[Hataraku Maou-sama!] นึกออกแล้วว่าเรื่องนี้โครงเรื่องเหมือนกับเรื่องอะไร




ดูเรื่องนี้ไปพลาง ทำสปอยล์ภาพไปพลางมาได้ 12 ตอนแล้ว (หยุดๆ ทำๆ ซะบ่อย เพราะงั้นมีไม่ครบนะครับ) ระหว่างนั้นก็นึกมาตลอดว่าเรื่องนี้มันเหมือนเรื่องอะไรซักอย่างที่เคยดูหรือผ่านๆ ตามาก่อนในอดีต

จนกระทั่งวันนี้แวะไปดูบล็อกรีวิวหนังของคุณหมื่นทิพ แล้วเห็นรีวิวหนังจีนชุดเรื่องนี้เข้า ถึงได้นึกออกแฮะว่าเรื่องนี้มันคล้ายกับเรื่องอะไร



รีวิวจากบล็อกคุณหมื่นทิพครับ: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=10000tip&month=14-07-2005&group=6&blog=12


เรื่องนี้คือเรื่อง "九五至尊 The King of Yesterday and Tomorrow" หรือที่เมืองไทยใช้ชื่อว่า "จักรพรรดิทะลุมิติ" ครับ เป็นเรื่องของจักรพรรดิหย่งเจิ้นกับจอมยุทธ์หญิงหลี่ซื่อเหนียง สองศัตรูคู่อาฆาตที่โดนไทม์สลิปข้ามเวลาจากประเทศจีนเมื่อหลายร้อยปีก่อนมายังฮ่องกงยุคปัจจุบันขณะกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และเมื่อข้ามเวลามาแล้ว ทั้งสองก็ต้องต่อสู้และพยายามปรับตัวใช้ชีวิตกับสังคมยุคปัจจุบันให้ได้ โดยจักรพรรดิหย่งเจิ้นได้ไปเป็นพนักงานในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ส่วนหลี่ซื่อเหนียงได้เป็นรปภ.ในบริษัทเดียวกัน ระหว่างที่ทำงาน ทั้งสองคนก็ต้องใช้ความสามารถที่ต่างคนมี (หย่งเจิ้นมีสมองกับความรู้ในฐานะฮ่องเต้ ส่วนหลี่ซื่อเหนียงเป็นจอมยุทธ์ก็คงไม่ต้องพูดถึง) ในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่พบเจอในยุคปัจจุบัน

ฟังเรื่องย่อแค่นี้หลายคนคงสงสัยว่าโครงเรื่องคล้ายกันตรงไหน แต่ถ้ารู้เกร็ดประวัติศาสตร์เกี่ยวกับจักรพรรดิหย่งเจิ้นกับจอมยุทธ์หญิงหลี่ซื่อเหนียงมาบ้างคงต้องร้องอ๋อแน่ๆ เพราะในเกร็ดประวัติศาสตร์ที่เล่ากันมานั้น จักรพรรดิหย่งเจิ้นเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหันในขณะที่พระชนมายุเพิ่งจะแค่ 56 พรรษา ร่ำลือกันว่าจอมยุทธ์หญิงหลี่ซื่อเหนียงเป็นคนบุกเดี่ยวไปลอบปลงพระชนม์จักรพรรดิหย่งเจิ้นด้วยตัวเอง โดยสาเหตุการลอบสังหารครั้งนี้นั้นมาจากพ่อของหลี่ซื่อเหนียงนั้นเป็นชาวฮั่นและเขียนหนังสือวิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านราชวงศ์ชิงมาตลอด เลยถูกจักรพรรดิหย่งเจิ้นจับประหารข้อหาเขียนเอกสารอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ (แต่บางตำราก็กล่าวว่าสาเหตุการลอบสังหารจริงๆ เป็นเรื่องอื่น) หลี่ซื่อเหนียงต้องการล้างแค้นให้พ่อ จึงบุกเดี่ยวไปลอบสังหารจักรพรรดิหย่งเจิ้นด้วยตัวเอง ซึ่งฉากตรงนี้นั้นแม้รายละเอียดจะต่างกันบ้าง แต่เค้าโครงแทบจะเหมือนกับช่วงต้นเรื่องของ Hataraku Maou-sama ตอนที่จอมมารกับผู้กล้าสู้กันแล้วจอมมารเปิดประตูมิติหนีไปต่างโลก แล้วผู้กล้าโดดตามไปเลย

ตัวละครหลักของทั้งสองฝ่ายเองก็แทบจะมีอะไรคล้ายๆ กัน อย่างจอมมารที่ใครๆ ในโลกฝั่งโน้นตั้งฉายาว่าเป็นปีศาจชั่วร้าย เลือดเย็น เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา ทำได้ทุกอย่างเพื่อครองโลกไว้ในมือ แต่พอมาอยู่ในต่างโลกแล้วกลับแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวก็มีอีกด้านที่อ่อนโยน รักพวกพ้อง รักความยุติธรรมอยู่เหมือนกัน ไม่ต่างอะไรกับจักรพรรดิหย่งเจิ้นได้ชื่อว่าเป็นฮ่องเต้ที่ขึ้นครองบัลลังก์ได้ด้วยการใช้เล่ห์กระเท่ สับเปลี่ยนราชโองการแต่งตั้งรัชทายาทให้ตัวเองได้ตำแหน่ง ซ้ำยังทำสงครามชิงบัลลังก์กับน้องๆ คนอื่นฆ่าคนไปมากมายจนถึงกับมีสมญาว่า "จักรพรรดิบัลลังก์เลือด" ทั้งที่ความจริงเป็นกษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยพระปรีชาสามารถ ทำนุบำรุงบ้านเมืองอย่างดี ปราบปรามคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรงและเด็ดขาดจนขุนนางบางส่วนเกลียดกลัว สร้างคุณงามความดีไว้ให้แผ่นดินมากมาย

ขณะที่ผู้กล้าเองก็ให้อารมณ์ "จอมยุทธ์หญิงบ้าพลัง ตรงเป็นไม้บรรทัด" ที่ลุกขึ้นสู้กับจอมมารเพราะเห็นอีกฝ่ายเป็นทรราช เป็นฆาตกรฆ่าพ่อที่ต้องกำจัดให้สิ้นซาก แบบเดียวกับที่หลี่ซื่อเหนียงเห็นหย่งเจิ้นเป็นฮ่องเต้โฉดไม่มีผิด แต่พอข้ามเวลามาอยู่ในโลกปัจจุบัน ได้เห็นอีกด้านของหย่งเจิ้นก็ค่อยๆ อ่อนลงและเข้าใจฐานะของหย่งเจิ้นที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อความเรียบร้อยของบ้านเมืองมากขึ้น แบบเดียวกับที่ผู้กล้าเห็นอีกด้านของจอมมารไม่มีผิดเหมือนกัน (แต่ยังมีจิกกัดกันเป็นระยะๆ ตลอดเรื่องเหมือนเดิม)


ดูจากตรงนี้แล้วค่อนข้างเห็นได้ชัดเลยว่าโครงเรื่องช่วงต้นของสองเรื่องนี้กับลักษณะคร่าวๆ ของตัวละครหลักนั้นแทบจะใกล้เคียงกันเลย ถ้าจะมีอะไรแตกต่าง ก็คงเป็นรายละเอียดของตัวละคร พวกตัวละครย่อยๆ รวมถึงรายละเอียดการดำเนินเรื่องในช่วงหลังของทั้งสองเรื่องที่แยกกันไปคนละทางโดยสิ้นเชิงละครับ โดยจอมมารพาร์ทไทม์ก็เดินเรื่องแนวแฟนตาซีปนฮาบวกดราม่าของตัวเองไป ในขณะที่จักรพรรดิทะลุมิตินั้นข้ามเรื่องไปเล่นดราม่าปนตลกบวกสาระแบบเพียวๆ ไปเลย (เรื่องบู๊มีบ้างแต่แทบไม่ค่อยเน้นนัก)

เรียกว่าดูเอาสนุกกันไปคนละแบบก็ไม่ผิดล่ะครับ หัวเราะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่