คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
ไม่พูดเรื่องการเมืองนะ
คือ... "ไม่เกี่ยว"
มันไม่ได้มีอิมแพ็คร้ายแรงขนาดนั้น อย่างมากก็ขาดความเชื่อมั่นสักพักหนึ่ง
ปัญหาที่จริงมันซ่อนอยู่ในภาคเอกชน โดยภาครัฐเป็นส่วนเสริมที่ไม่สามารถควบคุมการเติบโตให้เป็นไปตามที่ควรได้เท่านั้น
พูดง่าย ๆ ว่าเอกชนเปลี่ยนแปลงตามแรงกระตุ้น แล้วคนที่จะคุมแรงกระตุ้นให้เอกชนไม่หลงไปผิดทางได้คือรัฐบาล
แต่รัฐบาลไม่มีความสามารถที่จะทำให้เอกชนหลงทาง อย่างมากแค่ขัดแข้งขัดขาให้เอกชนเดินได้ไม่สะดวก
หากจะบอกว่าการปฏิวัติมีผลจริง ต้องเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการปกครองไปเลย หรือไม่ก็เกิดสงครามกลางเมืองที่ร้ายแรงและยืดเยื้อ
เช่นจากประชาธิปไตยเป็นคอมมิวนิสต์แถมซ้ำด้วยการยึดทรัพย์ภาคเอกชน อันนี้แหละถึงจะเรียกได้ว่ามีผลจริง
คือ... "ไม่เกี่ยว"
มันไม่ได้มีอิมแพ็คร้ายแรงขนาดนั้น อย่างมากก็ขาดความเชื่อมั่นสักพักหนึ่ง
ปัญหาที่จริงมันซ่อนอยู่ในภาคเอกชน โดยภาครัฐเป็นส่วนเสริมที่ไม่สามารถควบคุมการเติบโตให้เป็นไปตามที่ควรได้เท่านั้น
พูดง่าย ๆ ว่าเอกชนเปลี่ยนแปลงตามแรงกระตุ้น แล้วคนที่จะคุมแรงกระตุ้นให้เอกชนไม่หลงไปผิดทางได้คือรัฐบาล
แต่รัฐบาลไม่มีความสามารถที่จะทำให้เอกชนหลงทาง อย่างมากแค่ขัดแข้งขัดขาให้เอกชนเดินได้ไม่สะดวก
หากจะบอกว่าการปฏิวัติมีผลจริง ต้องเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการปกครองไปเลย หรือไม่ก็เกิดสงครามกลางเมืองที่ร้ายแรงและยืดเยื้อ
เช่นจากประชาธิปไตยเป็นคอมมิวนิสต์แถมซ้ำด้วยการยึดทรัพย์ภาคเอกชน อันนี้แหละถึงจะเรียกได้ว่ามีผลจริง
แสดงความคิดเห็น
ปฏิวัติแต่ละครั้งของไทย ทุกครั้งที่ผ่านมาทั้งหมด ในแต่ละครั้งทำให้เกิดวิกกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่เลยรึเปล่า
ปฏิวัติ เทียบกับ วิกฤติน้ำมันยุค 70 หรือ ฟองสบู่ญี่ปุ่นแตก หรือ ต้มยำกุ้ง1997 หรือ วิกฤติ แฮมเบอเกอร์ปี 2009 อะไรมีผลกระทบกับไทยมากกว่ากัน
ตกลงการปฎิวัติแต่ละครั้ง กับการเจริญเติบโต หรือหดตัวทางเศรษฐกิจ มันมีความสัมพันธ์กันไหม อย่างไรครับ