ตอนนี้มีแค่ 10 หน้าเลยลดภาพที่ลงนะครับ
เปิดตอน คนสองคนที่มายืนอยู่นอกบ้านรอเวลาที่ไม่คาดคิดว่าจะนานขนาดนี้ท่ามกลางความหนาว(มีแถมโฆษณารวมเล่ม 22 ที่แถม OVA คาน่อน) และหนึ่งในผู้ที่ยืนรอนั้นก็คือ ชิโอริ
ชิโอริมาคิดเลยว่าทำไมเธอต้องมาทำอะไรที่นี่ด้วย ยินอยู่ท่ามกลางความหนาวแบบนี้ เหตุผลนั้นเพราะมิเนอร์ว่าที่ช่วงกลางวันพยายามบอกชิโอริให้ไปที่ๆเธอบอกให้ไป แต่ชิโอริบอกอยากจะกลับบ้านแล้วทำงานของจากห้องสมุด แต่มิเนอร์ว่าก็ยังยืนยันจะให้ชิโอริไปบอกจะดีกับชิโอริเอง บอกเลยว่าเคย์มะอยู่ที่นั้นชิโอริต้องไปเจอให้ได้ พอชิโอริได้ยืนว่าเป็นเคย์มะก็ถึงกับชะงักงานห้องสมุดไปชั่วครู่แล้วก็มาคิดว่าตัวเธอที่ไม่อาจเฉยกับชื่อนี้ได้ก็คิดเลยว่า มันคือคำสาป และหลังจากมาเล่นกับความรู้สึกของเธอ อีกครั้ง และ อีกครั้ง เคย์มะก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเป็นอาทิตย์เลย ถึงมิเนอร์ว่าจะบอกให้เธอมาเจอเองต้องดีแน่ แต่ตอนนี้เธอกำลังหงุดหงิดจนรู้สึกขยะแขยงที่ได้ยินชื่อเคย์มะ คิดเลยว่าถ้าเจอเข้าไปอีกครั้งเธอจะเอาใบหย่าโยนใส่หน้าไปเลย
แต่ขณะที่ชิโอริรออยู่หน้าบ้านยูอิก็มีอีกคนที่รออยู่เหมือนเธอ แต่ชิโอริไม่รู้จักอีกฝ่ายเลยว่าเป็นใครกันแน่ ซึ่งนั้นก็คือ สึคิโยะ
สึคิโยะที่คิดอยู่ว่าวันนี้ท้องฟ้ายามค่ำอุตส่าห์แจ่มใสแท้ๆ แต่เพราะถูกลูน่า(วัลแคน)พูดกับเธอว่าให้เธอไปเจอเคย์มะ ตอนที่วัลแคนบอกนั้นสึคิโยะถึงกับตกใจถามเลยว่าทำไม วัลแคนบอกสึคิโยะเลยว่าเธอขอเตือนไว้พร้อมทั้งบอกที่ว่าพวกเธอตกลงกันที่จะดูแลร่างของเคย์มะ แต่วัลแคนก็วางใจสองคนนั้น(อพอลโล่กับมาร์ส)ว่าจะไม่ทำเสียเรื่องไม่ได้ ดังนั้นวัลแคนเลยบอกให้สึคิโยะไปปกป้องเคย์มะซะ สึคิโยะพูดอย่างอายๆเลยว่าทำไมเธอต้องไปด้วย วัลแคนก็บอกเลยสึคิโยะต้องทำให้เคย์มะเป็นของสึคิโยะคนเดียว จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด สึคิโยะก็พูดเลยว่าแพ้อะไรกัน
ด้วยเหตุนี้สึคิโยะก็เลยยอมมาแม้จะสงสัยว่าถ้ามารอที่นี่แล้วเคย์มะจะมาเหรอ สึคิโยะเองก็คิดอยากจะถามอะไรเคย์มะอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้สึคิโยะก็สงสัยอีกอย่างคือ ผู้หญิงที่มายืนเหมือนเธอนั้นคือยังไงกันแน่ ทั้งชิโอริและสึคิโยะต่างไม่รู้จักกันเลยสักนิดจึงได้แต่สงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร สาเหตุนั้นเพราะในบรรดาเหล่าเทพธิดา มีแค่ ไดอาน่า อพอลโล่ และมาร์ส ที่คุยอธิบายกับเจ้าของร่าง แต่ วัลแคน มิเนอร์ว่า และเมอร์คิวรี่ ที่ไม่คิดจะอธิบายให้เจ้าของร่างรู้เลย
ตอนนี้ต่างคนเลยต่างแอบคิดถึงอีกฝ่าย ชิโอริก็คิดว่าสึคิโยะดูไม่ใช่คนปกติถึงถือตุ๊กตาตัวใหญ่และสะพานเป้ใหญ่ด้วย ในขณะที่สึคิโยะก็คิดว่าชิโอริมาอ่านหนังสือทำไมที่แบบนี้ไม่อ่านที่บ้าน แต่ทั้งสองคนก็คิดอยู่ว่าคงมีเหตุผลและคิดอยู่ว่าเหตุผลของทั้งคู่จะเหมือนกันรึเปล่า แต่พอคิดแล้วมองหน้ากันเหมือนจะเริ่มคุยกันทั้งคู่กลับหันหน้าหนีกันคิดว่าไม่มีทางถามเหตุผลที่สงสัยว่าจะเหมือนกันได้แน่
รอเฉยๆสึคิโยะก็เลยหาอะไรฆ่าเวลาเลยเอากล้องดูดาวออกมาประกอบเพื่อจะดูดวงจันทร์แถมยังเป็นกล้องใหม่ด้วย ชิโอริเห็นก็คิดเลยว่านั้นกล้องดูดาวนิ ชิโอริเลยเริ่มเอาหนังสือเกี่ยวกับดวงดาวมาบังหน้าและหันมาทางสึคิโยะ สึคิโยะเห็นหนังสือก็คิดเลยว่าหนังสือที่ชิโอริถือนั้นเธอก็มีอยู่เหมือนกัน คิดว่าชิโอริที่รู้จักหนังสือเล่มนี้ด้วยก็ไม่เลวเหมือนกันนิ ชิโอริเองก็พยายามจะทำให้สึคิโยะคุยกับเธอเลยใช้หนังสือเกี่ยวกับดาวนี้ ส่วนสึคิโยะก็คิดอยู่ว่าเธอจะเอายังไงดี แต่ที่สึคิโยะคิดก็คือมืดๆแบบนี้คงอ่านหนังสือยากก็เลยจะเอาไฟฉายให้ยืม สึคิโยะเลยเปิดไฟฉายส่องไปทางชิโอริเหมือนพยายามบอกให้ชิโอริรู้แต่ชิโอริกลับไม่ได้สังเกตไฟฉายเลย(เพราะเอาหนังสือปิดเต็มหน้า) กลายเป็นต่างคนต่างอยากให้อีกฝ่ายสังเกตเพื่อให้รู้เจตนาของตัวเอง
ระหว่างนั้นเองที่มีเสียงดังจากภายในบ้านของยูอิ และจู่ๆก็มีบางสิ่งพุ่งออกมาจากหน้าบ้าน นั้นคือเคย์มะทำให้ทั้งสองคนรีบเข้าไปหาและเรียกชื่อเคย์มะออกมาพร้อมกันทั้งคู่ วินาทีนั้นทั้งชิโอริและสึคิโยะก็เหมือนจะต่างรู้กันแล้วว่าจุดประสงค์นั้นเหมือนกันเลยต่างมองกัน ทั้งคู่จึงเริ่มจะทักทายกันเป็นใครแรกกันได้
จบตอน
[Spoil] The World God Only Knows - 232
เปิดตอน คนสองคนที่มายืนอยู่นอกบ้านรอเวลาที่ไม่คาดคิดว่าจะนานขนาดนี้ท่ามกลางความหนาว(มีแถมโฆษณารวมเล่ม 22 ที่แถม OVA คาน่อน) และหนึ่งในผู้ที่ยืนรอนั้นก็คือ ชิโอริ
ชิโอริมาคิดเลยว่าทำไมเธอต้องมาทำอะไรที่นี่ด้วย ยินอยู่ท่ามกลางความหนาวแบบนี้ เหตุผลนั้นเพราะมิเนอร์ว่าที่ช่วงกลางวันพยายามบอกชิโอริให้ไปที่ๆเธอบอกให้ไป แต่ชิโอริบอกอยากจะกลับบ้านแล้วทำงานของจากห้องสมุด แต่มิเนอร์ว่าก็ยังยืนยันจะให้ชิโอริไปบอกจะดีกับชิโอริเอง บอกเลยว่าเคย์มะอยู่ที่นั้นชิโอริต้องไปเจอให้ได้ พอชิโอริได้ยืนว่าเป็นเคย์มะก็ถึงกับชะงักงานห้องสมุดไปชั่วครู่แล้วก็มาคิดว่าตัวเธอที่ไม่อาจเฉยกับชื่อนี้ได้ก็คิดเลยว่า มันคือคำสาป และหลังจากมาเล่นกับความรู้สึกของเธอ อีกครั้ง และ อีกครั้ง เคย์มะก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเป็นอาทิตย์เลย ถึงมิเนอร์ว่าจะบอกให้เธอมาเจอเองต้องดีแน่ แต่ตอนนี้เธอกำลังหงุดหงิดจนรู้สึกขยะแขยงที่ได้ยินชื่อเคย์มะ คิดเลยว่าถ้าเจอเข้าไปอีกครั้งเธอจะเอาใบหย่าโยนใส่หน้าไปเลย
แต่ขณะที่ชิโอริรออยู่หน้าบ้านยูอิก็มีอีกคนที่รออยู่เหมือนเธอ แต่ชิโอริไม่รู้จักอีกฝ่ายเลยว่าเป็นใครกันแน่ ซึ่งนั้นก็คือ สึคิโยะ
สึคิโยะที่คิดอยู่ว่าวันนี้ท้องฟ้ายามค่ำอุตส่าห์แจ่มใสแท้ๆ แต่เพราะถูกลูน่า(วัลแคน)พูดกับเธอว่าให้เธอไปเจอเคย์มะ ตอนที่วัลแคนบอกนั้นสึคิโยะถึงกับตกใจถามเลยว่าทำไม วัลแคนบอกสึคิโยะเลยว่าเธอขอเตือนไว้พร้อมทั้งบอกที่ว่าพวกเธอตกลงกันที่จะดูแลร่างของเคย์มะ แต่วัลแคนก็วางใจสองคนนั้น(อพอลโล่กับมาร์ส)ว่าจะไม่ทำเสียเรื่องไม่ได้ ดังนั้นวัลแคนเลยบอกให้สึคิโยะไปปกป้องเคย์มะซะ สึคิโยะพูดอย่างอายๆเลยว่าทำไมเธอต้องไปด้วย วัลแคนก็บอกเลยสึคิโยะต้องทำให้เคย์มะเป็นของสึคิโยะคนเดียว จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด สึคิโยะก็พูดเลยว่าแพ้อะไรกัน
ด้วยเหตุนี้สึคิโยะก็เลยยอมมาแม้จะสงสัยว่าถ้ามารอที่นี่แล้วเคย์มะจะมาเหรอ สึคิโยะเองก็คิดอยากจะถามอะไรเคย์มะอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้สึคิโยะก็สงสัยอีกอย่างคือ ผู้หญิงที่มายืนเหมือนเธอนั้นคือยังไงกันแน่ ทั้งชิโอริและสึคิโยะต่างไม่รู้จักกันเลยสักนิดจึงได้แต่สงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร สาเหตุนั้นเพราะในบรรดาเหล่าเทพธิดา มีแค่ ไดอาน่า อพอลโล่ และมาร์ส ที่คุยอธิบายกับเจ้าของร่าง แต่ วัลแคน มิเนอร์ว่า และเมอร์คิวรี่ ที่ไม่คิดจะอธิบายให้เจ้าของร่างรู้เลย
ตอนนี้ต่างคนเลยต่างแอบคิดถึงอีกฝ่าย ชิโอริก็คิดว่าสึคิโยะดูไม่ใช่คนปกติถึงถือตุ๊กตาตัวใหญ่และสะพานเป้ใหญ่ด้วย ในขณะที่สึคิโยะก็คิดว่าชิโอริมาอ่านหนังสือทำไมที่แบบนี้ไม่อ่านที่บ้าน แต่ทั้งสองคนก็คิดอยู่ว่าคงมีเหตุผลและคิดอยู่ว่าเหตุผลของทั้งคู่จะเหมือนกันรึเปล่า แต่พอคิดแล้วมองหน้ากันเหมือนจะเริ่มคุยกันทั้งคู่กลับหันหน้าหนีกันคิดว่าไม่มีทางถามเหตุผลที่สงสัยว่าจะเหมือนกันได้แน่
รอเฉยๆสึคิโยะก็เลยหาอะไรฆ่าเวลาเลยเอากล้องดูดาวออกมาประกอบเพื่อจะดูดวงจันทร์แถมยังเป็นกล้องใหม่ด้วย ชิโอริเห็นก็คิดเลยว่านั้นกล้องดูดาวนิ ชิโอริเลยเริ่มเอาหนังสือเกี่ยวกับดวงดาวมาบังหน้าและหันมาทางสึคิโยะ สึคิโยะเห็นหนังสือก็คิดเลยว่าหนังสือที่ชิโอริถือนั้นเธอก็มีอยู่เหมือนกัน คิดว่าชิโอริที่รู้จักหนังสือเล่มนี้ด้วยก็ไม่เลวเหมือนกันนิ ชิโอริเองก็พยายามจะทำให้สึคิโยะคุยกับเธอเลยใช้หนังสือเกี่ยวกับดาวนี้ ส่วนสึคิโยะก็คิดอยู่ว่าเธอจะเอายังไงดี แต่ที่สึคิโยะคิดก็คือมืดๆแบบนี้คงอ่านหนังสือยากก็เลยจะเอาไฟฉายให้ยืม สึคิโยะเลยเปิดไฟฉายส่องไปทางชิโอริเหมือนพยายามบอกให้ชิโอริรู้แต่ชิโอริกลับไม่ได้สังเกตไฟฉายเลย(เพราะเอาหนังสือปิดเต็มหน้า) กลายเป็นต่างคนต่างอยากให้อีกฝ่ายสังเกตเพื่อให้รู้เจตนาของตัวเอง
ระหว่างนั้นเองที่มีเสียงดังจากภายในบ้านของยูอิ และจู่ๆก็มีบางสิ่งพุ่งออกมาจากหน้าบ้าน นั้นคือเคย์มะทำให้ทั้งสองคนรีบเข้าไปหาและเรียกชื่อเคย์มะออกมาพร้อมกันทั้งคู่ วินาทีนั้นทั้งชิโอริและสึคิโยะก็เหมือนจะต่างรู้กันแล้วว่าจุดประสงค์นั้นเหมือนกันเลยต่างมองกัน ทั้งคู่จึงเริ่มจะทักทายกันเป็นใครแรกกันได้
จบตอน