนัง ขึ้นมา
กล่าวคือ นายคนนี้อ้างว่า นรกสวรรค์ หลังการตาย เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง
พร้อมทั้งยังยกตัวอย่าง "บันได" ที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมา(จากสวรรค์)
ดังนั้น คำถามแรก ที่ผมถาม ก็เป็นเพียงคำถามง่ายๆ ว่า ..........
นรกสวรรค์ทางเนื้อหนัง ที่หมายถึง ต้องรับรู้สัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง ๕
เหมือนกับ ภพภูมิของมนุษย์ และสัตว์ดิรัจฉาน นั้นจะมีอยู่ได้อย่างไร ?
เพราะ เหล่าสัตว์ทั้งหลายทั้งในสวรรค์และนรก ล้วนเป็นพวกโอปปาติกะกำเนิด
ไม่มีเศษซากศพ ที่เป็นเนื้อหนังอะไร ทั้งในขณะเกิดและหลังจากตาย
นอกจากจะไม่มีคำตอบที่ตรงกับคำถามแล้ว นายคันโตนาซี ยังออกอาการ "ป๊อด"
ด้วยการปฏิเสธเป็นพัลวันว่า ภพภูมิทางเนื้อหนัง นี้เขาหมายถึง ภพภูมิหลังตายเท่านั้น
นั่นจึงแปลความได้ว่า นายคันโตนาซี ได้กล่าวปฏิเสธว่า นรกสวรรค์ไม่ใช่ภพภูมิทางเนื้อหนัง
ดังนั้น คำถามที่ ๒ ที่ผมถามคนผู้นี้ ก็คือ ...........
ในเมื่อนายคันโตนาซี เห็นว่า นรกสวรรค์มิได้เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง
แล้วมันยกกรณี "บันไดสวรรค์" ขึ้นมาอ้างทำไม ?
คราวนี้ เงียบเป็น "เป่าสาก" นะครับ สิ่งที่ถาม มันไม่ตอบ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม
นายคนนี้กลับ พยายาม "แถกแถ" เอาตัวรอดจากคำถามง่ายๆ นี้ด้วยการ กล่าวเสียดสีให้ร้ายพระ(ซะงั้น)
ญาติผู้ใหญ่สอนมาแบบนี้หรือครับว่า เมื่อไม่กล้าตอบคำถามตรงๆ ก็ให้ไปด่าพระ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น
ถามจริงๆ เถิดครับ คุณนุ่งผ้าถุง ในขณะเล่นเว็บบอร์ด อยู่รึเปล่า ?
คันโตนาซี ยังพอจะจำ "คำพูด" ของตนเองได้บ้างหรือไม่ครับ ?
เพียงเพราะผมใช้วิธี "ปิดกระทู้" ไปเสีย เพื่อลดภาระ การตอบโต้ที่ไร้ความหมาย
เนื่องจากไม่นิยม "การตีฝีปาก" ที่ไร้สาระของใครบางคน(แถวๆ นี้)
คันโตนาซี ก็ถึงกับจะเป็นจะตาย ออกมาโวยวายว่า ผมหนีกระทู้ ไม่กล้าตอบ(คำถามโง่ๆ)
ทั้งๆ ที่การตั้งกระทู้ใหม่ของผม ก็คือการ "ตอบคำถาม" ของพวกมันนั่นแหละ
แน่นอนว่า ในช่วงหลังมานี้ ผมไม่ประกาศ "ปิดกระทู้" อีกเลย แต่สิ่งที่พบ ก็คือ
(๑) คนที่ไม่กล้าตอบคำถามใดๆ (๒) คนที่พยายาม "บิดเบือน" ประเด็นกระทู้
และ (๓) คนที่พยายามจะ "หนีคำถาม" อยู่ตลอดเวลา กลับกลายเป็น คันโตนาซี เองมิใช่หรือ ?
ดังนั้น ผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายคันโตนาซี จะสามารถเคลียร์งานให้เสร็จ
แล้วจงมา "จัดเต็ม" กับคำถามง่ายๆ นี้เสียที นะครับ
อย่าดีแต่เห่า !
และทั้งๆ ที่ผมไม่เคยร้อง "เฮ้ย" สักคำ
ดังนั้น คันโตนาซี ก็จงอย่าได้แสดงให้เห็นว่า พร้อมจะ "หนีหางจุกตูด" อยู่ตลอดเวลา นะครับ
หลังจากที่นายตันโตนาซี เพียรพยายามจะปฏิเสธว่า นรกสวรรค์ มิได้เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง
ดังนั้น ผมจึงถามเขาว่า เช่นนี้ นรกสวรรค์ตามความเชื่อของนายคันโตนาซี หมายถึง ภพภูมิทางใจ ใช่หรือไม่ ?
น่าสมเพช ที่คราวนี้ นายคันโตนาซี กลับแสดงอาการ "หงายเงิบ" ไม่ยอมตอบคำถาม
พร้อมทั้งยังพยายาม "เบี่ยงเบนประเด็น" ด้วยการกล่าวร้ายป้ายสีพระ หนักข้อยิ่งขึ้นไปอีก
ญาติทางไหนของคุณ สอนให้ทำแบบนี้ครับ ช่างหน้าไม่อายจริงๆ ?
กล่าวโดยสรุป ก็คือ เมื่อได้ทำการสอบถามนายคันโตนาซีมานานพอสมควร ทำให้ทราบว่า
นรกสวรรค์ตามความเชื่อของเขานั้น (๑) มิได้เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง และ (๒) ไม่ได้เป็นภพภูมิทางใจ(เพราะการเงียบเท่ากับปฏิเสธ)
ดังนั้น คำถามที่พึงมีต่อไป ก็คือ ถ้าหากนรกสวรรค์ ไม่ใช่ทั้ง ภพภูมิทางเนื้อหนัง และ ภพภูมิทางใจ
แล้วนรกสวรรค์ของ นายคันโตนาซี มันเป็นภพภูมิชนิดใด กันเล่า ?
หรือ นายคันโตนาซี เข้าใจว่า นรกสวรรค์เป็นภพภูมิทาง "ความฝัน" เหมือนดังที่นายระนาดเอก ได้เคยแสดงเอาไว้
ซึ่งจนป่านนี้ มันและพวก ยังไม่สามารถแสดงให้เห็นได้เลยว่า พระพุทธเจ้าได้ตรัสแสดง ภพภูมิทางความฝัน ปรากฏหลักฐาน อยู่ในคัมภีร์เล่มใด ?
กระทู้ ความคิดและความฝัน ของน้ำเมือกเม็ดมะขาม
http://ppantip.com/topic/30318318
กระทู้ กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ด้วยการอ้าง อภิธรรม
http://ppantip.com/topic/30345472
ด้วยความบังเอิญอย่างยิ่ง ที่ผมได้พบว่า นายคันโตนาซีคนเดียวกันนี้นี่แหละได้ไปแสดงอาการ "หัวเราะเยาะ" ใส่ผู้อื่น
ด้วยเหตุที่ ใครคนนั้น กล่าวในทำนองว่า ปรโลก(โลกหน้า หรือ โลกอื่น) เป็นภพภูมิทางใจ !
การหัวเราะใส่ผู้อื่นแบบนี้ มันหมายความว่าอย่างไร กันครับ ?
เพราะถ้าให้ผมวิเคราะห์ มันก็ต้องหมายความว่า คุณไม่เห็นด้วยกับความคิดของอีกฝ่าย
ซึ่งที่จริงแล้ว เรื่องนี้ สามารถพิจารณาออกได้เป็น ๒ ประเด็น ดังนี้คือ
(๑) ก็ถ้า โลกหน้า หมายถึง เอกโวการภพ หรือ ปัญจโวการภพ กรณีอย่างนี้ ผมเห็นว่า
คันโตนาซี สามารถหัวเราะได้ตามใจชอบ เพราะโลกหน้าในกรณีนี้ ย่อมหมายถึง "ภพภูมิทางเนื้อหนัง" อย่างไม่ต้องสงสัย
(๒) แต่ถ้า โลกหน้า หมายถึง จตุโวการภพ ซึ่งหมายถึง เทวโลก เป็นต้นนั้น
กรณีเช่นนี้ มันจะ "หัวเราะ" หา "วรนุช" อะไรกันเล่าครับ ?
เว้นไว้เสียก็แต่ คันโตนาซีเห็นว่า นรกสวรรค์ มิได้เป็นภพภูมิทางใจ แต่เห็นแย้งว่า
เทวโลก และ พรหมโลก เป็นต้นนี้ เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง เฉกเช่นเดียวกับ สัตตาวาส(เอกโวการภพ)
หรือ โลกของพวกมนุษย์และสัตว์ดิรัจฉาน(ปัญจโวการภพ) !
ถึงอย่างไร ผมก็ยังคงหวังว่า คันโตนาซี คงจะไม่หมายความไปถึง "ภพภูมิทางความฝัน"
อย่างที่ นายระนาดเอก บัญญัติขึ้นมา(ใหม่) ใช่ไหมครับ ?
ด้วยเหตุผลและหลักฐานทั้งหมดทั้งมวล ตามที่ได้กล่าวแสดงมานี้ ผมขออนุญาตกล่าวตามตรงว่า
ในบัดนี้ ดูเหมือน นายคันโตนาซี จะเสาะหา นรกสวรรค์ ของเขาไม่เจอเสียแล้ว
เมื่อถามว่า นรกสวรรค์ เป็นภพภูมิทางเนื้อหนัง ใช่ไหม ?
มันก็ละล่ำละลักตอบมาว่า ไม่ใช่
แต่เมื่อถามว่า เช่นนี้ นรกสวรรค์ของเขา ก็ต้องหมายถึง ภพภูมิทางใจ น่ะสิ ?
คราวนี้กลับ "เงียบกริบ" ไม่มีคำตอบซะงั้น !
แต่เมื่อพิจารณาอาการ "หัวเราะร่า" ตามหลักฐานที่ปรากฏ มันก็ย่อมเท่ากับว่า
นายคันโตนาซี ได้กล่าวปฏิเสธ ภพภูมิทางใจ ไปแล้วนี่ครับ (หรือมิใช่ ?)
คำถามสุดท้าย ซึ่งที่จริงมันก็มีอยู่แค่เพียงคำถามเดียว ซึ่งดูเหมือน นายคันโตนาซี มีความกลัว(อย่างยิ่ง)ที่จะตอบ ก็คือ
นรกสวรรค์ ตามความคิดความเชื่อของ คันโตนาซีและพวก เป็นภพภูมิชนิดใดกันหรือครับ ?
กรุณา ตอบให้ตรงคำถามเสียทีนะครับ อย่าพยายาม "หนี" อีกเลย
หรือจะต้องรอ up "ทัมใจ" ให้หายจากอาการ "เงิบ" เสียก่อน จึงจะตอบคำถามง่ายๆ นี้ได้
น่าสมเพชว่ะ !