คริส สมอลลิ่ง, จอนนี่ อีแวนส์ และ ฟิลโจนส์ เตรียมที่จะต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งตรงกลางของแนวรับร่วมกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ หรือ เนมานย่า วิดิช แต่ใครกันที่จะได้รับโอกาสนั้น?



ตลอดการคุมทีมเอฟเวอร์ตันนั้น เดวิด มอยส์ ได้มอบความไว้วางใจกับกองหลังมากประสบการณ์มาโดยตลอด ตอนนี้ 3 นักเตะหนุ่มของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้ง ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง และ จอนนี่ อีแวนส์ ต่างก็ต้องพยายามทำให้ผู้จัดการทีมคนใหม่เชื่อใจให้ได้โดยเร็ว

ตอนที่มอยส์เข้ามารับงานคุมทีมในพรีเมียร์ ลีก กับเอฟเวอร์ตันใหม่ๆ เขาเลือกใช้กองหลังตัวกลางที่อายุเกิน 30 ปีอย่าง เดวิด เวียร์ และ อลัน สตั๊บบ์ส ทั้งคู่คือนักเตะที่เป็นมรดกตกทอดมาจาก วอลเตอร์ สมิธ ผู้จัดการทีมคนก่อน แต่แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง ทั้ง 2 คนก็ยังคงค้าแข้งกับทีมต่อไปได้อีกถึงเกือบ 5 ปีเลยทีเดียว

ทั้งเวียร์ และสตั๊บบ์ส ต่างก็ยุติอาชีพค้าแข้งกับทีมเอฟเวอร์ตันด้วยอายุอานามถึง 37 ปีด้วยกันทั้งคู่ มาในตอนนี้มอยส์ก็มี ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมานย่า วิดิช เป็นตัวเลือกหลักท่ามกลางแนวรับอีกหลายคนหลังจากที่เขาเข้ามารับตำแหน่งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนเปิดฤดูกาลใหม่

  

เฟอร์ดินานด์เพิ่งจะต่อสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไปอีก 1 ปี และก็จะมีอายุครบ 35 ปีในเดือนพฤศจิกายน ส่วนกัปตันอย่างวิดิชก็จะมีอายุครบ 32 ปีในเดือนตุลาคมด้วย ทั้งคู่มีปัญหาเรื่องสภาพความฟิตเล็กน้อยในช่วงหลัง แต่หากว่าทั้งคู่พร้อมลงสนามเมื่อไหร่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือทีมปีศาจแดงก็จะจับพวกเขายืนคู่กันในแนวรับอยู่เสมอ

แต่เซอร์ อเล็กซ์ เองก็ได้เตรียมตัวตายตัวแทนของทั้งคู่สำหรับตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คเอาไว้แล้วด้วย โดยมีทั้งโจนส์, สมอลลิ่ง และอีแวนส์ ก่อนที่จะประกาศยุติการคุมทีม เขาเคยบอกว่าโจนส์ผู้สารพัดประโยชน์ในวัย 21 ปีจะกลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่สโมสรแห่งนี้เคยมีมาเลยทีเดียว

ย้อนไปในตอนที่อีแวนส์นักเตะทีมชาติไอร์แลนด์เหนือก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ใหม่ๆ เซอร์ อเล็กซ์ ก็เคยมองเขาว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของเฟอร์ดินานด์ด้วย



สมอลลิ่งถูกคว้าตัวมาจากฟูแล่มในปี 2010 ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ และตอนนี้เขาก็สร้างผลงานจนติดทีมชาติอังกฤษไปเรียบร้อยแล้ว เซอร์ อเล็กซ์ ยื่นสัญญา 5 ปีให้กับเขาในปี 2011 พร้อมกับบอกว่าเขาจะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในอนาคต

ตอนนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรที่ 3 นักเตะหนุ่มจะต้องพิสูจน์ตัวเองว่าพร้อมแล้วสำหรับการแย่งตำแหน่งจากรุ่นพี่ในทีม

กลยุทธ์การทำทีมของมอยส์ที่เอฟเวอร์ตันนั้นคือการสร้างทีมท่ามกลางนักเตะตัวเก๋า ในช่วงแรกก็เป็นสตั๊บบ์ส กับเวียร์ ต่อมาก็เป็น ซิลแว็ง ดิสแต็ง ที่ตอนนี้ก็ยังค้าแข้งอยู่กับทีมในวัย 35 ปี นั่นเป็นสิ่งที่ทั้งโจนส์, สมอลลิ่ง และอีแวนส์อาจจะรู้สึกหวั่นใจอยู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งเวียร์ และสตั๊บบ์ส ได้อำลาถิ่นกูดิสันไป มอยส์เองก็ได้ดันกองหลังหน้าใหม่อย่าง โจเลออน เลสค็อตต์ ที่คว้าตัวมาจากวูล์ฟส์ด้วยวัย 25 ปี และ ฟิล จากีลก้า ที่ซื้อมาจากเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ด้วยวัย 24 ปีก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในทีมด้วยเช่นกัน

จากนั้นเลสค็อตต์ก็ย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ พร้อมกับติดทีมชาติอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่จากีลก้าเองก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมสิงโตคำรามเหมือนกัน



ไม่มีอะไรที่โจนส์ควรทำให้มอยส์เห็นมากไปกว่าการพิสูจน์ว่าตำแหน่งไหนกันแน่ที่เขาถนัดมากที่สุด ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่าเซ็นเตอร์แบ็คคือตำแหน่งที่เขาอยากเล่นเป็นประจำในอนาคต และอดีตกองหลังของทีมปีศาจแดงหลายคนก็เห็นด้วยกับตรงนี้ และด้วยการที่เขาสามารถเล่นเป็นแบ็คขวา, มิดฟิลด์ตัวกลาง หรือตัวกวาดบอลที่ยืนหน้ากองหลัง นั่นยิ่งทำให้มอยส์มีตัวเลือกมากขึ้นไปอีกสำหรับการใช้งานเขา



นั่นอาจจะเป็นการเปิดทางให้สมอลลิ่ง และอีแวนส์ได้ยืนคู่กันในแนวรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนอย่างที่เซอร์ อเล็กซ์ เคยมองเอาไว้ด้วย

ครั้งหนึ่งเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซอร์ อเล็กซ์ ก็ได้ตอบว่า "นั่นคือสิ่งที่ผมมองเห็นในอนาคต" ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ อดีตผู้จัดการทีมปีศาจแดงเคยพูดถึงอีแวนส์ว่า "จอนนี่เพิ่งจะอายุ 25 ปี แต่ปีที่แล้วเขาก็ได้แสดงฝีเท้าของกองหลังระดับท็อปออกมาให้เห็นแล้ว ฟอร์มของเขามันน่าทึ่งเหลือเกิน"



ปัญหาใหญ่ของสมอลลิ่งนั้นก็คือเขาต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นหนึ่งในนักเตะที่อนาคตต้องดับวูบลงไปเพราะอาการบาดเจ็บที่รบกวนไม่เลิกรา ที่ผ่านมาอาชีพค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ยังไม่ค่อยสวยหรูนักก็เพราะปัญหาเรื่องนี้

ในฤดูกาลเปิดตัวของนักเตะจากลอนดอนนั้น เขายังไม่ค่อยกังวัลอะไรมากนัก เนื่องจากเพิ่งย้ายเข้ามาสู่ทีมใหม่ๆ แต่ในฤดูกาล 2011-2012 เขาก็ถูกรบกวนโดยอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ รวมถึงอาการกระดูกเท้าแตกที่ทำให้ความฝันติดทีมชาติอังกฤษไปลุยยูโร 2012 ของเขาต้องสลายตามไปด้วย

อาการบาดเจ็บกระดูกฝ่าเท้าอีกครั้งของเขาในช่วงซัมเมอร์ที่แล้วทำให้เขาพลาดการลงสนามไปหลายเกมในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล เขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมเลยจนถึงเดือนพฤศจิกายน นอกจากนั้นเขาก็เคยถูกกระทบกระเทือนอย่างแรงที่ศีรษะในเกมที่ทีมชาติอังกฤษพบกับฮอลแลนด์ในเดือนกุมภาพันธ์ด้วย

ล่าสุดในฤดูกาลที่ผ่านมา ช่วงท้ายเดือนมีนาคม เขาก็ต้องมาเจอกับอาการบาดเจ็บที่ฝ่าเท้าอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้สมอลลิ่งต้องฉลองแชมป์ในปี 2013 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างที่กำลังพักฟื้นหลังจากเข้ารับการผ่าตัดมา เขาจำเป็นที่จะต้องเรียกความฟิตมาติดทีมไปเตะพรีซีซั่นที่ออสเตรเลีย และตะวันออกไกลเพื่อโชว์ฟอร์มให้เข้าตา เดวิด มอยส์ ให้ได้ หลังจากที่ไม่ได้ลงสนามเลยตั้งแต่เดือนเมษายน



อีแวนส์เพิ่งจะแต่งงานไปเมื่อไม่นานมานี้ และเขาก็ไม่มีโปรแกรมต้องไปเตะเกมทีมชาติอีกเลยหลังจบฤดูกาล ขณะที่ทั้งเฟอร์ดินานด์ และวิดิช ต่างก็ประกาศอำลาทีมชาติกันไปแล้ว ทำให้โจนส์เป็นเซ็นเตอร์แบ็คเพียงคนเดียวในทีมชุดใหญ่ที่ต้องไปเล่นให้กับทีมชาติหลังจบฤดูกาลเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม

ล่าสุดเราเห็นเขาที่ริโอ เด จาเนโร ในเกมอุ่นเครื่องระหว่างอังกฤษกับบราซิลเมื่อต้นเดือน ซึ่งตอนนี้เขาก็กำลังอยู่ในช่วงของการชาร์จแบตเตอรี่

ทุกคนจึงยังคงมีเวลาเหลือเฟือที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับการโชว์ฟอร์มให้มอยส์ประทับใจก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นขึ้น

credit : www.redarmyfc.com   โดย Sir KeaNo