1. จีนไม่ต้องการเป็นเบอร์ 1  - เพราะการเป็นเบอร์ 1 มันยุ่งยาก หลายปีก่อนจีนเคยลองกร่างกับการเตรียมตัวเองเป็นเบอร์ 1 มาแล้ว ไม่ว่าการวิจารณ์ Dollars Standard ( ยกเลิกการแลกเปลี่ยน USD กับญี่ปุ่นผลคือโดนหน่วยลับของอเมริกาปลุกปั่นการเมืองในประเทศเรื่อง'เกาะตกปลา'จนปั่นป่วน ) เปิดตลาดซื้อขายโลหะมีค่าเอง ( ซึ่งไปไม่สวยลากกลางวันทีไรก็สู้ตลาดไอ้หรั่งไม่ได้ ) ขอเก้าอี้ที่นั่งใน IMF และอื่นๆ มันไม่ง่ายที่คุณจะเป็นเบอร์ 1 ครับ เพราะเป็นเบอร์ 1 จริงคุณต้องปะทะโดยตรงกับคนคุมระบบโลก

2. พันธบัตร US  - หากจีนเป็นเบอร์ 1 จริง Dollar Standard คงสั่นคลอนครั้งใหญ่นำไปสู่ราคาพื้นฐานอันแท้จริงของเงินดอลล่าห์ต่อทองคำที่ใครๆมองว่ามันคงเหลือมูลค่าแค่เศษกระดาษ ซึ่งไม่ดีต่อจีนในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่แน่นอน

3. สวี่เจี้ยนผิง - ปธน.สวี่เป็นสายเศรษฐศาสตร์ ซึ่งสายเศรษฐศาสตร์อิงกับแนวทางของจีนคือ Development Econ. ( ผมเคยเรียนสายนี้กับนักเศรษฐศาสตร์ชาวจีนที่เป็นที่ปรึกษาพรรคคอมมิวนิสต์มาก่อน บางคนเรียกสายนี้ว่า 'สายสังคมนิยม' บางคนเรียก 'สายเจได' ) โดยสรุปเป้าหมายของเศรษฐศาสตร์แบบจีนๆ คือ การสร้างสมดุลย์แบบหยินหยาง ขยายและหุบ ไม่ใช่พยายามโตไปเรื่อยๆแบบอเมริกา เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกใจที่ท่านสวี่จะเน้นเป็นในทางลีลาไทเก๊กมากกว่าท่านก่อน รับแล้วโต้ รับแล้วโต้ ไม่ใช่ออกไปวิพากษิ์วิจารณ์สหรัฐและพวก New World Order มากนัก การที่แกเดินนโยบายสกัดคนในประเทศไม่ให้เก็งกำไรอสังหาเป็นผลดีต่อทั้งจีนและอเมริกาทั้งคู่ ราคาอสังหาในจีนก็ไม่แพงเกินไปตามหลักสัวคมนิยม ในขณะที่เงินร้อนของคนรวยๆในจีนก็หลั่งไหลไปเก็งกำไรอสังหาที่สหรัฐแทนดั่งที่ใครๆรู้ อเมริกาก็ฟื้นพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็อยู่รอดต่อไปร้อยๆปี

มันง่ายแค่นี้เองครับ

เพราะฉะนั้นการที่จีนชะลอตัวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้