ไม่เป็นไร สบายดี ไม่มีเปลี่ยน
ยังวนเวียน อ่านเขียน เพียรศึกษา
ก็คลับคล้าย เหมือนก่อน เคยเป็นมา
ยามเอ่ยลา ครั้งนั้น ฉันเหมือนเคย
ก็เข้าใจ ยังยิ้มได้ ใช่เคืองขุ่น
ไม่ว้าวุ่น กรุ่นโกรธ ยังวางเฉย
อาจมีบ้าง ที่หวนคิด เผลอเปรยเปรย
แต่ผ่านเลย ผ่านไป ให้จบกัน
ความเชื่อใจ ให้กันได้ คนละครั้ง
มิเกลียดชัง แต่คงยาก จะแปรผัน
อันคืนวัน พลันเปลี่ยน ใจครามครัน
อาจเพราะฉัน ให้เธอ ไม่มากพอ
ไม่โทษใคร ใช่ความผิด อย่าคิดมาก
การลาจาก ใช่ใครอยาก ใคร่วอนขอ
ก็เพียงแค่ ก้าวเดินต่อ อย่ารั้งรอ
อาจมีท้อ เหนื่อยล้าบ้าง เป็นธรรมดา
เพราะไม่พูด ให้เธอรู้ ความรู้สึก
ที่เก็บลึก ถูกซ่อนไว้ ใต้เปลือกหนา
เกราะป้องกัน คุ้มภัย แต่นานมา
จึงนำพา เธอห่างไป ในสายลม
ฉันคงเป็น คนที่เธอ เห็นว่าแกร่ง
ดูแข็งแรง ไม่แสดง ความขื่นขม
ใครต่อใคร ชี้ชวนมอง คอยชื่นชม
เพราะยามล้ม ฉันลุกเอง ไม่พึ่งใคร
แต่สิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่เคย ได้เอ่ยบอก
กลัวช้ำชอก ถูกลวงหลอก เธอผลักไส
ความอ่อนแอ ไม่มั่นคง ตรงหัวใจ
หากเอ่ยไป กลัวน้ำตา มาเยี่ยมเยือน
คือความรัก ประจักษ์จิต คิดใฝ่ถึง
เคยตราตรึง คำนึงห่วง ทรวงเสมือน
แนบสนิท ชิดอุรา มิแรมเลือน
แต่แชเชือน เบือนบิด ตามติดกาล
หากวันนี้ เธอรู้ไป ก็ใช่ที่
จึงขอมี ความลับ ไว้ขับขาน
เป็นนิทาน เรื่องเล่า ของวันวาน
คือสะพาน ทอดยาว พราวเพลิดเพลิน
โลกใบนี้ บางทีแปลก ทำฉงน
แยกบางคน เคยใกล้ ให้ห่างเหิน
แล้วหมุนกลับ ตีลังกา มาเผชิญ
เรื่องบังเอิญ เราเดินผ่าน พานพบเจอ
เพียงขอให้ ยิ้มให้กัน อย่าหันหนี
อย่ารอรี ทักทาย คล้ายเสนอ
ค่อยหยิบยื่น ไมตรี ฉันและเธอ
เช่นเสมอ เป็นมา อย่าประวิง
เข้าใจผิด คิดใหม่ อภัยพร้อม
ก็ยอมยอม อย่าแรงมา ทั้งข่าขิง
เกิดมาแล้ว คงไม่แคล้ว ได้แอบอิง
ไว้พักพิง ทิ้งกาย ผ่อนคลายทรวง...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฟังเพลง ไปๆ มาๆ ทำงาน แล้วก็นึกเกิดคิดกลอนขึ้นมาได้พอดี ขอเขียนแปะไว้นิดหน่อยแล้วกันค่ะ ยิ้มวันละนิดจิตแจ่มใสนะเออ... ฮี่ๆๆๆๆ ส่วนตรงนี้เป็นเพลงที่ฟังค่ะ
เกี่ยวหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่นั่งฟังไปเขียนไปนี่นา ฮี่ๆๆๆๆ
...ยังยิ้มได้...
ไม่เป็นไร สบายดี ไม่มีเปลี่ยน
ยังวนเวียน อ่านเขียน เพียรศึกษา
ก็คลับคล้าย เหมือนก่อน เคยเป็นมา
ยามเอ่ยลา ครั้งนั้น ฉันเหมือนเคย
ก็เข้าใจ ยังยิ้มได้ ใช่เคืองขุ่น
ไม่ว้าวุ่น กรุ่นโกรธ ยังวางเฉย
อาจมีบ้าง ที่หวนคิด เผลอเปรยเปรย
แต่ผ่านเลย ผ่านไป ให้จบกัน
ความเชื่อใจ ให้กันได้ คนละครั้ง
มิเกลียดชัง แต่คงยาก จะแปรผัน
อันคืนวัน พลันเปลี่ยน ใจครามครัน
อาจเพราะฉัน ให้เธอ ไม่มากพอ
ไม่โทษใคร ใช่ความผิด อย่าคิดมาก
การลาจาก ใช่ใครอยาก ใคร่วอนขอ
ก็เพียงแค่ ก้าวเดินต่อ อย่ารั้งรอ
อาจมีท้อ เหนื่อยล้าบ้าง เป็นธรรมดา
เพราะไม่พูด ให้เธอรู้ ความรู้สึก
ที่เก็บลึก ถูกซ่อนไว้ ใต้เปลือกหนา
เกราะป้องกัน คุ้มภัย แต่นานมา
จึงนำพา เธอห่างไป ในสายลม
ฉันคงเป็น คนที่เธอ เห็นว่าแกร่ง
ดูแข็งแรง ไม่แสดง ความขื่นขม
ใครต่อใคร ชี้ชวนมอง คอยชื่นชม
เพราะยามล้ม ฉันลุกเอง ไม่พึ่งใคร
แต่สิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่เคย ได้เอ่ยบอก
กลัวช้ำชอก ถูกลวงหลอก เธอผลักไส
ความอ่อนแอ ไม่มั่นคง ตรงหัวใจ
หากเอ่ยไป กลัวน้ำตา มาเยี่ยมเยือน
คือความรัก ประจักษ์จิต คิดใฝ่ถึง
เคยตราตรึง คำนึงห่วง ทรวงเสมือน
แนบสนิท ชิดอุรา มิแรมเลือน
แต่แชเชือน เบือนบิด ตามติดกาล
หากวันนี้ เธอรู้ไป ก็ใช่ที่
จึงขอมี ความลับ ไว้ขับขาน
เป็นนิทาน เรื่องเล่า ของวันวาน
คือสะพาน ทอดยาว พราวเพลิดเพลิน
โลกใบนี้ บางทีแปลก ทำฉงน
แยกบางคน เคยใกล้ ให้ห่างเหิน
แล้วหมุนกลับ ตีลังกา มาเผชิญ
เรื่องบังเอิญ เราเดินผ่าน พานพบเจอ
เพียงขอให้ ยิ้มให้กัน อย่าหันหนี
อย่ารอรี ทักทาย คล้ายเสนอ
ค่อยหยิบยื่น ไมตรี ฉันและเธอ
เช่นเสมอ เป็นมา อย่าประวิง
เข้าใจผิด คิดใหม่ อภัยพร้อม
ก็ยอมยอม อย่าแรงมา ทั้งข่าขิง
เกิดมาแล้ว คงไม่แคล้ว ได้แอบอิง
ไว้พักพิง ทิ้งกาย ผ่อนคลายทรวง...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้