คนนี้ฝีมือดี ต้นตำรับเข้าคิวจองคอนโดข้ามคืน ผู้ปลุกปั้น plus ของ siri ทีมที่ทำให้ siri หรือทีมที่แยกมาทำให้ ps ก็คงได้แนวทางมาจากคนนี้ส่วนหนึ่ง
ต้องคอยดูว่าอย่างนี้ kmc อีก 2-3 ปีจะขึ้นมาเทียบชั้น พวกบิ๊กๆได้หรือเปล่า
http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000077665
ทำให้ผมนึกถึง CGS ที่ได้ dr. อะไรนั่นมานั่ง บางทีตัวบุคคลก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรได้
KMC ดึง “ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์” นั่ง CEO
บอร์ด KMC ไฟเขียวดึง “ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์” นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับพระกาฬนั่งตำแหน่ง CEO หวังสยายปีกขึ้นแท่นผู้นำในธุรกิจอสังหาฯ ครบวงจร สานต่อภารกิจพลิกฟื้นผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน-สถาบันการเงิน พร้อมอนุมัติเงินลงทุน 400 ล้านบาท ซื้อหุ้น 85% ใน “อควาเรียส เอสเตท” ด้าน CEO ป้ายแดงลั่นพร้อมผลักดัน KMC เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
นายวิรัตน์
วอักษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ทำการเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด ในสัดส่วน 85% รวมเป็นราคาซื้อหุ้นทั้งสิ้นเท่ากับ 400 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าราคาประเมินที่ที่ปรึกษาทางการเงิน สรุปราคาที่เหมาะสม 476.48 ล้านบาท โดยเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินที่ได้จากเงินเพิ่มทุน และกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานของบริษัทฯ
ทั้งนี้ KMC จะได้รับประโยชน์จากการซื้อหุ้นดังกล่าว โดยจะสามารถได้รับผลตอบแทนจากการถือหุ้นคือ ผลกำไรที่เกิดขึ้นในการจัดทำงบการเงินรวม และได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้นของ “อควาเรียส เอสเตท” ซึ่งบริษัทฯ สามารถที่จะนำมาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของ KMC ได้ในอนาคต อีกทั้งยังทำให้สามารถขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมถึงธุรกิจการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่น การทำธุรกิจโรงแรม ตลอดจนโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นที่ “อควาเรียส เอสเตท” มีอยู่แล้วมารวมเป็นรายได้รวมของบริษัท และกำไรของบริษัทเพิ่มเติม และเป็นการกระจายความเสี่ยงของประเภทของธุรกิจของ KMC ให้มีความหลากหลายมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ สินทรัพย์รวมของ KMC และ “อควาเรียส เอสเตท” ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 เท่ากับ 3,067.10 ล้านบาท และ 352.77 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งจากการเข้าลงทุนดังกล่าวคาดว่าบริษัทฯ จะเติบโตด้านทรัพย์สินมากกว่าปัจจุบันประมาณ 11% และการเติบโตด้านสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รวมสูงขึ้น และการที่บริษัทฯ มีขนาดของสินทรัพย์และ
ทุนที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้ได้รับผลดีในเรื่องความเชื่อมั่นจากบุคคลที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น เช่นสถาบันการเงิน ลูกค้า ผู้จัดจำหน่าย คู่ค้า เป็นต้น และในอนาคตสามารถที่จะ Spin Off เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าลงทุนของ KMC
บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี 2548 โดย คุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปี และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการ ประกอบธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Project Management) และบริการพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์อย่างสมบูรณ์แบบครบวงจร ให้ผู้ลงทุน หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่น ซึ่งทำให้มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนา และแก้ปัญหาในสภาพแวดล้อม และสถานการณ์ที่หลากหลาย
นอกจากงานให้บริการด้านการจัดการและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้แก่บริษัทของลูกค้าแล้ว บริษัท อควาเรียส เอสเตท ยังมีโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง (Property Development) 2 โครงการคือ ชาซ่า รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ บนเกาะสมุย โครงการรีสอร์ตซึ่งได้รับรางวัลระดับโลก ที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 3 ปี มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท และโครงการ เอควา เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 49 โครงการที่พักอาศัยสุดหรู เป็นคอนโดมิเนียมแรกที่มีบ่อน้ำร้อนแบบออนเซนแบบญี่ปุ่นบนชั้นดาดฟ้า มูลค่าโครงการ 1,343 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้ปิดโครงการไปเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นหนึ่งในคอนโดมิเนียมที่ได้รับผลตอบแทนค่าเช่าต่อตารางเมตรสูงสุดในสุขุมวิท
นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติอนุมัติปรับโครงสร้างการบริหาร โดยแต่งตั้ง นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ เป็นกรรมการและประธานกรรมการของบริษัทฯ แทนนายวัชรกิติ วัชโรทัย ที่จะไปดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ
“นี่เป็นอีกหนึ่งก้าวของ KMC ที่จะแสดงให้เห็นว่าเรามีทิศทางการดำเนินธุรกิจ และการเติบโตที่ชัดเจน ซึ่งการเข้าซื้อ บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด จะทำให้มีรายได้เพิ่มเข้ามาอย่างมาก ทั้งจากโครงการที่มีอยู่แล้ว และศักยภาพ รวมทั้งมิติความหลากหลายในการพัฒนาโครงการใหม่ๆในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้ทีมผู้บริหารไฟแรง และมากด้วยฝีมือ นำโดยคุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ที่ได้รับการยอมรับในแวดวงนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ว่าไม่เป็นสองรองใครในวงการ อีกทั้งยังมีความรู้ ความเชี่ยวชาญทั้งในด้านการเงิน ผมจึงมีความเชื่อมั่นว่าการเข้าลงทุนในครั้งนี้ จะได้รับผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า และก่อให้เกิดเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นทุกราย ในขณะที่ตัวผมจะอยู่ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) เพื่อดูแลการดำเนินงานของบริษัทฯต่อไป” นายวิรัตน์กล่าว
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานกรรมการ KMC กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่มีโอกาสได้เข้ามาร่วมงานกับ KMC ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทฯ ที่มีความพร้อมที่จะเติบโต และก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของทีมงานที่มีความสามารถ และฐานะทางการเงินของบริษัทที่แข็งแรงขึ้นมากหลังจากดำเนินการเพิ่มทุนสำเร็จ ซึ่งหากประสานรวมกับทีมงานของ บริษัท อควาเรียส จำกัด ก็จะทำให้ทั้งคู่เป็นพันธมิตรที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง และเติมเต็มกันและกันอย่างลงตัว
“ขอให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนมีความมั่นใจ ว่า ผมและทีมงานจะเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ KMC และเราจะก้าวไปด้วยกันอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีเป้าหมายในครั้งนี้ว่า 1+1 ต้องได้มากกว่า 2 ด้วยประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์กว่า 20 ปี น่าจะเป็นการพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่งว่าเราเข้ามาเพื่อพัฒนาบริษัทฯ อย่างจริงจัง และสร้างผลงานของ KMC ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และน่าจะสะท้อนได้จากผลการดำเนินงานของ KMC ที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดนับจากปีนี้เป็นต้นไป” นายยงยุทธกล่าว
KMC ดึง “ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์” นั่ง CEO
ต้องคอยดูว่าอย่างนี้ kmc อีก 2-3 ปีจะขึ้นมาเทียบชั้น พวกบิ๊กๆได้หรือเปล่า
http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000077665
ทำให้ผมนึกถึง CGS ที่ได้ dr. อะไรนั่นมานั่ง บางทีตัวบุคคลก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรได้
KMC ดึง “ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์” นั่ง CEO
บอร์ด KMC ไฟเขียวดึง “ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์” นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับพระกาฬนั่งตำแหน่ง CEO หวังสยายปีกขึ้นแท่นผู้นำในธุรกิจอสังหาฯ ครบวงจร สานต่อภารกิจพลิกฟื้นผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน-สถาบันการเงิน พร้อมอนุมัติเงินลงทุน 400 ล้านบาท ซื้อหุ้น 85% ใน “อควาเรียส เอสเตท” ด้าน CEO ป้ายแดงลั่นพร้อมผลักดัน KMC เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
นายวิรัตน์ วอักษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ทำการเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด ในสัดส่วน 85% รวมเป็นราคาซื้อหุ้นทั้งสิ้นเท่ากับ 400 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าราคาประเมินที่ที่ปรึกษาทางการเงิน สรุปราคาที่เหมาะสม 476.48 ล้านบาท โดยเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินที่ได้จากเงินเพิ่มทุน และกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานของบริษัทฯ
ทั้งนี้ KMC จะได้รับประโยชน์จากการซื้อหุ้นดังกล่าว โดยจะสามารถได้รับผลตอบแทนจากการถือหุ้นคือ ผลกำไรที่เกิดขึ้นในการจัดทำงบการเงินรวม และได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้นของ “อควาเรียส เอสเตท” ซึ่งบริษัทฯ สามารถที่จะนำมาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของ KMC ได้ในอนาคต อีกทั้งยังทำให้สามารถขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมถึงธุรกิจการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่น การทำธุรกิจโรงแรม ตลอดจนโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นที่ “อควาเรียส เอสเตท” มีอยู่แล้วมารวมเป็นรายได้รวมของบริษัท และกำไรของบริษัทเพิ่มเติม และเป็นการกระจายความเสี่ยงของประเภทของธุรกิจของ KMC ให้มีความหลากหลายมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ สินทรัพย์รวมของ KMC และ “อควาเรียส เอสเตท” ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 เท่ากับ 3,067.10 ล้านบาท และ 352.77 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งจากการเข้าลงทุนดังกล่าวคาดว่าบริษัทฯ จะเติบโตด้านทรัพย์สินมากกว่าปัจจุบันประมาณ 11% และการเติบโตด้านสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รวมสูงขึ้น และการที่บริษัทฯ มีขนาดของสินทรัพย์และ
ทุนที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้ได้รับผลดีในเรื่องความเชื่อมั่นจากบุคคลที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น เช่นสถาบันการเงิน ลูกค้า ผู้จัดจำหน่าย คู่ค้า เป็นต้น และในอนาคตสามารถที่จะ Spin Off เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าลงทุนของ KMC
บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี 2548 โดย คุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปี และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการ ประกอบธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Project Management) และบริการพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์อย่างสมบูรณ์แบบครบวงจร ให้ผู้ลงทุน หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่น ซึ่งทำให้มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนา และแก้ปัญหาในสภาพแวดล้อม และสถานการณ์ที่หลากหลาย
นอกจากงานให้บริการด้านการจัดการและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้แก่บริษัทของลูกค้าแล้ว บริษัท อควาเรียส เอสเตท ยังมีโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง (Property Development) 2 โครงการคือ ชาซ่า รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ บนเกาะสมุย โครงการรีสอร์ตซึ่งได้รับรางวัลระดับโลก ที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 3 ปี มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท และโครงการ เอควา เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 49 โครงการที่พักอาศัยสุดหรู เป็นคอนโดมิเนียมแรกที่มีบ่อน้ำร้อนแบบออนเซนแบบญี่ปุ่นบนชั้นดาดฟ้า มูลค่าโครงการ 1,343 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้ปิดโครงการไปเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นหนึ่งในคอนโดมิเนียมที่ได้รับผลตอบแทนค่าเช่าต่อตารางเมตรสูงสุดในสุขุมวิท
นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติอนุมัติปรับโครงสร้างการบริหาร โดยแต่งตั้ง นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ เป็นกรรมการและประธานกรรมการของบริษัทฯ แทนนายวัชรกิติ วัชโรทัย ที่จะไปดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ
“นี่เป็นอีกหนึ่งก้าวของ KMC ที่จะแสดงให้เห็นว่าเรามีทิศทางการดำเนินธุรกิจ และการเติบโตที่ชัดเจน ซึ่งการเข้าซื้อ บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด จะทำให้มีรายได้เพิ่มเข้ามาอย่างมาก ทั้งจากโครงการที่มีอยู่แล้ว และศักยภาพ รวมทั้งมิติความหลากหลายในการพัฒนาโครงการใหม่ๆในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้ทีมผู้บริหารไฟแรง และมากด้วยฝีมือ นำโดยคุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ที่ได้รับการยอมรับในแวดวงนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ว่าไม่เป็นสองรองใครในวงการ อีกทั้งยังมีความรู้ ความเชี่ยวชาญทั้งในด้านการเงิน ผมจึงมีความเชื่อมั่นว่าการเข้าลงทุนในครั้งนี้ จะได้รับผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า และก่อให้เกิดเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นทุกราย ในขณะที่ตัวผมจะอยู่ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) เพื่อดูแลการดำเนินงานของบริษัทฯต่อไป” นายวิรัตน์กล่าว
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานกรรมการ KMC กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่มีโอกาสได้เข้ามาร่วมงานกับ KMC ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทฯ ที่มีความพร้อมที่จะเติบโต และก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของทีมงานที่มีความสามารถ และฐานะทางการเงินของบริษัทที่แข็งแรงขึ้นมากหลังจากดำเนินการเพิ่มทุนสำเร็จ ซึ่งหากประสานรวมกับทีมงานของ บริษัท อควาเรียส จำกัด ก็จะทำให้ทั้งคู่เป็นพันธมิตรที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง และเติมเต็มกันและกันอย่างลงตัว
“ขอให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนมีความมั่นใจ ว่า ผมและทีมงานจะเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ KMC และเราจะก้าวไปด้วยกันอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีเป้าหมายในครั้งนี้ว่า 1+1 ต้องได้มากกว่า 2 ด้วยประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์กว่า 20 ปี น่าจะเป็นการพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่งว่าเราเข้ามาเพื่อพัฒนาบริษัทฯ อย่างจริงจัง และสร้างผลงานของ KMC ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และน่าจะสะท้อนได้จากผลการดำเนินงานของ KMC ที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดนับจากปีนี้เป็นต้นไป” นายยงยุทธกล่าว