เมื่อวิไลรัมภา...คือนางเอก (๕)
สำหรับทุกท่านที่ยังติดตามอ่านนะคะ จขกท.คิดว่าเคาะคาแรคเตอร์วิไลรัมภาของเราออกมาใหม่ เอาแบบ 2 อิน 1 ค่ะ
และขอโมดิฟายด์ฉากเปิดตัว ม.ล.วิไลรัมภา เทวพรหม ดังนี้ค่ะ
(ขออนุญาตคนเขียนบท ยกเอาฉากที่ปรากฏในละครมายำรวมนะคะ แบบว่าแฟนละครขอจิ้นกันเล่นๆ)
ภายในห้องนอน
ภาพในกระจกสะท้อนใบหน้าของหญิงสาวที่บรรจงแต่งอย่างงดงาม วาดสีแดงลงบนริมฝีปากแล้วรอยยิ้มก็ฉีกขึ้นบนใบหน้า
หล่อนพิศโฉมอีกทีก็กระหยิ่มยิ้มให้ตัวเองอย่างพึงพอใจ ก่อนเจรจากับเงาของสาวงามในกระจก
“ม.ล.วิไลรัมภา เทวพรหม สายเลือดสีน้ำเงินบริสุทธิ์ ทายาทแห่งวังเทวพรหมผู้สูงศักดิ์ สวย สดใส สง่า มีคุณค่ายิ่งกว่าผู้หญิงทั้งพระนคร”
จากหน้าชายวัยกลางคนที่แลภูมิฐานก็มาปรากฏร่วมเงากระจกเคียงคู่ที่เบื้องหลัง คุณชายเทวพันธ์ผู้เป็นบิดาเข้ามาตอกย้ำกับลูกสาวผู้เป็นความหวังสุดท้าย
“เทวพรหมของเราพลาดมาสี่ครั้งแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จุฑาเทพต้องทำตามสัญญา พร้อมไหมลูก”
หญิงสาวแย้มยิ้มรับความปรารถนาของบิดา
“ม.ล.วิไลรัมภา เทวพรหม พร้อมเข้าวังจุฑาเทพมาตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ”
เรือนหม่อมย่าเอียด วังจุฑาเทพ
คุณชายเทวพันธ์พาลูกสาวคนเล็กมาเป็นแขกหม่อมย่าเอียดกับย่าอ่อน วิไลรัมภายอมตามไปต้อยๆ แต่โดยดี ทั้งที่หล่อนรู้ดีว่าผู้ชายบ้านนี้อาจมองว่าอยากเป็นสะใภ้เล็กวังจุฑาเทพเสียเต็มประดา
ระหว่างที่หญิงสาวนิ่งฟังบิดาพูดเรื่องตัวเองใกล้จะเรียนแพทย์ปีสุดท้ายจบ เร่งรัดเรื่องแต่งงานด้วยการพูดจาทวงบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตท่านพ่อของคุณชายทั้งห้า ตบด้วยการทวงสัญญาที่จุฑาเทพกับเทวพรหมมีต่อกัน ถึงปั้นหน้าไว้ดิบดี หล่อนก็ยังต้องนั่งก้มหน้าชาไปทั้งตัว
"แหม หนูรัมภา อายจนนั่งตัวแข็งไม่กระดิกเชียว ไม่ต้องอายหรอกลูก เรื่องของหนูกับพี่ชายพีร์น่ะ บ้านนี้รอต้อนรับหนูเป็นสะใภ้เล็กอยู่แล้ว" ย่าอ่อนเย้า
ทว่าระหว่างนั้น ท่าทางย่าอ่อนที่กำชับคนรับใช้เบาๆ ว่าให้ไปเกณฑ์คน "ช่วยกันตาม" คุณชาย
พีร์มาให้ได้ มันบอกสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำพูดก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง
ถึงตอนนี้วิไลรัมภานั่งสงบเสงี่ยมฟังผู้ใหญ่ต่อไปไม่ไหวแล้ว
"หม่อมย่า คุณย่า รัมภาขอตัวไปเดินเล่นสักครู่นะคะ"
"แหม...เขินจนนั่งไม่ติด ไปเถอะลูกแต่อย่าช้านะ พี่ชายพีร์เขารอเจอหนูจะแย่" ย่าอ่อนกำชับทิ้งท้าย
เมื่อวิไลรัมภา...คือนางเอก
สำหรับทุกท่านที่ยังติดตามอ่านนะคะ จขกท.คิดว่าเคาะคาแรคเตอร์วิไลรัมภาของเราออกมาใหม่ เอาแบบ 2 อิน 1 ค่ะ
และขอโมดิฟายด์ฉากเปิดตัว ม.ล.วิไลรัมภา เทวพรหม ดังนี้ค่ะ
(ขออนุญาตคนเขียนบท ยกเอาฉากที่ปรากฏในละครมายำรวมนะคะ แบบว่าแฟนละครขอจิ้นกันเล่นๆ)
ภายในห้องนอน
ภาพในกระจกสะท้อนใบหน้าของหญิงสาวที่บรรจงแต่งอย่างงดงาม วาดสีแดงลงบนริมฝีปากแล้วรอยยิ้มก็ฉีกขึ้นบนใบหน้า
หล่อนพิศโฉมอีกทีก็กระหยิ่มยิ้มให้ตัวเองอย่างพึงพอใจ ก่อนเจรจากับเงาของสาวงามในกระจก
“ม.ล.วิไลรัมภา เทวพรหม สายเลือดสีน้ำเงินบริสุทธิ์ ทายาทแห่งวังเทวพรหมผู้สูงศักดิ์ สวย สดใส สง่า มีคุณค่ายิ่งกว่าผู้หญิงทั้งพระนคร”
จากหน้าชายวัยกลางคนที่แลภูมิฐานก็มาปรากฏร่วมเงากระจกเคียงคู่ที่เบื้องหลัง คุณชายเทวพันธ์ผู้เป็นบิดาเข้ามาตอกย้ำกับลูกสาวผู้เป็นความหวังสุดท้าย
“เทวพรหมของเราพลาดมาสี่ครั้งแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จุฑาเทพต้องทำตามสัญญา พร้อมไหมลูก”
หญิงสาวแย้มยิ้มรับความปรารถนาของบิดา
“ม.ล.วิไลรัมภา เทวพรหม พร้อมเข้าวังจุฑาเทพมาตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ”
เรือนหม่อมย่าเอียด วังจุฑาเทพ
คุณชายเทวพันธ์พาลูกสาวคนเล็กมาเป็นแขกหม่อมย่าเอียดกับย่าอ่อน วิไลรัมภายอมตามไปต้อยๆ แต่โดยดี ทั้งที่หล่อนรู้ดีว่าผู้ชายบ้านนี้อาจมองว่าอยากเป็นสะใภ้เล็กวังจุฑาเทพเสียเต็มประดา
ระหว่างที่หญิงสาวนิ่งฟังบิดาพูดเรื่องตัวเองใกล้จะเรียนแพทย์ปีสุดท้ายจบ เร่งรัดเรื่องแต่งงานด้วยการพูดจาทวงบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตท่านพ่อของคุณชายทั้งห้า ตบด้วยการทวงสัญญาที่จุฑาเทพกับเทวพรหมมีต่อกัน ถึงปั้นหน้าไว้ดิบดี หล่อนก็ยังต้องนั่งก้มหน้าชาไปทั้งตัว
"แหม หนูรัมภา อายจนนั่งตัวแข็งไม่กระดิกเชียว ไม่ต้องอายหรอกลูก เรื่องของหนูกับพี่ชายพีร์น่ะ บ้านนี้รอต้อนรับหนูเป็นสะใภ้เล็กอยู่แล้ว" ย่าอ่อนเย้า
ทว่าระหว่างนั้น ท่าทางย่าอ่อนที่กำชับคนรับใช้เบาๆ ว่าให้ไปเกณฑ์คน "ช่วยกันตาม" คุณชาย
พีร์มาให้ได้ มันบอกสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำพูดก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง
ถึงตอนนี้วิไลรัมภานั่งสงบเสงี่ยมฟังผู้ใหญ่ต่อไปไม่ไหวแล้ว
"หม่อมย่า คุณย่า รัมภาขอตัวไปเดินเล่นสักครู่นะคะ"
"แหม...เขินจนนั่งไม่ติด ไปเถอะลูกแต่อย่าช้านะ พี่ชายพีร์เขารอเจอหนูจะแย่" ย่าอ่อนกำชับทิ้งท้าย