กระเป๋าเดินทางนิรนาม

ภาพข้าวของภายในกระเป๋าเดินทางที่ถูกทิ้งร้างไว้
และยังหลงเหลืออยู่ในโรงพยาบาลโรคจิตเวช Willard Asylum มหานครนิวยอร์ก
เป็นข้าวของชิ้นสุดท้ายของผู้ป่วยที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ในโรงพยาบาลตลอดชีวิต
เพื่อแยกตัวพวกเขาออกจากชีวิตโลกภายนอก
ข้าวของเหล่านี้ได้บอกเล่าเรื่องราวถึงครั้งหนึ่งในชีวิต
พวกเขาเคยมีชีวิตจิตใจ มีครอบครัว มีคนรัก มีข้าวของ มีทรัพย์สมบัติ
ก่อนที่ญาติพี่น้องครอบครัวของพวกเขาจะตัดสินใจส่งผู้ป่วยมาอยู่ ณ ที่แห่งนี้
หลายคนจบชีวิตที่นี่แล้ว  ศพจะถูกฝังที่สุสานฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล
กลายเป็นคนไร้ชื่อไร้นาม (นิรนาม) ไม่นานก็ไม่มีใครจดจำหรือรู้จักอีกตลอดกาล

ภาพเหล่านี้ช่างภาพ  Jon Crispin  ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพข้าวของในกระเป๋าเดินทางของผู้ป่วย
ที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังที่โรงพยาบาลจิตเวช Willard Asylum ทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ค
กระเป๋าเดินทางรวม  400 ใบถูกค้นพบบนห้องใต้หลังคาโดยถูกวางทิ้งไว้จนถึงปี  1995(2538)
นับตั้งแต่ช่วงปีที่ผู้ป่วยเข้ามารักษาในปี 1910-1960(2453-2503)
ผู้ป่วยหลายคนเสียชิวิตในโรงพยาบาล  และศพถูกฝังไว้ในสุสาน
ที่หลุมฝังศพมีเพียงตัวเลขหน้าป้ายหลุมศพ    ไร้ชื่อไร้นามผู้ตาย

เมื่อผู้ป่วยถูกตัดสินจากครอบครัวญาติพี่น้องแล้วว่า
ให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช Willard Asylum
พวกเขาต่างมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยข้าวของส่วนตัว
ที่พวกเขาหรือญาติพี่น้องครอบครัวของพวกเขาคิดว่า
จำเป็นสำหรับผู้ป่วยเพื่อผ่านช่วงวันเวลาในการใช้ชีวิตภายใน ณ ที่แห่งนี้
แต่หลายคนไม่เคยออกไปจากสถานที่แห่งนี้อีกเลย
บางคนถูกทอดทิ้งไว้ ณ ที่แห่งนี้ร่วม 30 ปี

ภายในกระเป๋าเดินทางต่างเต็มไปด้วยข้าวของ
ที่เปี่ยมล้นด้วยจินตนาการและความทรงจำที่รำลึกถึงอดีตของผู้ป่วย
แต่แล้วข้าวของทั้งหมดยังถูกกักขังซ้ำอีกครั้ง
บนห้องใต้หลังคาของโรงพยาบาล  แล้วหลงลืมไปกับกาลเวลา
ในปี 1995(2538) ลูกจ้างโรงพยาบาลได้ค้นพบกระเป๋าเดินทางของผู้ป่วยจำนวน 400 ใบ
ที่มีการเก็บรวบรวมไว้ตั้งแต่ปี 1910-1960(2453-2503)

ตอนนี้ ช่างภาพ Jon Crispin ได้ถ่ายภาพข้าวของภายในกระเป๋าเดินทางของผู้ป่วย
ถ่ายได้เพียงส่วนหนึ่งจำนวน  80 ใบจากกระเป๋าเดินทางทั้งหมด
ภาพถ่ายเหล่านี้เป็นการร่วมรับรู้ชีวิตจิตใจและชะตากรรมของผู้คน
ที่เจ็บป่วยไม่สบายและไม่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน
ไปอยู่ร่วมกับญาติพี่น้องครอบครัวหรือใช้ชีวิตกับสังคมภายนอกอีกเลย


ส่วนหนึ่งของชีวิตที่ผ่านมา  กระเป๋าใบนี้เป็นของ Anna
ภายในมีจดหมายที่ไม่ได้จ่าหน้าซองถึงเธอ แปรงสีฟันหนึ่งคู่
เข็มขัดและผ้าคาดเอวสีฉูดฉาด เช่นเดียวกับ รองเท้าและหมวก



กระเป๋าใบนี้เป็นของ Frank C  ทหารผ่านศึกสหรัฐจาก Brooklyn มหานครนิวยอร์ค
ภายในมีชุดอุปกรณ์ซ่อมแซมเสื้อผ้า  อุปกรณ์ชุดดูแลเครื่องแต่งกายและผมเผ้าให้เรียบร้อย
ปืนเด็กเล่น  บัตรปันส่วนขนมปัง และของอื่น ๆ ตามภาพ ภาพถ่ายของตนเองและครอบครัว



ชุดเครื่องแบบทหารสหรัฐ Frank C ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
แม้ว่ามันจะถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางตั้งแต่ปี 1950(2493)
จนกระทั่งถูกค้นพบอีกครั้งในปี  1995(2538)



ภาพถ่ายครอบครัว Frank C ที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง ตามประวัติแล้วเขาไม่เคยออกจากโรงพยาบาลแห่งนี้อีกเลย
เหมือนกับผู้ป่วยจำนวนมากที่เสียชีวิตที่นั่น  ทุกศพจะถูกฝังในหลุมฝังศพที่ไร้ชื่อไร้นามมีแต่ตัวเลขกำกับไว้เท่านั้น



ภาพกระเป๋าเดินทางที่ถูกทอดทิ้งแล้วโดย Frank C
ไม่มีสัญญาณอาการป่วยทางจิตเลย
ภายในกระเป๋าเดินทางจะเห็นว่ามีการจัดข้าวของอย่างเป็นระเบียบ


ช่างภาพ  Jon Crispin ให้สัมภาษณ์กับ MailOnline
" เรื่องราวที่ผ่านมาจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องไม่จริง ก็คือว่า
ผู้ป่วยเหล่านี้ต่างเป็นนักโทษภายในอย่างแท้จริงและแน่นอนว่าใช่เลย
ครอบครัวญาติพี่น้องพวกเขาต่างละทิ้งพวกเขา
พวกเขามอบกระเป๋าเดินทางให้กับผู้ป่วย
หลังจากได้ตัดสินใจเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว
โดยครอบครัวญาติพี่น้องผู้ป่วยได้จัดเตรียมข้าวของให้ทั้งหมด
หรือให้ผู้ป่วยจัดเตรียมข้าวของด้วยตนเอง

ให้ลองมองไปที่ข้าวของในกระเป๋าเดินทางเหล่านี้  แล้วลองคิดดูว่า
คนเหล่านี้ตอนมีชีวิตจริง ๆ ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกอย่างไรบ้าง  ก่อนที่จะเดินทางมาอยู่ในที่นี่
Frank C  อดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สองจาก Brooklyn  มหานครนิวยอร์ค
พร้อมนำเครื่องแบบทหารสหรัฐ  ซึ่งยังคงเก็บรักษาไว้ในสภาพเหมือนเดิมในกระเป๋าเดินทาง
ทั้งยังมีภาพถ่ายของตนเองและภาพถ่ายของครอบครัวด้วย
ยังมีภาพบางส่วนในช่วงหนึ่งของชีวิตภายในกองทัพสหรัฐ
กับภาพการใช้ชีวิตที่บ้านเกิดเมืองนอนหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง

ส่วนกระเป๋าเดินทางที่เป็นของสตรีผู้หนึ่งที่ชื่อ Anna  ได้เปิดเผยให้เห็นว่า
เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานกับงานรื่นเริงงานปาร์ตี้ต่าง ๆ
เธอบรรจงวางรองเท้าส้นสูงคู่ที่ทันสมัย  และหมวกที่สวยเก๋จำนวนหลายใบ
เข็มขัดที่ประดับประดาด้วยเลื่อมลายสีทองบาง ๆ ที่บ่งบอกถึงการใช้ชิวิตที่หรูหรา
อย่างมีรสนิยมในการสังสรรค์และแสดงตัวตนในงานเลี้ยงต่าง ๆ "


Dmytre เจ้าของกระเป๋าเดินทางใบนี้  เป็นหนึ่งในผู้ป่วยไม่กี่คนในโรงพยาบาลแห่งนี้ที่เป็นที่รู้จักกันดี
เขาเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ในปี 1953(2496)  และอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลา 24 ปี เสียชีวิตในปี 2000(2543)



Flora T. เห็นได้ชัดว่าเป็นสตรีชนชั้นสูง(ไฮโซ)  มีข้าวของอย่างดี เช่น ขวดน้ำหอม
วงแหวนที่รูดผ้าเช็ดปากทำด้วยเงิน แต่ก็มีด้านมืด(ด้านไม่ดี)ของข้าวของที่สะสม คือ
ชุดเข็มฉีดยาและยาเสพติดที่ใช้ฉีด



ชุดยาเสพติดของ Flora T. ดูเหมือนว่าจะเป็น strychnine sulfate  เป็นยาที่ใช้รักษาโรคลมชัก
ไม่มีใครทราบว่าเธอถูกส่งตัวมารักษา ณ ที่แห่งนี้  ด้วยเหตุผลอันใด



" Willard Asylum  เป็นโรงพยาบาลรักษาโรคจิตเวช ที่ถูกสร้างขึ้นและใช้งานตั้งแต่ปี 1800-1995(2343-2538)
มีแต่เพียงคำบอกเล่ากันว่า  มีผู้ป่วยหลายพันคนที่เคยรักษาตัวที่นี่  และหลายพันคนที่จบชีวิตลงที่นี่เช่นกัน
ตอนนี้ใช้เป็นสถานที่ฟื้นฟูสมรรถนะร่างกายและรักษาคนป่วยที่เสพย์ยาเสพติด

กล่องกระดาษแข็งที่ใส่ข้าวของ Eleanor G. มีชุดม้วนผมคีมคู่ที่ทำด้วยเหล็ก
ชุดซ่อมแซมเสื้อผ้า น้ำหอมในขวดแก้วที่เป่าด้วยช่างฝีมือทำแก้ว
แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง  ในตอนที่ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาล

ภาพข้าวของทั้งหมดได้ทำให้ผมต้องหวนคิดคำนึงว่า  ข้าวของทั้งหมดเป็นของส่วนตัวของผู้ป่วย
เมื่อเพ่งมองไปที่ข้าวของเหล่านี้  ย่อมจะจินตนาการได้ว่า  เจ้าของเดิมมีการใช้ชีวิตเป็นอยู่อย่างไร
จากภาพถ่ายกระเป๋าเดินทางรวม 80 ใบ  แต่กฎหมายรัฐนิวยอร์คห้ามไม่ให้ช่างภาพ Jon Crispin
รายงานชื่อเจ้าของกระเป๋าเดินทางที่ตรวจสอบกับบันทึกรายชื่อคนป่วยของโรงพยาบาลได้
แม้ว่าจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของผู้ป่วยที่สมบูรณ์ถูกต้องมากขึ้น
เพราะผู้ป่วยทุกคนจะต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเรื่องความลับหรือสิทธิของผู้ป่วย

ผู้ป่วยหลายคนถูกส่งตัวมารักษาที่นี่ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา  เช่น
Epilepsy โรคลมชัก  ทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่พักพิงตลอดชีวิต
หญิงสาวที่เป็นโรค hysteria  ชายที่เป็นเกย์และหญิงที่เป็นเลสเบี้ยน
คุณแม่ที่ไม่สามารถทนทุกข์ทรมานกับความเศร้าโศกที่สูญเสียลูกวัยสามเดือนหรือน้อยกว่านั้น
ผู้ป่วยทั้งหมดต้องถูกครอบครัวหรือญาติพี่น้องตัดสินใจให้ส่งตัวมา ณ ที่แห่งนี้ "


กระเป๋าเดินทางของผู้ป่วยในอดีตที่ถูกพบบนห้องใต้หลังคา
มีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของผู้ป่วย  ที่มากับพร้อมกับการเดินทางมาถึงและการจากไปของเจ้าของ
ภายในมีข้าวของตั้งแต่สิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีมูลค่าไม่มีราคา จนกระทั่งข้าวของราคาแพง
ข้าวของเหล่านี้ได้บอกเล่าเรื่องราวชีวิตเจ้าของในอดีตที่ผ่านมา
เป็นความทรงจำที่น่าเศร้าสลดและหดหู่ใจ

มีชุดเด็กทารกที่เย็บด้วยมือจากเจ้าของเสื้อผ้า
ที่หวังจะมอบให้เด็กทารกที่เสียชีวิตไปแล้ว  
สามีที่ใช้ความรุนแรงกับภริยาเพราะพิษสุรา
จดหมายวิงวอนขอความช่วยเหลือให้พาไปจากที่นี่
หรือให้พาเธอหลบหนี  ที่ไม่เคยส่งถึงผู้รับ
ภาพสาวยุโรปกำลังละเล่นสนุกสนานบนชายหาด
เอกสารประจำตัวบุคคลที่ทางรัฐการออกให้
รองเท้าสเก็ตน้ำแข็ง  หนังสือปรัชญา วรรณกรรมและบทกวี


ลังกระดาษใส่ขาเทียมที่มีรายละเอียดจ่าหน้าว่าส่งให้กับ Willard จาก Henry L.



ช่วงของวันเวลา Peter L. เพิ่งจะซื้อหนังสือพิมพ์  Syracuse มหานครนิวยอร์ก
ก่อนวันที่จะถูกส่งตัวมา ณ ที่แห่งนี้ วันที่ 22 มีนาคม 1941(2484)



ชำรุดทรุดโทรม  กระเป๋าเดินทางของ Clarissa B  แสดงให้เห็นถึงสภาพการใช้งานที่ผ่านมา
แม้ว่าจะมีร่องรอยของความชำรุดทรุดโทรม  แต่กระเป๋าใบนี้ก็ถูกเก็บไว้นานจนเกือบลืมกว่าหลายทศวรรษ



Eleanor G.  มีกล่องกระดาษหลายใบที่เก็บสะสมข้าวของเครื่องใช้
บางกล่องที่เก็บขวดน้ำหอมราคาแพง อุปกรณ์เครื่องดัดผมไฟฟ้าแบบคีมคู่  และอุปกรณ์ซ่อมแซมเสื้อผ้า



Charles พร้อมกับ Zither พิณประเภทหนึ่งที่นำมาพร้อมกับการเข้ามารักษาอาการเจ็บป่วย ณ ที่แห่งนี้
ในช่วงปลายปี 1930(2473)  ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาได้รับอนุญาตให้เล่นมันอีกหรือไม่



ขวดใส่กลีเซอรีนพร้อมกับจุกไม้ก๊อก  พบในกล่องเก็บข้าวของ Maude K.
พร้อมกับที่ทับกระดาษที่ระบุปี 1893(2436) งานแสดงสินค้าโลกมหานครชิคาโก้


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ภาพเบื้องหลังการถ่ายภาพของ Jon Crispin


หมายเหตุ ผลงานภาพถ่ายของ Jon Crispin
ตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการเกี่ยวกับสุขภาพจิต
จัดที่ Exploratorium พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ในซานฟรานซิสโก
นิทรรศการที่ชื่อว่า  เผชิญหน้าการเปลี่ยนแปลงกับเรื่องอะไรที่เรียกว่าปกติ(หรือธรรมดา)
The Changing Face of What is Normal ?

เรียบเรียงจาก
https://www.facebook.com/Dr.KomatraChuengsatiansup?hc_location=stream
http://goo.gl/gFJas
http://www.exploratorium.edu/press-office/press-releases/changing-face-what-normal-mental-health
http://dict.longdo.com/
http://google.co.th
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่