ทิ้งCPALL!หวั่นขาดทุนหนี้ตปท.
หุ้นร่วงหนักกว่าภาระดอกเบี้ยจ่าย
วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556 เวลา 09:19:39 น.
ผู้เข้าชม : 306 คน
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CPALL ถูกขายหนัก...ตลาดกังวล จะมีผลขาดทุนจากภาระหนี้ต่างประเทศหลังซื้อหุ้น MAKRO
เป็นที่ผิดหวังต่อหุ้น CPALL อย่างมาก จากแรงขายหุ้นตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดจากที่มีข่าวพูดกันอย่างมากในตลาดว่าบริษัทอาจจะประสบปัญหาขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการกู้เงินในรูปเงินต่างประเทศ ซึ่งนักวิเคราะห์ ASP ได้พยายามเช็คข้อมูลจากบริษัทแต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจน แต่จากการประติดประต่อข้อมูลจากการเปิดเผยแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการขออนุมัติผู้ถือหุ้น MAKRO ในวันที่ 12 มิ.ย. ทำให้ทราบว่าบริษัทได้เตรียมกู้เงิน 6,000 ล้านเหรียญฯ เพื่อใช้ในการซื้อหุ้น MAKRO ที่ราคา 787 บาทต่อหุ้น โดยใช้การกู้ยืม 90% ของยอดเงินซื้อครั้งนี้
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมิได้มีการเบิกเงินกู้ยืมดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ตกลงซื้อ และเจรจากับเจ้าหนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 28.618 บาท ซึ่งบริษัทได้เปิดเผยว่ามีการทำป้องกันความเสี่ยงไว้บางส่วนเพื่อลดความผันผวนจากค่าเงิน ดังนั้น การที่เงินบาทอ่อนค่าราว 8% ในช่วงเวลากว่า 1 เดือน จึงคาดว่าจะกระทบต่องบการเงินของ CPALL ไม่มากนักแต่อย่างไรก็ตามประเด็นที่น่าเป็นห่วงก็คือผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าดังกล่าว อาจจะทำให้ภาระหนี้ของ CPALL สูงขึ้นกว่าที่ตกลงกันก่อนหน้า กล่าวคือ CPALL ได้ทำสัญญาซื้อหุ้น MAKRO จากผู้ถือหุ้นเดิม (64.35% หรือจำนวน 154 ล้านหุ้น) ที่ราคา 787 บาท โดยกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 28.618 บาท หรือตกซื้อในราคาที่เป็นสกุลต่างประเทศที่ 27.5 เหรียญสหรัฐ เท่ากับขณะนี้ภาระหนี้จะเพิ่มขึ้นตามเงินบาทที่อ่อนค่าดังกล่าวข้างต้น โดยคาดว่าหนี้สินในรูปเงินบาทอาจจะเพิ่มขึ้นจากเดิมราว 3% ซึ่งน่าจะกระทบต่อต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายหรือกำไรราว 1% เทียบกับราคาหุ้นที่ตกหนักกว่า 14% ในช่วงเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทิ้งCPALL!หวั่นขาดทุนหนี้ตปท.
หุ้นร่วงหนักกว่าภาระดอกเบี้ยจ่าย
วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556 เวลา 09:19:39 น.
ผู้เข้าชม : 306 คน
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CPALL ถูกขายหนัก...ตลาดกังวล จะมีผลขาดทุนจากภาระหนี้ต่างประเทศหลังซื้อหุ้น MAKRO
เป็นที่ผิดหวังต่อหุ้น CPALL อย่างมาก จากแรงขายหุ้นตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดจากที่มีข่าวพูดกันอย่างมากในตลาดว่าบริษัทอาจจะประสบปัญหาขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการกู้เงินในรูปเงินต่างประเทศ ซึ่งนักวิเคราะห์ ASP ได้พยายามเช็คข้อมูลจากบริษัทแต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจน แต่จากการประติดประต่อข้อมูลจากการเปิดเผยแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการขออนุมัติผู้ถือหุ้น MAKRO ในวันที่ 12 มิ.ย. ทำให้ทราบว่าบริษัทได้เตรียมกู้เงิน 6,000 ล้านเหรียญฯ เพื่อใช้ในการซื้อหุ้น MAKRO ที่ราคา 787 บาทต่อหุ้น โดยใช้การกู้ยืม 90% ของยอดเงินซื้อครั้งนี้
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมิได้มีการเบิกเงินกู้ยืมดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ตกลงซื้อ และเจรจากับเจ้าหนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 28.618 บาท ซึ่งบริษัทได้เปิดเผยว่ามีการทำป้องกันความเสี่ยงไว้บางส่วนเพื่อลดความผันผวนจากค่าเงิน ดังนั้น การที่เงินบาทอ่อนค่าราว 8% ในช่วงเวลากว่า 1 เดือน จึงคาดว่าจะกระทบต่องบการเงินของ CPALL ไม่มากนักแต่อย่างไรก็ตามประเด็นที่น่าเป็นห่วงก็คือผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าดังกล่าว อาจจะทำให้ภาระหนี้ของ CPALL สูงขึ้นกว่าที่ตกลงกันก่อนหน้า กล่าวคือ CPALL ได้ทำสัญญาซื้อหุ้น MAKRO จากผู้ถือหุ้นเดิม (64.35% หรือจำนวน 154 ล้านหุ้น) ที่ราคา 787 บาท โดยกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 28.618 บาท หรือตกซื้อในราคาที่เป็นสกุลต่างประเทศที่ 27.5 เหรียญสหรัฐ เท่ากับขณะนี้ภาระหนี้จะเพิ่มขึ้นตามเงินบาทที่อ่อนค่าดังกล่าวข้างต้น โดยคาดว่าหนี้สินในรูปเงินบาทอาจจะเพิ่มขึ้นจากเดิมราว 3% ซึ่งน่าจะกระทบต่อต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายหรือกำไรราว 1% เทียบกับราคาหุ้นที่ตกหนักกว่า 14% ในช่วงเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา