ในตอนคุณชายรณพีร์ สองคนนี้ ประทะกันตลอด ต่อหน้าหม่อมย่ากับย่าอ่อน ก็ส่งสายตาอำมหิตให้กัน ทำอะไรไม่มากวิไลรัมภาก็จ้องเล่นงานกรองแก้วท่าเดียว จงเกลียดจงชังกรองแก้วที่สุด คงเพราะแค้นแทนพี่สาวละสิ ส่วนกรองแก้วเองเป็นสะใภ้ที่ไม่อยากต่อปากต่อคำกับใคร ในบรรดาสะใภ้ที่เหลืออาจมีสาดคารมใส่วิไลรัมภาแน่ๆ คิดหรอว่ากรองแก้วอยู่รัมภา กรองแก้วจะอยู่ยาก วิไลรัมภานี่แหละจะอยู่ยาก มีแต่สะใภ้ในวังจะเขี่ยให้พ้นทาง
สร้อยฟ้าก็สนิทกับกรองแก้วในบรรดาสะใภ้เพราะกรองแก้วเคยช่วยเหลือเธอในขนาดอยู่ในวังตอนเธอเข้าวังแรกๆ มะปรางกับกรองแก้วก็อยู่ในวังด้วยกันก็รู้นิสัยกันดี ส่วนหญิงแต้วอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็สัมผัสได้ถึงความสนิทสนมกัน ความอบอุ่นของครอบครัวในวังจุฑาเทพ
ฉาก วิไลรัมภา กับ กรองแก้ว ตัวต่อตัวเห็นแล้วแซบมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[วันใหม่...รณพีร์มองอาหารตรงหน้า ไม่แตะต้อง กินไม่ลง นั่งเหม่อเศร้า วิไลรัมภา ย่าอ่อนและแจ๋วเดินมาแอบดู
“ถึงกับกินข้าวไม่ลง หมั่นไส้” ย่าอ่อนเบ้หน้า
วิไลรัมภาพูดขึ้น
“เป็นอาทิตย์แล้วใช่ไหมคะ คงยังตัดใจไม่ขาดกระมังค่ะ”
ย่าอ่อนหันไปสั่งแจ๋ว
“นางแจ๋ว ไปจัดซุปไก่มาสักถ้วย เผื่อเธอจะทาน เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป”
วิไลรัมภาขันอาสา
“รัมภาจัดการเองค่ะ”
ย่าอ่อนพอใจ
“ดีลูก ฝึกไว้ ของโปรดชายพีร์เขา”
“รัมภาจะตั้งใจทำอย่างดีที่สุด นี่เป็นโอกาสของรัมภาแล้ว จะได้ดูแลพี่ชายพีร์ ทำให้พี่ชายพีร์ลืมผู้หญิงคนนั้น”
ย่าอ่อนพยักหน้าว่าใช่ วิไลรัมภากระตือรื้อร้นออกไป อยากทำซุปมาก แจ๋วตามไป
วิไลรัมภาเดินเข้ามาในครัว พอเห็นครัว ก็เลิกกระตือรือร้น หน้านิ่ว ขี้เกียจขึ้นมา
“ซุปไก่ ต้องเคี่ยวเป็นชั่วโมง เฮ้อ...อากาศก็ร้อน นี่ยายแจ๋ว”
“ขา”
แจ๋วเร่งฝีเท้าเดินเข้ามาหา กรองแก้วเดินเข้ามาขณะกำลังจะใช้งานแจ๋ว วิไลรัมภาเลยเปลี่ยนเป้าหมาย
“ไม่ต้องแล้วแจ๋ว” วิไลรัมภามองกรองแก้วเกลียดๆ “นี่เธอ...ช่วยทำซุปไก่ให้พี่ชายพีร์ถ้วยหนึ่ง”
แจ๋วหน้าเหวอ
“อ้าวก็ไหน…”
แจ๋วอึ้งกับอาการตีสองหน้าของวิไลรัมภา เมื่อสักครู่พูดตั้งยืดยาวกับย่าอ่อน วิไลรัมภาปรามดุ
“ยายแจ๋ว...ไม่มีอะไรแล้ว ออกไปได้แล้ว”
แจ๋วยิ้มแห้งเดินออกไป วิไลรัมภาเย็นชากับกรองแก้วต่อ
“ขอแค่นี้ทำได้ไหม”
“ได้ค่ะ”
กรองแก้วเดินไปเตรียมทำ วิไลรัมภาได้ทีเลยข่ม
“ถ้าฉันแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ แปลว่าเราต้องอยู่ด้วยกันเธอกลัวไหม”
“ทำไมต้องกลัวคะ”
“มารตีเป็นพี่ที่ฉันรักมากที่สุด เธอทำให้ชีวิตพี่มารตีพังพินาศ”
วิไลรัมภามองดุ คำพูดกำกวม กรองแก้วหันมามอง สู้ ใจเย็น ถามนิ่มๆ
“แล้วคุณจะทำยังไงกับฉันคะ”
“โฮ้ย...คุณเป็นที่รักของพี่ชายภัทรขนาดนั้น ใครจะไปกล้า แต่การที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับคน
ที่เราเกลียดไปตลอดชีวิต ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่เธอจะทนฉันได้ไหมล่ะ”
วิไลรัมภายิ้มร้าย กรองแก้ว นึกขึ้นมาได้ จริงของหล่อน ร้องเฮ้ออยู่ในใจ
กรองแก้วเดินถือชามซุปมา วิไลรัมภาเดินตามมา
“เอามานี่ ฉันจัดการเอง”
กรองแก้วยื่นให้ วิไลรัมภารับไปแล้วเอาไปให้รณพีร์ กรองแก้วยืนมองต่อ
“ซุปไก่ค่ะ” วิไลรัมภามองเยาะกรองแก้ว เลวตาใส ไม่แคร์ “รัมภาทำเอง เห็นพี่ชายพีร์ไม่ยอมทานข้าว ทานรองท้องเสียหน่อยนะคะ”
กรองแก้วจ๋อย อยู่ยากจริงด้วย ยายนี่ ร้ายให้เห็นตรงๆ กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ แบบนี้จะอยู่ยังไงดี
“ขอบคุณนะครับ”
รณพีร์ยิ้มแห้งๆ ไม่อยากกิน วิไลรัมภานั่งลงข้างๆ
“ถ้าพี่ชายพีร์ไม่ทาน รัมภาจะนั่งเฝ้าอยู่ตรงนี้ ของโปรดไม่ใช่หรือคะ”
รณพีร์ถอนใจ จำต้องตักทาน วิไลรัมภานั่งยิ้มมอง อนาคตภรรยาของคุณชายจุฑาเทพ ดูมีโอกาสมากขึ้น
ส่วนกรองแก้วหนักใจ ถ้าต้องอยู่ร่วมบ้านกับคนนี้จะทำยังไงกันดี เธอชักกังวล
ถ้า สมมุติว่า กรองแก้ว กับ วิไลรัมภา ได้อยู่ร่วมกัน ที่วังจุฑาเทพ จริงๆจะเป็นอย่างไร
สร้อยฟ้าก็สนิทกับกรองแก้วในบรรดาสะใภ้เพราะกรองแก้วเคยช่วยเหลือเธอในขนาดอยู่ในวังตอนเธอเข้าวังแรกๆ มะปรางกับกรองแก้วก็อยู่ในวังด้วยกันก็รู้นิสัยกันดี ส่วนหญิงแต้วอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็สัมผัสได้ถึงความสนิทสนมกัน ความอบอุ่นของครอบครัวในวังจุฑาเทพ
ฉาก วิไลรัมภา กับ กรองแก้ว ตัวต่อตัวเห็นแล้วแซบมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้