เดวิด มอยส์ ดำรงตำแหน่งอยู่ในทีมเอฟเวอร์ตันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2002 ในช่วงเวลานั้นเขาได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองด้วยความยิ่งใหญ่ที่สร้างให้กับทีมฝั่งสีน้ำเงินของเมอร์ซี่ย์ไซด์ แล้วมันมีอะไรที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรรู้เกี่ยวกับชายคนที่จะมาดูแลทีมปีศาจแดงต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คนนี้บ้าง? นี่คือคู่มือฉบับย่อที่จะทำให้ทุกคนรู้จักเขามากขึ้น...
พื้นเพเดียวกัน
เหมือนกับ เซอร์ อเล็กซ์ ไม่มีผิด เดวิด มอยส์ นั้นมาจากครอบครัวชนชั้นแรงงานในเมืองกลาสโกว์ ทั้งคู่ยังเคยไปอยู่กับดันเฟิร์มลิน แอธเลติก ในช่วงที่พวกเขาค้าแข้งเหมือนกันด้วย ที่ต่างกันก็คือคนหนึ่งเคยอยู่กับเรนเจอร์ส (เซอร์ อเล็กซ์) ส่วนอีกคนเคยเล่นให้เซลติก (มอยส์)
ช่วงค้าแข้ง
เดวิด มอยส์ ได้เล่นให้กับสโมสรที่แตกต่างกัน 7 ทีม ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่เขาค้าแข้งในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค เขาไม่ได้โด่งดังอะไรมากมาย และก็ไม่เคยติดทีมชาติสักนัด แต่เขาก็ลงเตะไปทั้งหมดถึง 550 เกมทั้งกับสโมสรในสก็อตแลนด์ และอังกฤษ
นักเรียนรู้แห่งเกมการแข่งขัน
มีข่าวว่ามอยส์นั้นเริ่มต้นเข้าอบรมทางด้านโค้ชตั้งแต่อายุ 22 ปี และก็เริ่มหัดจดโน้ตเกี่ยวกับเทคนิค และแท็คติคต่างๆ จากผู้จัดการทีมของเขา นั่นอธิบายได้เป็นอย่างดีว่าทำไมเขาถึงหันมาจับงานโค้ชเร็วนัก โดยเขาเป็นผู้เล่น และผู้จัดการทีมให้กับเปรสตัน นอร์ธ เอนด์ (ในดิวิชั่น 2) ตอนอายุ 35 ปี
เริ่มไต่เต้าขึ้นมาจากเปรสตัน
ตอนที่เขาขึ้นมาคุมทีมเปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ใหม่ๆ ในเดือนมกราคม 1998 สโมสรจากแลงคาเชียร์กำลังตกที่นั่งลำบาก และส่อแววตกชั้นไปเล่นในลีกระดับที่ 4 ของฟุตบอลอังกฤษ แต่ว่า 2 ปีหลังจากนั้น มอยส์ก็พาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ในฤดูกาล 1999-2000 มาครอง โดยมีคะแนนทิ้งห่างคู่ปรับร่วมเมืองอย่างเบิร์นลี่ย์ถึง 7 แต้ม และในฤดูกาลถัดมา ด้วยทีมชุดที่เกือบจะเหมือนเดิมนี้ เปรสตันของมอยส์เกือบจะประสบความสำเร็จถึงขั้นเลื่อนชั้นไปเตะพรีเมียร์ ลีก เลยด้วย
ความจงรักภักดี และมากด้วยประสบการณ์
มอยส์อยู่กับเอฟเวอร์ตันมานานกว่า 11 ปี ทำให้เขาทำสถิติเป็นผู้จัดการทีมที่อยู่กับสโมสรยาวนานที่สุดในพรีเมียร์ ลีก เป็นอันดับ 3 รองจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ อาร์แซน เวนเจอร์ กุนซืออาร์เซน่อล ครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เคยพูดถึงเขาว่า "เดวิดต้องทำงานโดยที่ทีมมีฐานะทางการเงินไม่ดีมาตลอด เขาสามารถดึงศักยภาพสูงสุดของนักเตะที่มีอยู่ในทีมออกมาได้ และสิ่งที่เขาทำเอาไว้มันก็น่ามหัศจรรย์มาก"
ส่วนค่าเฉลี่ยการคุมทีมของกุนซือแต่ละคนในพรีเมียร์ ลีก นั้น เมื่อตีเป็นตัวเลขออกมาก็ไม่ถึง 4 ฤดูกาล
นักล่ารางวัล
มอยส์ได้คว้ารางวัลส่วนตัวมาประดับบารมีมากมาย เขาได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้จัดการทีมลีกอังกฤษมาครองถึง 3 สมัย ในปี 2003, 2005 และ 2009 ซึ่งรางวัลดังกล่าวมาจากการโหวตของคนที่เป็นผู้จัดการทีมเหมือนกันในวงการฟุตบอลอังกฤษ เซอร์ อเล็กซ์ เป็นอีกคนที่ได้รางวัลนี้มาแบบแฮตทริค นอกจากนี้มอยส์ยังเคยได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งเดือนมาถึง 10 ครั้งอีกด้วย ส่วน เซอร์ อเล็กซ์ เคยได้รางวัลนี้มา 15 ครั้ง แต่ก็มาจากระยะเวลาการคุมทีมที่นานกว่าเขามากๆ
เทียบกันตัวต่อตัว
มอยส์นั้นเคยคุมทีมพบกับเซอร์ อเล็กซ์ มาทั้งหมด 24 ครั้ง และก็เหมือนกับผู้จัดการทีมหลายๆ คนที่เคยเจอกับ เซอร์ อเล็กซ์ มาตลอดระยะเวลาหลายปี เขาพบกับความพ่ายแพ้มากกว่าได้รับชัยชนะ บอสใหญ่ของทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินเคยคว้าชัยในเวลา 90 นาทีเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น (โดยมีอีกครั้งที่ชนะด้วยการดวลจุดโทษที่เวมบลีย์ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 2009) อย่างไรก็ตามเขาก็เคยทำผลงานคัมแบ็คสุดยิ่งใหญ่ได้ในนัดที่บุกมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปีที่แล้ว เอฟเวอร์ตันตามหลังอยู่ 2 - 4 ก่อนจะใช้เวลาเพียง 7 นาทีไล่ตีเสมอเป็น 4 - 4 ในเดือนเมษายน 2012 มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นมาก่อนแล้วด้วยที่กูดิสัน พาร์ค ในเดือนกันยายน 2010 เมื่อลูกทีมของมอยส์กำลังจะแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 1 - 3 จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พวกเขายิงได้ 2 ลูกติดกัน และคว้าผลเสมอ 3 - 3 เอาไว้ได้ นี่คือความสามารถในการเค้นฟอร์มจากลูกทีมของเขาได้จนถึงวินาทีสุดท้าย เช่นเดียวกับที่ทำมาได้ตลอด 90 นาที นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาน่าจะเข้ากับสโมสรแห่งใหม่ที่มักจะเก็บชัยชนะในช่วงท้ายเกมบ่อยๆ ได้เป็นอย่างดี
การเอาชนะทีมเรือใบสีฟ้า
นับว่ามอยส์มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยุคเฟื่องฟูในปัจจุบัน เขาเก็บชัยชนะไปได้ถึง 7 ครั้ง และเสมออีก 1 ครั้ง จากการพบกันทั้งหมด 10 เกมนับตั้งแต่ที่ ชีค มันซูร์ เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมในฤดูกาล 2008-2009 โดยในจำนวนนั้นเป็นการเอาชนะได้แบบไปกลับในฤดูกาลเดียว รวมถึงสถิติชนะแบบต่อเนื่อง 4 เกมในการเจอกันที่กูดิสัน พาร์ค ด้วย ครั้งหลังสุดที่พวกเขามีชัยด้วยสกอร์ 2 - 0 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2013 มีส่วนช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำคะแนนทิ้งห่างรองจ่าฝูงไปเป็น 15 คะแนน เมื่อทีมปีศาจแดงเก็บชัยชนะเหนือเรดดิ้ง 1 - 0 ได้ในวันต่อมา มีเพียงแค่ 3 ทีมเท่านั้นที่มาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ตลอด 3 ฤดูกาลหลังสุด เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อาร์เซนอล (ตุลาคม 2010) และเอฟเวอร์ตันของมอยส์ (ธันวาคม 2010)
ผู้ปลุกปั้นรูนี่ย์
ใช่แล้ว มอยส์คือคนที่มอบโอกาสให้กับ เวย์น รูนี่ย์ ที่เอฟเวอร์ตัน ตอนนั้นเขาอายุแค่ 16 ปีเท่านั้นเอง เขามีบทบาทสำคัญในช่วงที่รูนี่ย์กำลังพัฒนาฝีเท้า ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดถึงศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษคนนี้ว่า "เขาค่อนข้างขี้อาย แต่ก็มีความกระตือรือร้นเมื่ออยู่ในสนามซ้อม มันดูเหมือนกับเด็กที่ไล่เตะลูกฟุตบอลกับเพื่อนๆ ตามสวนสาธารณะเลย ครั้งหนึ่งเขาเคยยิงประตูในสนามซ้อมด้วยลูกชิพข้ามหัวผู้รักษาประตูจากมุมที่ไม่น่าจะยิงเข้าได้ หลังจากนั้นทั้งสนามก็เงียบกริบ โค้ชทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อสายตา 'มันเกิดขึ้นจริงๆ เหรอลูกนั้น?' นับเป็นนักเตะพรสวรรค์ระดับปรากฏการณ์เลยก็ว่าได้"
รับรองฝีมือโดยนักเตะระดับตำนาน
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ชายผู้ประสบความสำเร็จในฐานะสุดยอดผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงยุค 1990 ได้ออกมารับประกันมอยส์ถึงคุณสมบัติที่เพียงพอต่อการมาสืบทอดตำแหน่งต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ "สำหรับ เดวิด มอยส์ นั้น เขาอยู่กับเอฟเวอร์ตันมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ และเขาก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยม แถมเป็นชาวสก็อตเหมือนกันด้วย ดูแล้วเหมือนกับตัดออกมาจากผ้าผืนเดียวกันกับ เซอร์ อเล็กซ์ เลย เขาคือชายที่สามารถทำให้คุณรู้สึกถึงความมั่นคงได้ ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้แหละที่สำคัญสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหนือสิ่งอื่นใด"
credit : www.redarmyfc.com โดย Sir KeaNo
[บทความผีแดง 2013-06-20] คู่มือฉบับย่อที่จะทำให้ทุกคนรู้จักเดวิด มอยส์ มากขึ้น
พื้นเพเดียวกัน
เหมือนกับ เซอร์ อเล็กซ์ ไม่มีผิด เดวิด มอยส์ นั้นมาจากครอบครัวชนชั้นแรงงานในเมืองกลาสโกว์ ทั้งคู่ยังเคยไปอยู่กับดันเฟิร์มลิน แอธเลติก ในช่วงที่พวกเขาค้าแข้งเหมือนกันด้วย ที่ต่างกันก็คือคนหนึ่งเคยอยู่กับเรนเจอร์ส (เซอร์ อเล็กซ์) ส่วนอีกคนเคยเล่นให้เซลติก (มอยส์)
ช่วงค้าแข้ง
เดวิด มอยส์ ได้เล่นให้กับสโมสรที่แตกต่างกัน 7 ทีม ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่เขาค้าแข้งในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค เขาไม่ได้โด่งดังอะไรมากมาย และก็ไม่เคยติดทีมชาติสักนัด แต่เขาก็ลงเตะไปทั้งหมดถึง 550 เกมทั้งกับสโมสรในสก็อตแลนด์ และอังกฤษ
นักเรียนรู้แห่งเกมการแข่งขัน
มีข่าวว่ามอยส์นั้นเริ่มต้นเข้าอบรมทางด้านโค้ชตั้งแต่อายุ 22 ปี และก็เริ่มหัดจดโน้ตเกี่ยวกับเทคนิค และแท็คติคต่างๆ จากผู้จัดการทีมของเขา นั่นอธิบายได้เป็นอย่างดีว่าทำไมเขาถึงหันมาจับงานโค้ชเร็วนัก โดยเขาเป็นผู้เล่น และผู้จัดการทีมให้กับเปรสตัน นอร์ธ เอนด์ (ในดิวิชั่น 2) ตอนอายุ 35 ปี
เริ่มไต่เต้าขึ้นมาจากเปรสตัน
ตอนที่เขาขึ้นมาคุมทีมเปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ใหม่ๆ ในเดือนมกราคม 1998 สโมสรจากแลงคาเชียร์กำลังตกที่นั่งลำบาก และส่อแววตกชั้นไปเล่นในลีกระดับที่ 4 ของฟุตบอลอังกฤษ แต่ว่า 2 ปีหลังจากนั้น มอยส์ก็พาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ในฤดูกาล 1999-2000 มาครอง โดยมีคะแนนทิ้งห่างคู่ปรับร่วมเมืองอย่างเบิร์นลี่ย์ถึง 7 แต้ม และในฤดูกาลถัดมา ด้วยทีมชุดที่เกือบจะเหมือนเดิมนี้ เปรสตันของมอยส์เกือบจะประสบความสำเร็จถึงขั้นเลื่อนชั้นไปเตะพรีเมียร์ ลีก เลยด้วย
ความจงรักภักดี และมากด้วยประสบการณ์
มอยส์อยู่กับเอฟเวอร์ตันมานานกว่า 11 ปี ทำให้เขาทำสถิติเป็นผู้จัดการทีมที่อยู่กับสโมสรยาวนานที่สุดในพรีเมียร์ ลีก เป็นอันดับ 3 รองจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ อาร์แซน เวนเจอร์ กุนซืออาร์เซน่อล ครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เคยพูดถึงเขาว่า "เดวิดต้องทำงานโดยที่ทีมมีฐานะทางการเงินไม่ดีมาตลอด เขาสามารถดึงศักยภาพสูงสุดของนักเตะที่มีอยู่ในทีมออกมาได้ และสิ่งที่เขาทำเอาไว้มันก็น่ามหัศจรรย์มาก"
ส่วนค่าเฉลี่ยการคุมทีมของกุนซือแต่ละคนในพรีเมียร์ ลีก นั้น เมื่อตีเป็นตัวเลขออกมาก็ไม่ถึง 4 ฤดูกาล
นักล่ารางวัล
มอยส์ได้คว้ารางวัลส่วนตัวมาประดับบารมีมากมาย เขาได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้จัดการทีมลีกอังกฤษมาครองถึง 3 สมัย ในปี 2003, 2005 และ 2009 ซึ่งรางวัลดังกล่าวมาจากการโหวตของคนที่เป็นผู้จัดการทีมเหมือนกันในวงการฟุตบอลอังกฤษ เซอร์ อเล็กซ์ เป็นอีกคนที่ได้รางวัลนี้มาแบบแฮตทริค นอกจากนี้มอยส์ยังเคยได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งเดือนมาถึง 10 ครั้งอีกด้วย ส่วน เซอร์ อเล็กซ์ เคยได้รางวัลนี้มา 15 ครั้ง แต่ก็มาจากระยะเวลาการคุมทีมที่นานกว่าเขามากๆ
เทียบกันตัวต่อตัว
มอยส์นั้นเคยคุมทีมพบกับเซอร์ อเล็กซ์ มาทั้งหมด 24 ครั้ง และก็เหมือนกับผู้จัดการทีมหลายๆ คนที่เคยเจอกับ เซอร์ อเล็กซ์ มาตลอดระยะเวลาหลายปี เขาพบกับความพ่ายแพ้มากกว่าได้รับชัยชนะ บอสใหญ่ของทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินเคยคว้าชัยในเวลา 90 นาทีเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น (โดยมีอีกครั้งที่ชนะด้วยการดวลจุดโทษที่เวมบลีย์ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 2009) อย่างไรก็ตามเขาก็เคยทำผลงานคัมแบ็คสุดยิ่งใหญ่ได้ในนัดที่บุกมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปีที่แล้ว เอฟเวอร์ตันตามหลังอยู่ 2 - 4 ก่อนจะใช้เวลาเพียง 7 นาทีไล่ตีเสมอเป็น 4 - 4 ในเดือนเมษายน 2012 มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นมาก่อนแล้วด้วยที่กูดิสัน พาร์ค ในเดือนกันยายน 2010 เมื่อลูกทีมของมอยส์กำลังจะแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 1 - 3 จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พวกเขายิงได้ 2 ลูกติดกัน และคว้าผลเสมอ 3 - 3 เอาไว้ได้ นี่คือความสามารถในการเค้นฟอร์มจากลูกทีมของเขาได้จนถึงวินาทีสุดท้าย เช่นเดียวกับที่ทำมาได้ตลอด 90 นาที นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาน่าจะเข้ากับสโมสรแห่งใหม่ที่มักจะเก็บชัยชนะในช่วงท้ายเกมบ่อยๆ ได้เป็นอย่างดี
การเอาชนะทีมเรือใบสีฟ้า
นับว่ามอยส์มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยุคเฟื่องฟูในปัจจุบัน เขาเก็บชัยชนะไปได้ถึง 7 ครั้ง และเสมออีก 1 ครั้ง จากการพบกันทั้งหมด 10 เกมนับตั้งแต่ที่ ชีค มันซูร์ เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมในฤดูกาล 2008-2009 โดยในจำนวนนั้นเป็นการเอาชนะได้แบบไปกลับในฤดูกาลเดียว รวมถึงสถิติชนะแบบต่อเนื่อง 4 เกมในการเจอกันที่กูดิสัน พาร์ค ด้วย ครั้งหลังสุดที่พวกเขามีชัยด้วยสกอร์ 2 - 0 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2013 มีส่วนช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำคะแนนทิ้งห่างรองจ่าฝูงไปเป็น 15 คะแนน เมื่อทีมปีศาจแดงเก็บชัยชนะเหนือเรดดิ้ง 1 - 0 ได้ในวันต่อมา มีเพียงแค่ 3 ทีมเท่านั้นที่มาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ตลอด 3 ฤดูกาลหลังสุด เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อาร์เซนอล (ตุลาคม 2010) และเอฟเวอร์ตันของมอยส์ (ธันวาคม 2010)
ผู้ปลุกปั้นรูนี่ย์
ใช่แล้ว มอยส์คือคนที่มอบโอกาสให้กับ เวย์น รูนี่ย์ ที่เอฟเวอร์ตัน ตอนนั้นเขาอายุแค่ 16 ปีเท่านั้นเอง เขามีบทบาทสำคัญในช่วงที่รูนี่ย์กำลังพัฒนาฝีเท้า ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดถึงศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษคนนี้ว่า "เขาค่อนข้างขี้อาย แต่ก็มีความกระตือรือร้นเมื่ออยู่ในสนามซ้อม มันดูเหมือนกับเด็กที่ไล่เตะลูกฟุตบอลกับเพื่อนๆ ตามสวนสาธารณะเลย ครั้งหนึ่งเขาเคยยิงประตูในสนามซ้อมด้วยลูกชิพข้ามหัวผู้รักษาประตูจากมุมที่ไม่น่าจะยิงเข้าได้ หลังจากนั้นทั้งสนามก็เงียบกริบ โค้ชทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อสายตา 'มันเกิดขึ้นจริงๆ เหรอลูกนั้น?' นับเป็นนักเตะพรสวรรค์ระดับปรากฏการณ์เลยก็ว่าได้"
รับรองฝีมือโดยนักเตะระดับตำนาน
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ชายผู้ประสบความสำเร็จในฐานะสุดยอดผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงยุค 1990 ได้ออกมารับประกันมอยส์ถึงคุณสมบัติที่เพียงพอต่อการมาสืบทอดตำแหน่งต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ "สำหรับ เดวิด มอยส์ นั้น เขาอยู่กับเอฟเวอร์ตันมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ และเขาก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยม แถมเป็นชาวสก็อตเหมือนกันด้วย ดูแล้วเหมือนกับตัดออกมาจากผ้าผืนเดียวกันกับ เซอร์ อเล็กซ์ เลย เขาคือชายที่สามารถทำให้คุณรู้สึกถึงความมั่นคงได้ ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้แหละที่สำคัญสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหนือสิ่งอื่นใด"
credit : www.redarmyfc.com โดย Sir KeaNo