น้าสาวของผม ต้องการขายที่ดินให้แก่ ผู้ซื้อรายหนึ่ง. เป็นจำนวนเงิน 2,500,000 บาท. โดยตกลงทำสัญญาว่าจะซื้อ-ขาย. กันในวันที่ 7 กรกฎาคม. 2556. พร้อมกันนั้นผู้ซื้อได้วางเงินมัดจำเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท. โดยระบุในสัญญาว่า. หากผู้ซื้อทำผิดสัญญา. โดยไม่ชำระเงินส่วนที่ เหลือ(2,300,000 บาท)ในวันและเวลาดังกล่าว. ผู้ขาย มีสิทธิยึดเงินที่ได้รับไว้แล้ว. และเช่นกันหากว่า ผู้ขาย ไม่โอนกรรมสิทธิที่ดินให้แก่ผู้ซื้อ ในวันและเวลาดังกล่าว. ผู้ซื้อมีสิทธิ ปรับผู้ขาย เป็นเงิน 1,000,000 บาท.
ซึ่งการทำสัญญาดังกล่าวน้าสาวผมกับผู้ซื้อ กระทำกันเพียงลำพัง. ผมและคุณแม่ ไม่ทราบ และ รู้รายละเอียดของสัญญาแต่อย่างใด. เพียงแค่ทราบว่าน้าสาวจะขายที่ดินในวันเวลาดังกล่าว. และ น้าสาวได้ขอให้ ผมและครอบครัวเดินทางไปพบ ในวันที่7 กรกฎาคม 2556. ด้วยเท่านั้น. แต่เมื่อผม ดูวันที่จากปฏิทิน. ก็พบว่า วันและเวลาดังกล่าว. เป็นวันอาทิตย์. ไม่สามารถ ดำเนินการโอนกรรมสิทธิที่ดิน. หรือ. ทำธุรกรรมทางการเงิน ให้เสร็จลุล่วงได้. ถึงเพิ่งทราบ ว่าน้าสาวได้ทำสัญญาฉบับนี้. กับผู้ซื้อ ด้วยความเป็นห่วง ผมจึงขอให้น้าสาว แฟกซ์. เอกสาร และ สัญญา. ทั้งหมดมาให้. ก็พบความผิดปกติหลายอย่างดังนี้
- ชื่อผู้ซื้อในสัญญา. กับ. สำเนา บัตรประชน.(ที่คุณน้าบอกว่าเป็นผู้ซื้อ) เป็นคนละคนกัน
- ผมลองนำชื่อ ที่ระบุไว้ใน บัตรประชาชน. ไปหาในกูเกิ้ล. ก็พบว่า. ชื่อดังกล่าวเคยประสบปัญหา. ทางการเงิน.กับ ธนาคารแห่งหนึ่ง เป็นเงินหลายล้านบาท และถูกเรียกไปเจรจาประนอมหนี้. เมื่อปี 2554
- คุณน้าของผม. พยายามติดต่อ. กลับไปหาผู้ซื้อ. หลายครั้ง เพื่อขอให้ เลื่อนวัน. มาดำเนินการ ในวันอื่นที่ไม่ตรงกับวันหยุดราชการ. แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้. ไม่รับสายบ้าง. โทรไม่ติดบ้าง
- คุณน้าของผมเคยบอกไว้ว่า ได้ตกลงทำการซื้อ-ขาย. โดยไม่ผ่านนายหน้า. เป็นการซื้อขายเพียง ผู้ซื้อ และ. ผู้ขายเท่านั้น. แต่เพิ่งมารู้ตอนทำสัญญาว่า มีนายหน้าที่ผู้ซื้อตั้งมาเป็นผู้ ติดต่อด้วยอีกคน ( ผมก็ยังงงๆ. อยู่ครับ. เคยรู้มาแค่ว่า ผู้ขายให้นายหน้าหาคนมาซื้อที่ดินโดยนายหน้าจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นของราคาที่ดิน. แต่นี่ผู้ซื้อให้นายหน้ามาติดต่อเพื่อซื้อที่ดินแล้วนายหน้า จะแบ่งเปอร์เซ็นยังไง เพราะผู้ขายไม่รู้เรื่องด้วย)
จากข้อมูลข้างต้นผมและครอบครัว รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก. เกรงว่าน้าจะถูกหลอกจึงอยากขอคำปรึกษา พี่ๆ ทุกท่าน. ดังนี้ครับ
1. จากวันและเวลาดังกล่าวซึ่งไม่สามารถ ทำการโอนกรรมสิทธิที่ดิน. และ. ทำธุรกรรมทางการเงิน กับธนาคารใดๆได้. ทางผู้ซื้อจะยึดเอาข้อความในสัญญาที่ระบุว่า "ผู้ขายจะต้องชดใช้เงิน 1,000,000 บาทให้แก่ผู้ซื้อ. เนื่องจากทำผิดสัญญา(เพราะไม่สามารถ โอนได้ในวันอาทิตย์. และติดต่อผู้ซื้อไม่ได้). ได้หรือไม่. อย่างไรครับ
2. จากข้อมูลเบื้องต้น. ผมและครอบครัว ควรดำเนินการอย่างไร เพื่อให้แน่ใจได้ว่า คุณน้าจะไม่ถูก มิจฉาชีพ หลอกลวงครับ
3. หากมีการซื้อขายได้เกิดขึ้นจริง ไม่ว่ากรณีใดๆ. คุณน้าของผม ควรได้รับเงินแบบไหน ( เงินสด, แคชเชียร์เช็คฯลฯ). หรือดำเนินการอย่างไร เพื่อให้แน่ใจว่า. ได้รับเงินจริงๆเพราะเคยทราบมาว่า แคชเชียร์เช็คต้องรอการเครียริ่ง จากธนาคาร อย่างน้อย 2 วัน. คือกลัวว่าโอนที่ไปแล้ว เช็คจะเด้งครับ
คำถามที่สงสัยมีเพียงเท่านี้ครับ. ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำชี้แนะของพี่ๆ ทุกท่านครับ. ตอนนี้ คุณแม่ และ คุณน้า ร้อนใจมาก. เพราะคุณน้ามีที่ดินที่ได้รับเป็นมรดกเพียงเท่านี้. อายุก็มากแล้ว. ไม่มีลูก. สามีก็เสียชีวิตไปแล้ว. อยู่เพียงตัวคนเดียว. เกรงว่าหากเกิดอะไรขึ้น จะคิดมาก.พาลจะป่วย. หากมีคำชี้แนะอื่นๆเพิ่มเติม จากที่ผมเรียนถามก็จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ
ขอคำปรึกษาเรื่อง สัญญาจะซื้อ-ขายที่ดินครับ
ซึ่งการทำสัญญาดังกล่าวน้าสาวผมกับผู้ซื้อ กระทำกันเพียงลำพัง. ผมและคุณแม่ ไม่ทราบ และ รู้รายละเอียดของสัญญาแต่อย่างใด. เพียงแค่ทราบว่าน้าสาวจะขายที่ดินในวันเวลาดังกล่าว. และ น้าสาวได้ขอให้ ผมและครอบครัวเดินทางไปพบ ในวันที่7 กรกฎาคม 2556. ด้วยเท่านั้น. แต่เมื่อผม ดูวันที่จากปฏิทิน. ก็พบว่า วันและเวลาดังกล่าว. เป็นวันอาทิตย์. ไม่สามารถ ดำเนินการโอนกรรมสิทธิที่ดิน. หรือ. ทำธุรกรรมทางการเงิน ให้เสร็จลุล่วงได้. ถึงเพิ่งทราบ ว่าน้าสาวได้ทำสัญญาฉบับนี้. กับผู้ซื้อ ด้วยความเป็นห่วง ผมจึงขอให้น้าสาว แฟกซ์. เอกสาร และ สัญญา. ทั้งหมดมาให้. ก็พบความผิดปกติหลายอย่างดังนี้
- ชื่อผู้ซื้อในสัญญา. กับ. สำเนา บัตรประชน.(ที่คุณน้าบอกว่าเป็นผู้ซื้อ) เป็นคนละคนกัน
- ผมลองนำชื่อ ที่ระบุไว้ใน บัตรประชาชน. ไปหาในกูเกิ้ล. ก็พบว่า. ชื่อดังกล่าวเคยประสบปัญหา. ทางการเงิน.กับ ธนาคารแห่งหนึ่ง เป็นเงินหลายล้านบาท และถูกเรียกไปเจรจาประนอมหนี้. เมื่อปี 2554
- คุณน้าของผม. พยายามติดต่อ. กลับไปหาผู้ซื้อ. หลายครั้ง เพื่อขอให้ เลื่อนวัน. มาดำเนินการ ในวันอื่นที่ไม่ตรงกับวันหยุดราชการ. แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้. ไม่รับสายบ้าง. โทรไม่ติดบ้าง
- คุณน้าของผมเคยบอกไว้ว่า ได้ตกลงทำการซื้อ-ขาย. โดยไม่ผ่านนายหน้า. เป็นการซื้อขายเพียง ผู้ซื้อ และ. ผู้ขายเท่านั้น. แต่เพิ่งมารู้ตอนทำสัญญาว่า มีนายหน้าที่ผู้ซื้อตั้งมาเป็นผู้ ติดต่อด้วยอีกคน ( ผมก็ยังงงๆ. อยู่ครับ. เคยรู้มาแค่ว่า ผู้ขายให้นายหน้าหาคนมาซื้อที่ดินโดยนายหน้าจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นของราคาที่ดิน. แต่นี่ผู้ซื้อให้นายหน้ามาติดต่อเพื่อซื้อที่ดินแล้วนายหน้า จะแบ่งเปอร์เซ็นยังไง เพราะผู้ขายไม่รู้เรื่องด้วย)
จากข้อมูลข้างต้นผมและครอบครัว รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก. เกรงว่าน้าจะถูกหลอกจึงอยากขอคำปรึกษา พี่ๆ ทุกท่าน. ดังนี้ครับ
1. จากวันและเวลาดังกล่าวซึ่งไม่สามารถ ทำการโอนกรรมสิทธิที่ดิน. และ. ทำธุรกรรมทางการเงิน กับธนาคารใดๆได้. ทางผู้ซื้อจะยึดเอาข้อความในสัญญาที่ระบุว่า "ผู้ขายจะต้องชดใช้เงิน 1,000,000 บาทให้แก่ผู้ซื้อ. เนื่องจากทำผิดสัญญา(เพราะไม่สามารถ โอนได้ในวันอาทิตย์. และติดต่อผู้ซื้อไม่ได้). ได้หรือไม่. อย่างไรครับ
2. จากข้อมูลเบื้องต้น. ผมและครอบครัว ควรดำเนินการอย่างไร เพื่อให้แน่ใจได้ว่า คุณน้าจะไม่ถูก มิจฉาชีพ หลอกลวงครับ
3. หากมีการซื้อขายได้เกิดขึ้นจริง ไม่ว่ากรณีใดๆ. คุณน้าของผม ควรได้รับเงินแบบไหน ( เงินสด, แคชเชียร์เช็คฯลฯ). หรือดำเนินการอย่างไร เพื่อให้แน่ใจว่า. ได้รับเงินจริงๆเพราะเคยทราบมาว่า แคชเชียร์เช็คต้องรอการเครียริ่ง จากธนาคาร อย่างน้อย 2 วัน. คือกลัวว่าโอนที่ไปแล้ว เช็คจะเด้งครับ
คำถามที่สงสัยมีเพียงเท่านี้ครับ. ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำชี้แนะของพี่ๆ ทุกท่านครับ. ตอนนี้ คุณแม่ และ คุณน้า ร้อนใจมาก. เพราะคุณน้ามีที่ดินที่ได้รับเป็นมรดกเพียงเท่านี้. อายุก็มากแล้ว. ไม่มีลูก. สามีก็เสียชีวิตไปแล้ว. อยู่เพียงตัวคนเดียว. เกรงว่าหากเกิดอะไรขึ้น จะคิดมาก.พาลจะป่วย. หากมีคำชี้แนะอื่นๆเพิ่มเติม จากที่ผมเรียนถามก็จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ