ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพื่อใคร
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพื่อเงิน
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพราะถูกครอบงำ
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพราะหวังนโยบายประชานิยม
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงเป็นแค่สู้เพื่อตัวเองก็ตาม
แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นคือ การต่อสู้ของคนเสื้อแดงสู้เพื่อความเท่าเทียม สู้เพื่อความเสมอภาคและนั่นคือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ดังนั้นคนเสื้อแดงจึงไม่เข็ดหลาบ แม้จะถูกสลายการชุมนุมในปี 52
ดังนั้นคนเสื้อแดงยิ่งทวีคูณขึ้นมากมาย หลังจากถูกเข่นฆ่าในปี 53
เพราะนี่เป็นอุดมการณ์ที่ไม่ได้หวังเงินเยียวยา แต่สิ่งที่หวัง จึงเป็นเพียงหวังให้ประเทศไทยมีระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยไม่ถูกครอบงำด้วยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คณะใดคณะหนึ่ง
สิ่งที่คนเสื้อแดงมุ่งหวัง เพียงแค่อยากได้รัฐบาลมาจากความต้องการของคนส่วนใหญ่
สิ่งที่คนเสื้อแดงคาดหวัง อยากกำหนดทิศทางของประเทศด้วยตัวของประชาชนเอง
และผมก็เชื่อด้วยว่า คนเสื้อแดงก็ไม่ได้สมหวังกับการบริหารของรัฐบาลไปเสียทั้งหมด
และผมก็เชื่อด้วยว่า คนเสื้อแดงก็ไม่ได้ดังหวังกับรัฐมนตรีชุดนี้ในหลายคน
เพียงแต่เมื่อเป็นรัฐบาลที่มาจากความต้องการของคนส่วนใหญ่ จำต้องปล่อยให้รัฐบาลบริหารไปตามครรลองของประชาธิปไตย เมื่อหมดวาระแล้วค่อยปล่อยให้ประชาชนตัดสินกันใหม่ ประชาธิปไตยจึงจะสามารถพัฒนาต่อไปได้ ไม่ใช่ล้มลุกคลุกคลานไม่เจริญเติบโตสักที เพราะมักถูกตัดตอนด้วยการรัฐประหารเสมอมา
การตรวจสอบก็จำเป็นต้องมี เรื่องทุจริตก็จำเป็นต้องตรวจสอบ แต่ควรปล่อยเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องดูแล ควรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของมัน
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า มันมีการทุจริตมหาศาล
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า ระบอบทักษิณมันเลวร้าย
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า ประเทศชาติจะล้มละลาย
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า พวกนั้นมันจะขายชาติ
และไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า พวกนั้นจะมาล้มสถาบัน
เพราะการขับไล่รัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่นั้น มันไม่เหมือนกับการร่วมแรงร่วมใจกันขับไล่อำนาจของเผด็จการนะครับ ดังนั้นต่อให้ขับไล่รัฐบาลสำเร็จ ทำให้รัฐบาลต้องยุบสภา แต่เลือกตั้งใหม่ รัฐบาลชุดนี้ก็คงกลับเข้ามาใหม่ แล้วจะทำอย่างไรต่อไป หรือว่าจะขับไล่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ กลายเป็นการขัดขวางการทำงานของรัฐบาลไปเสียฉิบ แล้วก็โยนความผิดให้กับรัฐบาลที่ไม่สามารถนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
หรือจะให้กองทัพเข้ามามีอำนาจแทนอำนาจประชาชน อย่างน้อยก็เห็นแล้วว่า คนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยก็ไม่มีทางยอมให้เป็นอย่างนั้น แล้วความวุ่นวายก็จะไม่มีทางหมดสิ้น เราต้องการอย่างนั้นหรือครับ
หลายๆท่านคิดถึงแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากตระกูลชินวัตร โดยละเลยที่จะคิดต่อไปว่า การทำรัฐประหารต่างหากครับที่สร้างความหายนะให้กับประเทศมากกว่า และยังเป็นการตัดตอนการพัฒนาประชาธิปไตยไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน มันคุ้มหรือไม่ลองคิดดู
ถ้าปล่อยไปตามครรลองของประชาธิปไตยเฉกเช่นเดียวกับการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
แม้ว่าจะมีข้อครหามากมายเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด
แม้ว่าจะทำให้ประเทศอับอายไปทั่วโลก กรณีเป็นเจ้าภาพฟุตซอลโลก
แม้ว่าจะทำให้กรุงเทพน้ำท่วมมากมาย เพราะอุโมงค์ยักษ์ทำงานไม่ได้สมราคาคุย
แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องต่อสัญญาล่วงหน้า 17 ปีของบีทีเอส ก็ปล่อยให้ดีเอสไอเขาไปฟ้องกันเอง
แม้ว่าจะไม่มีผลงานมาอวดโชว์ได้ การหาเสียงเลยต้องใช้วาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองมาเป็นนโยบายในการหาเสียง
แต่เมื่อคนกรุงเทพยังอยากให้ผู้ว่าฯคนเดิมมาบริหารต่ออีก 4 ปี ด้วยคะแนนเสียงล้านสอง ดังนั้นล้านเสียงของคนเสื้อแดงก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯคนเดิมบริหารต่อไป จนกว่าจะครบอีกสี่ปี แล้วค่อยมาคัดเลือกกันใหม่
ไม่เคยคิดจะขับไล่ เพราะเผด็จการสภา กทม.
ไม่เคยคิดจะขับไล่ เพราะมีเรื่องทุจริตมากมาย
ไม่เคยคิดจะขับไล่ เพราะได้คะแนนอย่างไม่ชอบธรรม
เพราะคนรักประชาธิปไตย ย่อมรู้ดีว่า เผด็จการรัฐสภานั่นคือความต้องการของคนส่วนใหญ่
เพราะคนรักประชาธิปไตย ย่อมรู้ดีว่า การทุจริตปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม
เพราะคนรักประชาธิปไตย ย่อมรู้ดีว่า เรื่องการใส่ร้ายป้ายสีอยู่ในมือของ กกต.แล้ว
สุดท้ายจะถูกดองเอาไว้ตามเคยหรือท้ายสุดนายทะเบียนอาจยุติเรื่องไม่สืบสวนต่อ แต่เมื่อเป็นไปตามกติกา คงทำได้แค่ทวงถาม แล้วปล่อยให้ผู้ว่าฯบริหารจนหมดวาระ กทม.จะได้เดินหน้าต่อ ความวุ่นวายเพราะไม่เคารพกติกาก็ไม่เกิด นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตยไงครับ
หรือแม้กระทั่งผลโพลที่มักจะผิดพลาดแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อมาสำรวจในกรุงเทพ ที่มีผู้ว่าฯและ สก.สข.ของอีกพรรคเป็นฝ่ายคุมเกมอยู่ก็ตาม แต่เมื่อไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดได้ คนเสื้อแดงก็ไม่เคยคิดจะประท้วงหรือขับไล่ด้วยวิธีการใส่ความเอาไว้ก่อน แล้วหาหลักฐานกันทีหลังหรอกนะครับ นี่จึงเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นประชาธิปไตยที่คนเสื้อแดงฝันถึง มีกติกาแล้วต้องเคารพ ประเทศจึงจะเดินหน้าได้ครับ
สิ่งที่จะบอกก็คือ ขอเพียงแต่พวกท่านมาตามกติกา ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ คนเสื้อแดงก็พร้อมจะยอมรับการบริหารจากพวกท่าน และที่คนเสื้อแดงจะทำได้ก็คงแค่คอยตรวจสอบการทำงานของพวกท่านอย่างใกล้ชิดแค่นั้นเอง ไม่ใช่ไปลากเอาระบอบอะไรก็ไม่รู้มาโยง แล้วบอกว่าจะล้มล้างให้หมดประเทศ ปัญญาอ่อนเกินไปแล้วล่ะครับแบบนั้น
ดังนั้นพวกท่านอย่าคิดผลักไสคนเสื้อแดงเป็นพวกจ้องล้มสถาบันเลยครับ
พวกท่านอย่าคิดผลักไสคนเสื้อแดงเป็นพวกคนไทยหัวใจต่างชาติเลยครับ
พวกท่านอย่าคิดผลักไสคนเสื้อแดงเป็นพวกด้อยคุณภาพที่ต้องกำจัดเลยครับ
เพราะความอยากได้อำนาจ ถึงกับกันคนที่ไม่เห็นด้วยออกไปอย่างนี้ มันรังแต่จะสร้างความแตกแยกไม่มีที่สิ้นสุด แล้วพวกท่านจะสังเวยสุขอยู่กับความแตกแยกได้อย่างนั้นหรือครับ กลับตัวกลับใจมาสร้างสรรค์ผลงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและประเทศชาติดีกว่า เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศยอมรับในพวกท่าน ดีกว่าการกระทำที่แล้วๆมา
เพระคนเสื้อแดงก็เป็นคนไทยเหมือนๆกับพวกท่าน มีความรักในสถาบันไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าพวกท่าน มีความรักชาติไม่น้อยไปกว่าพวกท่าน เพียงแต่มีความรักในประชาธิปไตยมากกว่าพวกท่านแค่นั้นเอง
ใครจะคิดว่า กระทู้นี้เป็นการอวยพวกเดียวกันก็คิดได้ครับ แต่มีหลายสิ่งที่อยากบอกก็คือ
คนเสื้อแดงมีขึ้นมา ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน
คนเสื้อแดงรวมตัวกัน ไม่ใช่เพื่อคนๆเดียว
คนเสื้อแดงยอมตาย ไม่ใช่เพื่อหวังเงินเยียวยา
แต่ที่คนเสื้อแดงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ จึงเป็นเพียงต้องการเหมือนๆกับประชาชนทั้งหลายในโลก นั่นคือความเป็นประชาธิปไตย และต้องเป็นประชาธิปไตยแบบสากลด้วยนะครับ
ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบไทยไทย
ไม่ใช่ประชาธิปไตยในคราบเผด็จการ
และต้องไม่ใช่ประชาธิปไตยที่อำนาจทุกอย่างขึ้นอยู่กับองค์กรอิสระทั้งหลายอย่างทุกวันนี้ อำนาจที่พร้อมจะย่ำยีอำนาจของประชาชนอย่างไม่เกรงใจด้วยคนเพียงไม่กี่คน
หลายคนอาจเห็นชอบด้วย แต่ต้องไม่ใช่คนเสื้อแดง ที่มีจุดยืนแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นเสื้อแดงที่จะแดงไปทุกแห่งหน
เป็นเสื้อแดงที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสีเสื้อ
เป็นเสื้อแดงที่ไม่จะเป็นต้องใส่หน้ากาก
เพราะเราเป็นเสื้อแดงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ไม่ต้องอายใครไงครับ
ดังนั้นสำหรับคนไม่มีอุดมการณ์จะไม่มีวันรู้ก็คือ
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยอมสละเวลา ยอมลำบาก เพื่อให้ได้ถึงฝั่งฝัน
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยอมสละทุนทรัพย์ส่วนตัว เพื่อนำข้อมูลที่ถูกต้องไปขยาย
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม รับบริจาคเพื่อแบ่งปันความสุขให้กับคนทุกข์ยาก
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยอมเสี่ยงตายตั้งเต๊นท์เพื่อช่วยเหลือพยาบาลผู้ชุมนุม ตอนถูกไล่ยิง
และคนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยังพร้อมยอมตายเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมพึ่งจะมีโอกาสได้รับรู้ แม้จะเป็นเสื้อแดงมาหลายปีก็ตาม ซึ่งเมื่อเห็นซึ้งถึงการต่อสู้ของพวกเขาเหล่านั้น การต่อสู้ของผมทางอินเตอร์เน็ต จึงเป็นเพียงการต่อสู้ที่ดูด้อยค่าไปถนัดเลยนะครับ
เพราะการกระทำของพวกท่าน เป็นการกระทำของวีรชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนดังวีรชนของประเทศที่มีอารยะทั้งหลายกระทำมาแล้วทั้งสิ้น
เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับเผด็จการ
เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับอำนาจมืด
เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนมือเปล่ากับความอำมหิตของเผด็จการ
และยังเป็นการต่อสู้ระหว่างความหวังใหม่กับความเชื่อเก่าอีกด้วย
ดังนั้นผมจึงอยากให้กำลังใจกับคนเสื้อแดงทุกๆท่าน เมื่อวานพวกเขายังไม่เห็น วันนี้พวกเขายังไม่เห็น และพรุ่งนี้ก็อย่าหวังว่าพวกเขาจะมองเห็น แต่เชื่อแน่ว่า อนาคตทุกคนต้องเห็นพ้องต้องกันอย่างแน่นอนครับว่า พวกท่านสู้เพื่อพวกเราทั้งหมดจริงๆ เพราะธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอมาไงล่ะครับ
----------การต่อสู้ของคนเสื้อแดง----------
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพื่อเงิน
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพราะถูกครอบงำ
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพราะหวังนโยบายประชานิยม
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงเป็นแค่สู้เพื่อตัวเองก็ตาม
แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นคือ การต่อสู้ของคนเสื้อแดงสู้เพื่อความเท่าเทียม สู้เพื่อความเสมอภาคและนั่นคือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ดังนั้นคนเสื้อแดงจึงไม่เข็ดหลาบ แม้จะถูกสลายการชุมนุมในปี 52
ดังนั้นคนเสื้อแดงยิ่งทวีคูณขึ้นมากมาย หลังจากถูกเข่นฆ่าในปี 53
เพราะนี่เป็นอุดมการณ์ที่ไม่ได้หวังเงินเยียวยา แต่สิ่งที่หวัง จึงเป็นเพียงหวังให้ประเทศไทยมีระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยไม่ถูกครอบงำด้วยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คณะใดคณะหนึ่ง
สิ่งที่คนเสื้อแดงมุ่งหวัง เพียงแค่อยากได้รัฐบาลมาจากความต้องการของคนส่วนใหญ่
สิ่งที่คนเสื้อแดงคาดหวัง อยากกำหนดทิศทางของประเทศด้วยตัวของประชาชนเอง
และผมก็เชื่อด้วยว่า คนเสื้อแดงก็ไม่ได้สมหวังกับการบริหารของรัฐบาลไปเสียทั้งหมด
และผมก็เชื่อด้วยว่า คนเสื้อแดงก็ไม่ได้ดังหวังกับรัฐมนตรีชุดนี้ในหลายคน
เพียงแต่เมื่อเป็นรัฐบาลที่มาจากความต้องการของคนส่วนใหญ่ จำต้องปล่อยให้รัฐบาลบริหารไปตามครรลองของประชาธิปไตย เมื่อหมดวาระแล้วค่อยปล่อยให้ประชาชนตัดสินกันใหม่ ประชาธิปไตยจึงจะสามารถพัฒนาต่อไปได้ ไม่ใช่ล้มลุกคลุกคลานไม่เจริญเติบโตสักที เพราะมักถูกตัดตอนด้วยการรัฐประหารเสมอมา
การตรวจสอบก็จำเป็นต้องมี เรื่องทุจริตก็จำเป็นต้องตรวจสอบ แต่ควรปล่อยเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องดูแล ควรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของมัน
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า มันมีการทุจริตมหาศาล
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า ระบอบทักษิณมันเลวร้าย
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า ประเทศชาติจะล้มละลาย
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า พวกนั้นมันจะขายชาติ
และไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า พวกนั้นจะมาล้มสถาบัน
เพราะการขับไล่รัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่นั้น มันไม่เหมือนกับการร่วมแรงร่วมใจกันขับไล่อำนาจของเผด็จการนะครับ ดังนั้นต่อให้ขับไล่รัฐบาลสำเร็จ ทำให้รัฐบาลต้องยุบสภา แต่เลือกตั้งใหม่ รัฐบาลชุดนี้ก็คงกลับเข้ามาใหม่ แล้วจะทำอย่างไรต่อไป หรือว่าจะขับไล่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ กลายเป็นการขัดขวางการทำงานของรัฐบาลไปเสียฉิบ แล้วก็โยนความผิดให้กับรัฐบาลที่ไม่สามารถนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
หรือจะให้กองทัพเข้ามามีอำนาจแทนอำนาจประชาชน อย่างน้อยก็เห็นแล้วว่า คนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยก็ไม่มีทางยอมให้เป็นอย่างนั้น แล้วความวุ่นวายก็จะไม่มีทางหมดสิ้น เราต้องการอย่างนั้นหรือครับ
หลายๆท่านคิดถึงแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากตระกูลชินวัตร โดยละเลยที่จะคิดต่อไปว่า การทำรัฐประหารต่างหากครับที่สร้างความหายนะให้กับประเทศมากกว่า และยังเป็นการตัดตอนการพัฒนาประชาธิปไตยไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน มันคุ้มหรือไม่ลองคิดดู
ถ้าปล่อยไปตามครรลองของประชาธิปไตยเฉกเช่นเดียวกับการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
แม้ว่าจะมีข้อครหามากมายเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด
แม้ว่าจะทำให้ประเทศอับอายไปทั่วโลก กรณีเป็นเจ้าภาพฟุตซอลโลก
แม้ว่าจะทำให้กรุงเทพน้ำท่วมมากมาย เพราะอุโมงค์ยักษ์ทำงานไม่ได้สมราคาคุย
แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องต่อสัญญาล่วงหน้า 17 ปีของบีทีเอส ก็ปล่อยให้ดีเอสไอเขาไปฟ้องกันเอง
แม้ว่าจะไม่มีผลงานมาอวดโชว์ได้ การหาเสียงเลยต้องใช้วาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองมาเป็นนโยบายในการหาเสียง
แต่เมื่อคนกรุงเทพยังอยากให้ผู้ว่าฯคนเดิมมาบริหารต่ออีก 4 ปี ด้วยคะแนนเสียงล้านสอง ดังนั้นล้านเสียงของคนเสื้อแดงก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯคนเดิมบริหารต่อไป จนกว่าจะครบอีกสี่ปี แล้วค่อยมาคัดเลือกกันใหม่
ไม่เคยคิดจะขับไล่ เพราะเผด็จการสภา กทม.
ไม่เคยคิดจะขับไล่ เพราะมีเรื่องทุจริตมากมาย
ไม่เคยคิดจะขับไล่ เพราะได้คะแนนอย่างไม่ชอบธรรม
เพราะคนรักประชาธิปไตย ย่อมรู้ดีว่า เผด็จการรัฐสภานั่นคือความต้องการของคนส่วนใหญ่
เพราะคนรักประชาธิปไตย ย่อมรู้ดีว่า การทุจริตปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม
เพราะคนรักประชาธิปไตย ย่อมรู้ดีว่า เรื่องการใส่ร้ายป้ายสีอยู่ในมือของ กกต.แล้ว
สุดท้ายจะถูกดองเอาไว้ตามเคยหรือท้ายสุดนายทะเบียนอาจยุติเรื่องไม่สืบสวนต่อ แต่เมื่อเป็นไปตามกติกา คงทำได้แค่ทวงถาม แล้วปล่อยให้ผู้ว่าฯบริหารจนหมดวาระ กทม.จะได้เดินหน้าต่อ ความวุ่นวายเพราะไม่เคารพกติกาก็ไม่เกิด นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตยไงครับ
หรือแม้กระทั่งผลโพลที่มักจะผิดพลาดแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อมาสำรวจในกรุงเทพ ที่มีผู้ว่าฯและ สก.สข.ของอีกพรรคเป็นฝ่ายคุมเกมอยู่ก็ตาม แต่เมื่อไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดได้ คนเสื้อแดงก็ไม่เคยคิดจะประท้วงหรือขับไล่ด้วยวิธีการใส่ความเอาไว้ก่อน แล้วหาหลักฐานกันทีหลังหรอกนะครับ นี่จึงเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นประชาธิปไตยที่คนเสื้อแดงฝันถึง มีกติกาแล้วต้องเคารพ ประเทศจึงจะเดินหน้าได้ครับ
สิ่งที่จะบอกก็คือ ขอเพียงแต่พวกท่านมาตามกติกา ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ คนเสื้อแดงก็พร้อมจะยอมรับการบริหารจากพวกท่าน และที่คนเสื้อแดงจะทำได้ก็คงแค่คอยตรวจสอบการทำงานของพวกท่านอย่างใกล้ชิดแค่นั้นเอง ไม่ใช่ไปลากเอาระบอบอะไรก็ไม่รู้มาโยง แล้วบอกว่าจะล้มล้างให้หมดประเทศ ปัญญาอ่อนเกินไปแล้วล่ะครับแบบนั้น
ดังนั้นพวกท่านอย่าคิดผลักไสคนเสื้อแดงเป็นพวกจ้องล้มสถาบันเลยครับ
พวกท่านอย่าคิดผลักไสคนเสื้อแดงเป็นพวกคนไทยหัวใจต่างชาติเลยครับ
พวกท่านอย่าคิดผลักไสคนเสื้อแดงเป็นพวกด้อยคุณภาพที่ต้องกำจัดเลยครับ
เพราะความอยากได้อำนาจ ถึงกับกันคนที่ไม่เห็นด้วยออกไปอย่างนี้ มันรังแต่จะสร้างความแตกแยกไม่มีที่สิ้นสุด แล้วพวกท่านจะสังเวยสุขอยู่กับความแตกแยกได้อย่างนั้นหรือครับ กลับตัวกลับใจมาสร้างสรรค์ผลงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและประเทศชาติดีกว่า เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศยอมรับในพวกท่าน ดีกว่าการกระทำที่แล้วๆมา
เพระคนเสื้อแดงก็เป็นคนไทยเหมือนๆกับพวกท่าน มีความรักในสถาบันไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าพวกท่าน มีความรักชาติไม่น้อยไปกว่าพวกท่าน เพียงแต่มีความรักในประชาธิปไตยมากกว่าพวกท่านแค่นั้นเอง
ใครจะคิดว่า กระทู้นี้เป็นการอวยพวกเดียวกันก็คิดได้ครับ แต่มีหลายสิ่งที่อยากบอกก็คือ
คนเสื้อแดงมีขึ้นมา ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน
คนเสื้อแดงรวมตัวกัน ไม่ใช่เพื่อคนๆเดียว
คนเสื้อแดงยอมตาย ไม่ใช่เพื่อหวังเงินเยียวยา
แต่ที่คนเสื้อแดงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ จึงเป็นเพียงต้องการเหมือนๆกับประชาชนทั้งหลายในโลก นั่นคือความเป็นประชาธิปไตย และต้องเป็นประชาธิปไตยแบบสากลด้วยนะครับ
ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบไทยไทย
ไม่ใช่ประชาธิปไตยในคราบเผด็จการ
และต้องไม่ใช่ประชาธิปไตยที่อำนาจทุกอย่างขึ้นอยู่กับองค์กรอิสระทั้งหลายอย่างทุกวันนี้ อำนาจที่พร้อมจะย่ำยีอำนาจของประชาชนอย่างไม่เกรงใจด้วยคนเพียงไม่กี่คน
หลายคนอาจเห็นชอบด้วย แต่ต้องไม่ใช่คนเสื้อแดง ที่มีจุดยืนแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นเสื้อแดงที่จะแดงไปทุกแห่งหน
เป็นเสื้อแดงที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสีเสื้อ
เป็นเสื้อแดงที่ไม่จะเป็นต้องใส่หน้ากาก
เพราะเราเป็นเสื้อแดงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ไม่ต้องอายใครไงครับ
ดังนั้นสำหรับคนไม่มีอุดมการณ์จะไม่มีวันรู้ก็คือ
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยอมสละเวลา ยอมลำบาก เพื่อให้ได้ถึงฝั่งฝัน
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยอมสละทุนทรัพย์ส่วนตัว เพื่อนำข้อมูลที่ถูกต้องไปขยาย
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม รับบริจาคเพื่อแบ่งปันความสุขให้กับคนทุกข์ยาก
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยอมเสี่ยงตายตั้งเต๊นท์เพื่อช่วยเหลือพยาบาลผู้ชุมนุม ตอนถูกไล่ยิง
และคนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยังพร้อมยอมตายเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมพึ่งจะมีโอกาสได้รับรู้ แม้จะเป็นเสื้อแดงมาหลายปีก็ตาม ซึ่งเมื่อเห็นซึ้งถึงการต่อสู้ของพวกเขาเหล่านั้น การต่อสู้ของผมทางอินเตอร์เน็ต จึงเป็นเพียงการต่อสู้ที่ดูด้อยค่าไปถนัดเลยนะครับ
เพราะการกระทำของพวกท่าน เป็นการกระทำของวีรชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนดังวีรชนของประเทศที่มีอารยะทั้งหลายกระทำมาแล้วทั้งสิ้น
เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับเผด็จการ
เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับอำนาจมืด
เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนมือเปล่ากับความอำมหิตของเผด็จการ
และยังเป็นการต่อสู้ระหว่างความหวังใหม่กับความเชื่อเก่าอีกด้วย
ดังนั้นผมจึงอยากให้กำลังใจกับคนเสื้อแดงทุกๆท่าน เมื่อวานพวกเขายังไม่เห็น วันนี้พวกเขายังไม่เห็น และพรุ่งนี้ก็อย่าหวังว่าพวกเขาจะมองเห็น แต่เชื่อแน่ว่า อนาคตทุกคนต้องเห็นพ้องต้องกันอย่างแน่นอนครับว่า พวกท่านสู้เพื่อพวกเราทั้งหมดจริงๆ เพราะธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอมาไงล่ะครับ