^ . ^ สวัสดีทุกคนค่ะ และขอบคุณที่คลิกเข้ามา จะด้วยบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม เพื่อมาดูน้องใหม่คนนี้เขียนเรื่องราวผ่านแป้นพิมพ์ แชร์ประสบการณ์ โดยหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นกำลังใจให้อีกหลายๆคนนะคะ ตามหัวข้อที่เกริ่นไว้เลยค่ะ
“แค่ปรับ ก็เปลี่ยน คุณเองก็ดูดีได้ แม้ไม่ได้ศัลยกรรม” แต่ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยนะคะ แอนไม่ได้เข้ามาเพื่อแอนตี้การศัลยกรรมแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าการพัฒนาตนเอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีหรือรูปแบบใด ไม่ใช่เรื่องผิด หากเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ทั้งนี้แอนเพียงต้องการนำเสนอมุมมองของการพัฒนาตนเองในอีกด้าน แบบไม่ต้องผ่านมีดหมอหรือเสียเงินจำนวนมากๆ แต่คุณเองก็ดูดีขึ้นได้จนใครๆต้องทัก เพื่อคนอีกกลุ่มที่ยังมีความกลัวการศัลยกรรม เงินเดือนน้อย หรือชักหน้าแทบไม่ถึงหลังต่อเดือน
นำไปเป็นแนวทางปฏิบัติกันนะคะ
ก่อนที่จะว่ากันต่อไป แอนก็นำรูปจริงผ่านจอ มาให้ดูกันด้วยค่ะ ว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน แอนมีความเปลี่ยนแปลงมากน้อยอย่างไรบ้าง (คือจริงๆปัจจุบันไม่ใช่ว่าจะบอกว่าตัวเองเป็นคนสวยนะคะ เพียงแต่คิดว่าทุกอย่างดูพอไปวัดไปวาขึ้นจริงๆ อย่างไม่น่าเชื่อ ^.^ )
แต่ละภาพคือการเปลี่ยนแปลง ในแต่ละช่วง 1-2ปี เพื่อให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงมันไปแบบ ทีละเล็กละน้อยนะคะ
เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน แอนจึงนำเอา 3 ภาพ เพื่อมาทำการสรุปให้เห็น มากยิ่งขึ้นอีกครั้งค่ะ
กล้าพูดตรงนี้ได้เลยว่าไม่เคยผ่านการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ตา จมูก ปาก โครงหน้าใดใดทั้งสิ้นนะคะ ทุกอย่างดีขึ้นได้จากการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหัวใจหลักของการปรับเพื่อเปลี่ยนในกฏของแอนมี 3 ข้อง่ายๆค่ะ
1. รักตัวเอง 2. มีกำลังใจ 3. มีวินัย
จากนั้นเราก็เริ่มมาสำรวจตัวเองกันได้เลยว่า อะไรคือจุดเด่น และอะไร คือจุดด้อยของเรา ติ๊กต่อกๆๆๆๆ เอาล่ะค่ะ พอรู้แล้วก็ต้องทำแบบนี้นะคะ …....”เชิดชูจุดเด่น กำจัดจุดด้อย” ตัวอย่างของแอน
ข้อดี(ที่ทั้งเราและคนอื่นมองเห็น) คือ ชอบมีคนทักแค่ว่าตาโตสวยนะ(สวยแต่ตาค่ะอย่างอื่นดูไม่ได้) หน้าเด็กกว่าเพื่อนหลายๆคนในรุ่นเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มองว่าอาจเป็นข้อดี จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บรักษาและพัฒนาจุดดีนั้นต่อไปค่ะ ข้อเสีย ผิวคล้ำเสีย หน้ามัน เป็นสิวง่าย มีรอยดำ ฟันห่าง (เอาแค่นี้ก่อนนะคะสงสารตัวเอง T.T) จึงปฏิวัติตัวใหม่ ดูแลผิวทุกวิถีทาง รักษาความสะอาดใบหน้า ดัดฟัน บลาๆๆ
รู้ข้อเสียก็ต้องหาวิธีแก้ไขน่ะสิคะ (เนื้อหาอาจยาวมากๆ ถ้าทำให้เพื่อนๆที่ไม่ชอบอ่านเบื่อ ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่เป็นความจริงที่อยากบอกเล่า เพราะคนไม่มีชื่อเสียงอย่างเราๆ เขียนเป็นหนังสือก็คงไม่มีใครอยากซื้ออ่าน ทำได้แค่แชร์ผ่านช่องทางนี้ จึงอยากบอกต่อแบบไม่ขอกั๊กเลยค่ะ)
ก่อนอื่นให้ตั้งคำถามทุกครั้ง เพื่อนำไปสู่คำตอบและวิธีแก้ ตัวอย่างเช่น เราผิวคล้ำมาก หน้าเป็นสิว ทำไงดีถึงจะผิวขาว ใส (แบบปลอดภัยด้วยนะจ๊ะ) คำตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แต่ของแอนเน้นอิงธรรมชาติและมีวิตามินเสริมเข้ามาร่วมด้วย สลับกันค่ะ
โดยแอนมีข้อปฏิบัติแสนง่ายดังนี้
- เรากำลังจะเข้าโหมดปรับเปลี่ยนผิว จดจำเรื่องต่อไปนี้ให้ดี หากต้องการมีผิวสวยขึ้นจริง เพราะเป็นสิ่งสำคัญ อย่าพยายามลืม ขาด หรือผลัดวันที่จะทำ ปรับพฤติกรรมแย่ๆ ออกให้หมดด้วยนะคะ
1. กันแดด หน้า สำคัญกว่าตัวมาก แต่ถ้าไม่ขี้เกียจเกินไป ควรทาทั้งคู่ค่ะ โดยกันแดดหน้าทาอย่างน้อย ปริมาณ 1ข้อนิ้วมือนะคะ ไม่อย่างนั้นจะไม่ช่วยอะไรเลย แถมก่อให้เกิดรอยดำ ฝ้า กระ ริ้วรอย ได้มากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นค่ะ อ้อ ละที่ห้ามลืมเด็ดขาด คือทากันแดดก่อนที่จะเปิดคอมพิวเตอร์เล่นทุกครั้งนะคะ และปรับระดับแสงไม่ต้องสว่างจ้านัก เพราะแสงจากจอคอมทำร้ายคุณโดยไม่รู้ตัว ไม่เชื่อลองดับไฟห้องละเปิดคอมดู คุณจะรู้ว่าแสงจอคอมพุ่งเข้าใส่เรามากแค่ไหน ทั้งคุณผู้ชายและผู้หญิง ถ้าไม่อยากมีผิวหน้ากร้าน คล้ำเสีย ปรับตัวเองในข้อนี้ด้วยนะคะ
2. น้ำดื่มเอาขวด 1500 ml พกใกล้ตัวเลยค่ะ ที่บ้านหรือโต๊ะทำงาน ดีกว่าการดื่มทีละแก้วตรงที่ เราสามารถทราบได้จากปริมาณคงเหลือจากขวดว่า ต่อวันเราทานน้ำเพียงพอมากหรือน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเป็นแก้วหลายๆคนมักลืมว่า เราทานไปเท่าไหร่แล้วววน้าาาาา (แค่จำงานก็มึนจะแย่ละค่ะ) หมั่นจิบบ่อยๆ ตลอดวันและไม่ดื่มเกิน1 แก้วในระหว่างทานอาหาร เพราะน้ำย่อยจะเจือจางระบบการเผาผลาญเสีย ยกเว้นตื่นเช้ามาจะดื่มมากแค่ไหนก็ได้ที่เราไหว เพราะเป็นการล้างสารพิษตกค้างช่วยให้ผิวใส ชุ่มชื่น และสิวอุดตันหายไว ฝ่อและหลุดมาได้ เพราะ การดื่มน้ำคือการเพิ่มออกซิเจนแก่ผิวนะคะ
3. หา Moisturizer ดีดีสักตัว ทาเป็นประจำ ถามว่าเจ้าตัวนี้สำคัญอย่างไร ร่างกายเราต้องการน้ำฉันใด ผิวหน้าเราก็ต้องการความชุ่มชื่นฉันนั้น ลองดูค่ะ และคุณจะพบความเปลี่ยนแปลง แห่งผิวที่ไม่ดูเสื่อมโทรมเกินวัย เพียงเลือกให้เข้ากับสภาพผิวเราค่ะ ทริคเล็กๆคือ ทุกครั้งที่จะล้างหน้าทาครีมขอให้เบามือมากเหมือนเอาปลายนิ้วมือปัดฝุ่นอย่างนั้นน่ะค่ะ และทาไปตามแนวขน อันนี้เรื่องจริง เปลี่ยนแนวที่ไม่เป็นระเบียบให้กลายเป็นทิศทางเดียวกัน มีผต่อการระบายน้ำมันและของเสียได้ดีขึ้นสิวลดลง อย่ากลัวว่าทาครีมต้องย้อนขึ้นไม่งั้นหน้าเหี่ยวไม่จริงค่ะ เพราะการทำให้หน้าเหี่ยวคือการทำรุนแรงกับผิวหน้ามากกว่าค่ะ
4. ยาแต้มสิวเฉพาะจุด ย้ำเฉพาะจุด มีติดบ้านไว้จะเป็นยี่ห้อใดก็ได้ค่ะ ที่เราว่ามันดี แต่ถ้าใครไม่ทราบจริงๆว่าในร้านยาหรือทั่วไป จะเอาตัวไหนดี ก็ไว้มาคุยหลังไมค์กันนะคะ เพราะไม่แน่ใจว่าสามารถบอกที่นี่ได้ไหม และตามที่บอกไปเฉพาะจุด ดังนั้นให้แต้มเฉพาะจุด อย่าละเลง ทาเกินพื้นที่สิวมากนักนะคะ เพราะจะทำให้ผิวหน้าโดยรอบ แห้ง ลอก แดง นั่นหมายความว่าคุณทำร้ายผิวให้กลับแย่ลง มาถึงตอนนี้ แอนขอพูดกฏเหล็กและข้อปฎิบัติที่ดีสำหรับคนเป็นสิวกันสักนิดละกันค่ะ
4.1 อย่าบีบบังคับ ไล่เขาออก เพราะสิวเหมือนพวกเด็กแสบ ยิ่งเพื่อนๆพยายาม งัดแงะแกะเกา ผลักไสมัน นอกจากมันจะไม่ไปแล้ว หนำซ้ำยังมีทีท่าชวนเพื่อน แห่เข้ามาพักใจ ที่ใบหน้าพวกเราเพิ่มอีก ไปกันใหญ่ละทีนี้ เพียงแต้มยาแต้มเฉพาะจุด เช้าเย็นทุกวันพอค่ะ เริ่มตั้งแต่รู้สึกเจ็บๆเหมือนจะมีสิวขึ้นมันจะหายไวมาก บางครั้งข้ามคืน แต่ถ้าขึ้นเป็นหัวมาแล้วปกติมากที่จะใช้เวลา 7-14 วัน ขอให้อดทน อย่าพยายามเข้น กด ขับไล่ เพราะนอกจากไม่หมดไป จะทิ้งรอยให้ช้ำใจมากกว่าการแต้มยาเฉยๆค่ะ
4.2 ล้างมือทุกครั้งที่นึกออก เพราะในชีวิตประจำวัน เราสัมผัสอะไรอยู่ตลอดเวลา ทั้งแบคทีเรียไรฝุ่น ดังนั้นหากเผลอสัมผัสหน้า ก็ทำให้เกิดผดผื่นและสิวได้เช่นกัน แอนทดสอบด้วยตัวเองแล้วว่า การล้างมือบ่อยๆ ,ไม่จับหน้าตัวเองระหว่างวัน หากคันหรือต้องสัมผัส ให้ใช้หลังมือ (ย้ำนะคะหลังมือเรา) เพราะเป็นส่วนที่สะอาดมากกว่าค่ะ มีผลทำให้ผิวหน้าดีขึ้นจริงในระยะเวลาไม่เกิน1เดือน
5. ทิชชู่หรือกระดาษซับมัน สาวๆบอกโอเค หนุ่มๆร้องยี้ แต่มันก็จำเป็นเช่นกันค่ะ เพราะการปล่อยให้หน้ามัน มีผลให้ไรฝุ่นปลิวเข้ามาเกาะที่หน้าได้อย่างเหนียวแน่นหนึบขึ้นละสังเกตว่าผิวหน้าจะเป็นสิวอุดตันอยู่ตลอดไม่หาย ทั้งนี้แอนไม่ได้หมายความว่าให้เพื่อนๆซับกันตลอดเวลา จนเสียบุคลิคนะคะ ใน 1 วันซับเพียงครั้งก็พอ ในช่วงที่รู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว และย้ำอีกว่าซับ กดเบาๆ ไม่ต้องกดเค้นเน้น จนจะเอาซะหน้าแห้งผาด เพราะน้ำมันที่ผลิตโดยธรรมชาติก็มีส่วนดีที่ทำให้ผิวชุ่มชื่น แต่มากไปไม่ดี จึงควรซับออกบ้างค่ะ
6. เอาละพูดเรื่องการดูแลหน้าเสียหลายข้อ ขอต่อที่ตัวกันบ้าง หากคิดอยากจะเป็นคนผิวขาวใสจริงๆ หมั่นใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการปรับผิวขาวบ้าง อาจไม่ต้องถึงกับทุกวัน แต่ใน1-2 อาทิตย์ควรมีบ้าง เพื่อผลัดเซลล์ผิว แต่ด้วยปัจจุบัน ครีมผิวขาวมีเยอะมากและราคาไม่แพง จึงสามารถใช้ได้ทุกวัน สำหรับตัวเพื่อนๆจะเลือกใช้อะไรก็ได้ เช้าๆ เราอาจไม่อยากทาเพราะความเหนอะหนะ อย่างน้อยก็ขอให้ตอนกลางคืนเรียกว่า พอกหรือโบกไว้เลยค่ะ รับรองว่า แค่ไม่ถึง2เดือนผิวคุณก็ดูขาวขึ้นจนใครๆต้องทักแน่นอน
7. วิตามินเสริม ตรงข้อนี้ใครจะทานหรือไม่ก็ได้ แต่เป็นหนึ่งในสิ่งที่แอนทำเลยจะบอกเล่าค่ะ แอนไม่ทานเป็นประจำนะคะ เอาเป็นว่าอยากบำรุงพิเศษเมื่อไรถึงทาน แต่ละครั้งจะทานเพียง2-3เดือน และเว้นยาวเลยค่ะ และจึงกลับมาทานใหม่ อาทิ วิตามินซี คอลลาเจน และตัวลดเม็ดสีผิวบางครั้งใน1 ปีแอนทานอยู่แค่ 2-3 ครั้งเท่านั้นเอง แต่ผลลัพธ์ ที่ได้ รวมกับการปฏิบัติตัวทุกอย่างที่เล่ามา ญาติๆเพื่อนๆ ที่ไม่เจอกันนาน ยังบอกว่าไม่อยากจะเชื่อว่า ผิวที่คิดว่าคล้ำมากๆของเธอมันจะเปลี่ยนขนาดนี้จริงหรอ ลอกผิวมารึเปล่า คำตอบคือไม่เคยนะคะ แม้แต่ครีมพอก กัดเปลี่ยนผิวแบบกะทันหันก็ไม่เคย เพราะเชื่อว่าอะไรที่เร็วเกินไป ไม่ธรรมชาติแน่ และเป็นอันตรายในอนาคตแน่ค่ะ
8. หน้าเราปั้นได้ ไม่ต้องพึ่งซิลิโคน เพราะอิงหลักการบริหารหน้าค่ะ แต่จะไม่ได้เป๊ะเวอร์ราวกับซิลิโคนยัด อันนั้นคงขอมากเกินกว่าที่ธรรมชาติจะให้เราได้ แต่พอทำให้เข้ารูปได้นั้นยืนยันว่ามีจริง อาทิ การทำปากจู๋และดูดริมฝีปากจนแก้มสองข้างตอบเข้าไป ทำบ่อยๆมีผลทำให้หน้าเล็กลงจริง, การบีบปลายจมูกทุกวัน ย้ำทุกวัน โดยท่าที่1 บีบแบบคนบีบจมูกเราเล่นและดึงขึ้น ท่าที่2 เอานิ้วนางทั้ง2วาง ระหว่างจมูกของเราบีบเข้าหากันและไล่ขึ้นไปเรื่อยๆทำซ้ำตอนตื่นหรือก่อนนอนก็ได้ เปลี่ยนรูปทรงได้จริง แต่ไม่มีผลตรงบริเวณดั้งนะคะ เพราะดั้งเป็นกระดูกเป็นอย่างไรจะเป็นอย่างนั้น แต่ส่วนปลายมีเนื้อและไขมัน การบริหารทุกวันทำให้มันฟีบลง จากการที่เนื้อหดตัว กระชับนั่นเองค่ะ เท่านั้ก็จะดูเหมือนว่าจมูกเราโด่งขึ้นได้ เพราะมันเล็กลงและเป็นทรงมากขึ้นค่ะ ที่เหลือสาวๆก็แค่ เมคอัพเพิ่มสันอีกนิดหน่อยเท่านั้นค่ะ
9. ข้อสุดท้ายนี้สำคัญที่สุดค่ะ คือการคิดบวก ปรับทัศนคติในเชิงบวกกับตัวเองและคนรอบข้าง เพราะความคิดที่ดีมันนำพาอารมณ์ที่ดีมา มีผลต่อระดับฮอร์โมนเช่นเดียวกัน และลดการเกิดสิว หน้าคล้ำจากภาวะเครียดนะคะ ยิ้มให้ตัวเองและคนรอบข้างบ่อยๆ เมื่อก่อนแอนก็ชอบเก็บตัว(อย่างกับคนเก็บกดแต่เมื่อเรามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ชีวิตเรามีความสุขขึ้น มันส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพภายใน และออกมาได้จนถึงสุขภาพผิวเลยค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ข้อปฏิบัติจริงที่ยังคงทำมาเรื่อยๆ ทุกวันค่ะ แอนเชื่ออย่างหนึ่งว่าทุกสิ่งไม่ใช่ว่าชะตากำหนดแล้วเราต้องก้มหน้ายอมรับมันเสมอไป คำว่า โชคดี และโอกาสที่ดี เราเองก็มีได้ เพียงทำตัวเองให้ดีพร้อมพอที่จะรับมัน ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนนะคะ ทุกอย่างอยู่ในมือของเราจะทำให้ดีหรือร้ายก็อยู่ที่เรา ทุกๆคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เพียงแค่มีกำลังใจ คนที่เกิดมาไม่สวย ไม่หล่อ ไม่น่ารัก อย่าน้อยเนื้อต่ำใจ ขอให้เก็บเป็นพลังนะคะ เชื่อว่าสักวันทุกคนก็ดูดีได้ แม้ไม่ได้ Born to be สำหรับใครที่มีคำถามเพิ่มเติม ทิ้งข้อความไว้ได้เลยค่ะ จะพยายามเข้ามาตอบนะคะตอนว่าง เพราะทำงานทุกวัน ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ โชคดีนะคะ และมาอัพเดทให้ดูกันบ้างนะว่า ถ้าทุกคนทำไปแล้ว ดีขึ้นอย่างไรกันบ้าง
อัพเดท!!!! ตอนนี้เค้าเพิ่งเริ่มทำบล๊อคของตัวเองนะคะ ฝากกดติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะ จะมารีวิวตัวช่วยเพื่อพัฒนาตัวเองให้กับทุกๆคนเลย ให้มีผิวสวยยิ่งๆขึ้นไป
Facebook: โกงสวยด้วย Gadget by Beautnique
instagram: beautnique_review
แชร์เรื่องราว “แค่ปรับ ก็เปลี่ยน คุณเองก็ดูดีได้ แม้ไม่ได้ศัลยกรรม”
“แค่ปรับ ก็เปลี่ยน คุณเองก็ดูดีได้ แม้ไม่ได้ศัลยกรรม” แต่ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยนะคะ แอนไม่ได้เข้ามาเพื่อแอนตี้การศัลยกรรมแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าการพัฒนาตนเอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีหรือรูปแบบใด ไม่ใช่เรื่องผิด หากเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ทั้งนี้แอนเพียงต้องการนำเสนอมุมมองของการพัฒนาตนเองในอีกด้าน แบบไม่ต้องผ่านมีดหมอหรือเสียเงินจำนวนมากๆ แต่คุณเองก็ดูดีขึ้นได้จนใครๆต้องทัก เพื่อคนอีกกลุ่มที่ยังมีความกลัวการศัลยกรรม เงินเดือนน้อย หรือชักหน้าแทบไม่ถึงหลังต่อเดือน
นำไปเป็นแนวทางปฏิบัติกันนะคะ
ก่อนที่จะว่ากันต่อไป แอนก็นำรูปจริงผ่านจอ มาให้ดูกันด้วยค่ะ ว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน แอนมีความเปลี่ยนแปลงมากน้อยอย่างไรบ้าง (คือจริงๆปัจจุบันไม่ใช่ว่าจะบอกว่าตัวเองเป็นคนสวยนะคะ เพียงแต่คิดว่าทุกอย่างดูพอไปวัดไปวาขึ้นจริงๆ อย่างไม่น่าเชื่อ ^.^ )
แต่ละภาพคือการเปลี่ยนแปลง ในแต่ละช่วง 1-2ปี เพื่อให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงมันไปแบบ ทีละเล็กละน้อยนะคะ
เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน แอนจึงนำเอา 3 ภาพ เพื่อมาทำการสรุปให้เห็น มากยิ่งขึ้นอีกครั้งค่ะ
กล้าพูดตรงนี้ได้เลยว่าไม่เคยผ่านการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ตา จมูก ปาก โครงหน้าใดใดทั้งสิ้นนะคะ ทุกอย่างดีขึ้นได้จากการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหัวใจหลักของการปรับเพื่อเปลี่ยนในกฏของแอนมี 3 ข้อง่ายๆค่ะ
1. รักตัวเอง 2. มีกำลังใจ 3. มีวินัย
จากนั้นเราก็เริ่มมาสำรวจตัวเองกันได้เลยว่า อะไรคือจุดเด่น และอะไร คือจุดด้อยของเรา ติ๊กต่อกๆๆๆๆ เอาล่ะค่ะ พอรู้แล้วก็ต้องทำแบบนี้นะคะ …....”เชิดชูจุดเด่น กำจัดจุดด้อย” ตัวอย่างของแอน
ข้อดี(ที่ทั้งเราและคนอื่นมองเห็น) คือ ชอบมีคนทักแค่ว่าตาโตสวยนะ(สวยแต่ตาค่ะอย่างอื่นดูไม่ได้) หน้าเด็กกว่าเพื่อนหลายๆคนในรุ่นเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มองว่าอาจเป็นข้อดี จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บรักษาและพัฒนาจุดดีนั้นต่อไปค่ะ ข้อเสีย ผิวคล้ำเสีย หน้ามัน เป็นสิวง่าย มีรอยดำ ฟันห่าง (เอาแค่นี้ก่อนนะคะสงสารตัวเอง T.T) จึงปฏิวัติตัวใหม่ ดูแลผิวทุกวิถีทาง รักษาความสะอาดใบหน้า ดัดฟัน บลาๆๆ
รู้ข้อเสียก็ต้องหาวิธีแก้ไขน่ะสิคะ (เนื้อหาอาจยาวมากๆ ถ้าทำให้เพื่อนๆที่ไม่ชอบอ่านเบื่อ ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่เป็นความจริงที่อยากบอกเล่า เพราะคนไม่มีชื่อเสียงอย่างเราๆ เขียนเป็นหนังสือก็คงไม่มีใครอยากซื้ออ่าน ทำได้แค่แชร์ผ่านช่องทางนี้ จึงอยากบอกต่อแบบไม่ขอกั๊กเลยค่ะ)
ก่อนอื่นให้ตั้งคำถามทุกครั้ง เพื่อนำไปสู่คำตอบและวิธีแก้ ตัวอย่างเช่น เราผิวคล้ำมาก หน้าเป็นสิว ทำไงดีถึงจะผิวขาว ใส (แบบปลอดภัยด้วยนะจ๊ะ) คำตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แต่ของแอนเน้นอิงธรรมชาติและมีวิตามินเสริมเข้ามาร่วมด้วย สลับกันค่ะ
โดยแอนมีข้อปฏิบัติแสนง่ายดังนี้
- เรากำลังจะเข้าโหมดปรับเปลี่ยนผิว จดจำเรื่องต่อไปนี้ให้ดี หากต้องการมีผิวสวยขึ้นจริง เพราะเป็นสิ่งสำคัญ อย่าพยายามลืม ขาด หรือผลัดวันที่จะทำ ปรับพฤติกรรมแย่ๆ ออกให้หมดด้วยนะคะ
1. กันแดด หน้า สำคัญกว่าตัวมาก แต่ถ้าไม่ขี้เกียจเกินไป ควรทาทั้งคู่ค่ะ โดยกันแดดหน้าทาอย่างน้อย ปริมาณ 1ข้อนิ้วมือนะคะ ไม่อย่างนั้นจะไม่ช่วยอะไรเลย แถมก่อให้เกิดรอยดำ ฝ้า กระ ริ้วรอย ได้มากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นค่ะ อ้อ ละที่ห้ามลืมเด็ดขาด คือทากันแดดก่อนที่จะเปิดคอมพิวเตอร์เล่นทุกครั้งนะคะ และปรับระดับแสงไม่ต้องสว่างจ้านัก เพราะแสงจากจอคอมทำร้ายคุณโดยไม่รู้ตัว ไม่เชื่อลองดับไฟห้องละเปิดคอมดู คุณจะรู้ว่าแสงจอคอมพุ่งเข้าใส่เรามากแค่ไหน ทั้งคุณผู้ชายและผู้หญิง ถ้าไม่อยากมีผิวหน้ากร้าน คล้ำเสีย ปรับตัวเองในข้อนี้ด้วยนะคะ
2. น้ำดื่มเอาขวด 1500 ml พกใกล้ตัวเลยค่ะ ที่บ้านหรือโต๊ะทำงาน ดีกว่าการดื่มทีละแก้วตรงที่ เราสามารถทราบได้จากปริมาณคงเหลือจากขวดว่า ต่อวันเราทานน้ำเพียงพอมากหรือน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเป็นแก้วหลายๆคนมักลืมว่า เราทานไปเท่าไหร่แล้วววน้าาาาา (แค่จำงานก็มึนจะแย่ละค่ะ) หมั่นจิบบ่อยๆ ตลอดวันและไม่ดื่มเกิน1 แก้วในระหว่างทานอาหาร เพราะน้ำย่อยจะเจือจางระบบการเผาผลาญเสีย ยกเว้นตื่นเช้ามาจะดื่มมากแค่ไหนก็ได้ที่เราไหว เพราะเป็นการล้างสารพิษตกค้างช่วยให้ผิวใส ชุ่มชื่น และสิวอุดตันหายไว ฝ่อและหลุดมาได้ เพราะ การดื่มน้ำคือการเพิ่มออกซิเจนแก่ผิวนะคะ
3. หา Moisturizer ดีดีสักตัว ทาเป็นประจำ ถามว่าเจ้าตัวนี้สำคัญอย่างไร ร่างกายเราต้องการน้ำฉันใด ผิวหน้าเราก็ต้องการความชุ่มชื่นฉันนั้น ลองดูค่ะ และคุณจะพบความเปลี่ยนแปลง แห่งผิวที่ไม่ดูเสื่อมโทรมเกินวัย เพียงเลือกให้เข้ากับสภาพผิวเราค่ะ ทริคเล็กๆคือ ทุกครั้งที่จะล้างหน้าทาครีมขอให้เบามือมากเหมือนเอาปลายนิ้วมือปัดฝุ่นอย่างนั้นน่ะค่ะ และทาไปตามแนวขน อันนี้เรื่องจริง เปลี่ยนแนวที่ไม่เป็นระเบียบให้กลายเป็นทิศทางเดียวกัน มีผต่อการระบายน้ำมันและของเสียได้ดีขึ้นสิวลดลง อย่ากลัวว่าทาครีมต้องย้อนขึ้นไม่งั้นหน้าเหี่ยวไม่จริงค่ะ เพราะการทำให้หน้าเหี่ยวคือการทำรุนแรงกับผิวหน้ามากกว่าค่ะ
4. ยาแต้มสิวเฉพาะจุด ย้ำเฉพาะจุด มีติดบ้านไว้จะเป็นยี่ห้อใดก็ได้ค่ะ ที่เราว่ามันดี แต่ถ้าใครไม่ทราบจริงๆว่าในร้านยาหรือทั่วไป จะเอาตัวไหนดี ก็ไว้มาคุยหลังไมค์กันนะคะ เพราะไม่แน่ใจว่าสามารถบอกที่นี่ได้ไหม และตามที่บอกไปเฉพาะจุด ดังนั้นให้แต้มเฉพาะจุด อย่าละเลง ทาเกินพื้นที่สิวมากนักนะคะ เพราะจะทำให้ผิวหน้าโดยรอบ แห้ง ลอก แดง นั่นหมายความว่าคุณทำร้ายผิวให้กลับแย่ลง มาถึงตอนนี้ แอนขอพูดกฏเหล็กและข้อปฎิบัติที่ดีสำหรับคนเป็นสิวกันสักนิดละกันค่ะ
4.1 อย่าบีบบังคับ ไล่เขาออก เพราะสิวเหมือนพวกเด็กแสบ ยิ่งเพื่อนๆพยายาม งัดแงะแกะเกา ผลักไสมัน นอกจากมันจะไม่ไปแล้ว หนำซ้ำยังมีทีท่าชวนเพื่อน แห่เข้ามาพักใจ ที่ใบหน้าพวกเราเพิ่มอีก ไปกันใหญ่ละทีนี้ เพียงแต้มยาแต้มเฉพาะจุด เช้าเย็นทุกวันพอค่ะ เริ่มตั้งแต่รู้สึกเจ็บๆเหมือนจะมีสิวขึ้นมันจะหายไวมาก บางครั้งข้ามคืน แต่ถ้าขึ้นเป็นหัวมาแล้วปกติมากที่จะใช้เวลา 7-14 วัน ขอให้อดทน อย่าพยายามเข้น กด ขับไล่ เพราะนอกจากไม่หมดไป จะทิ้งรอยให้ช้ำใจมากกว่าการแต้มยาเฉยๆค่ะ
4.2 ล้างมือทุกครั้งที่นึกออก เพราะในชีวิตประจำวัน เราสัมผัสอะไรอยู่ตลอดเวลา ทั้งแบคทีเรียไรฝุ่น ดังนั้นหากเผลอสัมผัสหน้า ก็ทำให้เกิดผดผื่นและสิวได้เช่นกัน แอนทดสอบด้วยตัวเองแล้วว่า การล้างมือบ่อยๆ ,ไม่จับหน้าตัวเองระหว่างวัน หากคันหรือต้องสัมผัส ให้ใช้หลังมือ (ย้ำนะคะหลังมือเรา) เพราะเป็นส่วนที่สะอาดมากกว่าค่ะ มีผลทำให้ผิวหน้าดีขึ้นจริงในระยะเวลาไม่เกิน1เดือน
5. ทิชชู่หรือกระดาษซับมัน สาวๆบอกโอเค หนุ่มๆร้องยี้ แต่มันก็จำเป็นเช่นกันค่ะ เพราะการปล่อยให้หน้ามัน มีผลให้ไรฝุ่นปลิวเข้ามาเกาะที่หน้าได้อย่างเหนียวแน่นหนึบขึ้นละสังเกตว่าผิวหน้าจะเป็นสิวอุดตันอยู่ตลอดไม่หาย ทั้งนี้แอนไม่ได้หมายความว่าให้เพื่อนๆซับกันตลอดเวลา จนเสียบุคลิคนะคะ ใน 1 วันซับเพียงครั้งก็พอ ในช่วงที่รู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว และย้ำอีกว่าซับ กดเบาๆ ไม่ต้องกดเค้นเน้น จนจะเอาซะหน้าแห้งผาด เพราะน้ำมันที่ผลิตโดยธรรมชาติก็มีส่วนดีที่ทำให้ผิวชุ่มชื่น แต่มากไปไม่ดี จึงควรซับออกบ้างค่ะ
6. เอาละพูดเรื่องการดูแลหน้าเสียหลายข้อ ขอต่อที่ตัวกันบ้าง หากคิดอยากจะเป็นคนผิวขาวใสจริงๆ หมั่นใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการปรับผิวขาวบ้าง อาจไม่ต้องถึงกับทุกวัน แต่ใน1-2 อาทิตย์ควรมีบ้าง เพื่อผลัดเซลล์ผิว แต่ด้วยปัจจุบัน ครีมผิวขาวมีเยอะมากและราคาไม่แพง จึงสามารถใช้ได้ทุกวัน สำหรับตัวเพื่อนๆจะเลือกใช้อะไรก็ได้ เช้าๆ เราอาจไม่อยากทาเพราะความเหนอะหนะ อย่างน้อยก็ขอให้ตอนกลางคืนเรียกว่า พอกหรือโบกไว้เลยค่ะ รับรองว่า แค่ไม่ถึง2เดือนผิวคุณก็ดูขาวขึ้นจนใครๆต้องทักแน่นอน
7. วิตามินเสริม ตรงข้อนี้ใครจะทานหรือไม่ก็ได้ แต่เป็นหนึ่งในสิ่งที่แอนทำเลยจะบอกเล่าค่ะ แอนไม่ทานเป็นประจำนะคะ เอาเป็นว่าอยากบำรุงพิเศษเมื่อไรถึงทาน แต่ละครั้งจะทานเพียง2-3เดือน และเว้นยาวเลยค่ะ และจึงกลับมาทานใหม่ อาทิ วิตามินซี คอลลาเจน และตัวลดเม็ดสีผิวบางครั้งใน1 ปีแอนทานอยู่แค่ 2-3 ครั้งเท่านั้นเอง แต่ผลลัพธ์ ที่ได้ รวมกับการปฏิบัติตัวทุกอย่างที่เล่ามา ญาติๆเพื่อนๆ ที่ไม่เจอกันนาน ยังบอกว่าไม่อยากจะเชื่อว่า ผิวที่คิดว่าคล้ำมากๆของเธอมันจะเปลี่ยนขนาดนี้จริงหรอ ลอกผิวมารึเปล่า คำตอบคือไม่เคยนะคะ แม้แต่ครีมพอก กัดเปลี่ยนผิวแบบกะทันหันก็ไม่เคย เพราะเชื่อว่าอะไรที่เร็วเกินไป ไม่ธรรมชาติแน่ และเป็นอันตรายในอนาคตแน่ค่ะ
8. หน้าเราปั้นได้ ไม่ต้องพึ่งซิลิโคน เพราะอิงหลักการบริหารหน้าค่ะ แต่จะไม่ได้เป๊ะเวอร์ราวกับซิลิโคนยัด อันนั้นคงขอมากเกินกว่าที่ธรรมชาติจะให้เราได้ แต่พอทำให้เข้ารูปได้นั้นยืนยันว่ามีจริง อาทิ การทำปากจู๋และดูดริมฝีปากจนแก้มสองข้างตอบเข้าไป ทำบ่อยๆมีผลทำให้หน้าเล็กลงจริง, การบีบปลายจมูกทุกวัน ย้ำทุกวัน โดยท่าที่1 บีบแบบคนบีบจมูกเราเล่นและดึงขึ้น ท่าที่2 เอานิ้วนางทั้ง2วาง ระหว่างจมูกของเราบีบเข้าหากันและไล่ขึ้นไปเรื่อยๆทำซ้ำตอนตื่นหรือก่อนนอนก็ได้ เปลี่ยนรูปทรงได้จริง แต่ไม่มีผลตรงบริเวณดั้งนะคะ เพราะดั้งเป็นกระดูกเป็นอย่างไรจะเป็นอย่างนั้น แต่ส่วนปลายมีเนื้อและไขมัน การบริหารทุกวันทำให้มันฟีบลง จากการที่เนื้อหดตัว กระชับนั่นเองค่ะ เท่านั้ก็จะดูเหมือนว่าจมูกเราโด่งขึ้นได้ เพราะมันเล็กลงและเป็นทรงมากขึ้นค่ะ ที่เหลือสาวๆก็แค่ เมคอัพเพิ่มสันอีกนิดหน่อยเท่านั้นค่ะ
9. ข้อสุดท้ายนี้สำคัญที่สุดค่ะ คือการคิดบวก ปรับทัศนคติในเชิงบวกกับตัวเองและคนรอบข้าง เพราะความคิดที่ดีมันนำพาอารมณ์ที่ดีมา มีผลต่อระดับฮอร์โมนเช่นเดียวกัน และลดการเกิดสิว หน้าคล้ำจากภาวะเครียดนะคะ ยิ้มให้ตัวเองและคนรอบข้างบ่อยๆ เมื่อก่อนแอนก็ชอบเก็บตัว(อย่างกับคนเก็บกดแต่เมื่อเรามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ชีวิตเรามีความสุขขึ้น มันส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพภายใน และออกมาได้จนถึงสุขภาพผิวเลยค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ข้อปฏิบัติจริงที่ยังคงทำมาเรื่อยๆ ทุกวันค่ะ แอนเชื่ออย่างหนึ่งว่าทุกสิ่งไม่ใช่ว่าชะตากำหนดแล้วเราต้องก้มหน้ายอมรับมันเสมอไป คำว่า โชคดี และโอกาสที่ดี เราเองก็มีได้ เพียงทำตัวเองให้ดีพร้อมพอที่จะรับมัน ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนนะคะ ทุกอย่างอยู่ในมือของเราจะทำให้ดีหรือร้ายก็อยู่ที่เรา ทุกๆคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เพียงแค่มีกำลังใจ คนที่เกิดมาไม่สวย ไม่หล่อ ไม่น่ารัก อย่าน้อยเนื้อต่ำใจ ขอให้เก็บเป็นพลังนะคะ เชื่อว่าสักวันทุกคนก็ดูดีได้ แม้ไม่ได้ Born to be สำหรับใครที่มีคำถามเพิ่มเติม ทิ้งข้อความไว้ได้เลยค่ะ จะพยายามเข้ามาตอบนะคะตอนว่าง เพราะทำงานทุกวัน ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ โชคดีนะคะ และมาอัพเดทให้ดูกันบ้างนะว่า ถ้าทุกคนทำไปแล้ว ดีขึ้นอย่างไรกันบ้าง
อัพเดท!!!! ตอนนี้เค้าเพิ่งเริ่มทำบล๊อคของตัวเองนะคะ ฝากกดติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะ จะมารีวิวตัวช่วยเพื่อพัฒนาตัวเองให้กับทุกๆคนเลย ให้มีผิวสวยยิ่งๆขึ้นไป
Facebook: โกงสวยด้วย Gadget by Beautnique
instagram: beautnique_review