สวัสดีค่า
เราเป็นมนุษย์เงินเดือนคนคนนึง มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ
ปกติ ตามประสามนุษย์เงินเดือทั่วไป เงินเดือนออกปุ๊บ เราก็จัดสรรเงินตามประสา
มีจ่ายค่าหอ ค่านู้นนั้น ให้พ่อแม่ บันเทิงเริงใจ เก็บออม ลงทุน
และบางคน ก็อาจแบ่งเงินไว้ ทำประโยชน์เพื่อสังคม อย่างการบริจาคหรือทำบุญ
ตั้งแต่เรียนจบ ทำงานมีเงินเดือน เจ้าของกระทู้ก็เริ่มกันเงิน ไว้ส่วนนึง 2-3%
คิดคร่าวๆ เงินเดือน 15,000x3% = 450 บาท
เงินเดือน 25,000x3% = 750 บาท >>> ถือว่าน้อยมากๆพอๆกับ ค่าโทรศัพท์หรืออินเตอร์เนตไอโฟนซะอีก
เงินก้อนนี้ที่เรากันไว้ เอาไปทำประโยชน์อะไรได้มากมาย หลายอย่าง หลายสถานที่
แต่วันนี้ เราขอแชร์ สถานที่ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนึกถึงเวลาสุขสบาย
นั่นคือ ........"โรงพยาบาล"
(เน้นโรงพยาบาลของรัฐ)
ใครที่ไปโรงพยาบาลก็จะรู้ ไม่ว่าจะไปหาหมอ หรือเยี่ยมคนป่วย
บรรยากาศมันช่างน่าเศร้าและหดหู่ ไม่ค่อยอยากอยู่นานๆ >>> ด้วยเหตุฉะนี้แล
เราจึงคิดได้ว่า คนที่อยู่ในโรงพยาบาล ทั้ง "ร่างกาย" และ "จิตใจ" ต้องการการฟื้นฟูอย่างที่สุด
เพราะฉะนั้น เจ้าของกระทุ้ จึงเลือกที่จะทำบุญกับโรงพยาบาลทุกๆเดือน
ยกตัวอย่าง
1.แผนกพระสงฆ์อาพาต ทุกๆโรงพยาบาลจะมีแผนกนี้ หลายๆคนอาจไปทำบุญกับพระกันที่วัด
น้อยคนที่จะนึกถึงว่า ที่โรงพยาบาลก็มีพระนอนรักษาตัวด้วยเหมือนกัน บางทีหลายสิบรูปเลยก็มี
(ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า "ถ้าจะปรนนิบัติดูแลเรา จงปรนนิบัติดูแลพระสงฆ์ผู้อาพาตเทอด")
>>>> เราสามารถนำเงินไปซื้อข้าวของมาถวาย เช่น ผ้าเช็ดปาก หนังสือธรรมมะ (พระบางรูปพักฟื้นนาน ท่านอาจเอาไว้อ่านยามว่าง) น้ำปานะบ้างก็นม น้ำผลไม้ เหมือนเราถวายพระที่วัดเลย แต่ ต้องดูด้วยว่า รูปไหนฉันได้ ป่วยหนักแค่ไหน บางรูปห้ามฉันนม ห้ามฉันของหวาน
2.แผนกเด็ก (กุมารเวช) อันนี้แนะนำว่าต้องลองไปบริจาคให้ได้ ท่านจะกลับมาด้วยควาซาบซึ้งตรึงใจ จากรอยยิ้มของเด็กๆ (แต่บางคนก็ไม่ยิ้มนะ เพราะป่วยมาก น่าสงสารมากๆ) อายุเด็กก็มีตั้งแต่ ไม่กี่เดือน จนถึงประถม
>>>> ของที่เอาไปให้ แนะนำให้เป็นของเล่น ตุ๊กตา สมุดระบายสีพร้อมสี(ทุกเพศ ทุกวัย เด็กชอบกันหมด)
3.แผนกอายุรกรรม ส่วนใหญ่ก็ผุ้สูงอายุ (ซึ่งบางคนก็อายุเยอะมาก บางเตียงไม่มีญาติพี่น้อง ดูเขาเหงากันมากๆ)
>>>> ของที่เอาไปให้ได้หมด หรือ ถ้าให้แนะนำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
นี่แค่ตัวอย่างการนำเงินไปของเรา (หลายคนอาจ งง เงินแค่นี้บริจาคหมดได้ไง) เงินหลักร้อย
- เจ้าของกระทู้ปกติ จะซื้อ เป็นแพคๆใหญ่ๆ ตามห้างแมคโคร พวก นม น้ำผลไม้ ต่างๆ
- ของเล่นให้เด็ก ก็พวกของเล่นแผงๆ สมุดระบายสีก็เป็นโหลๆ จะถูก และก็ของเล่นตามร้านทุกอย่าง 20 มีเยอะมากๆ
แนะนำให้ซื้อเผื่อไป (โดยเฉพาะแผนกเด็ก) ถ้าจะให้ดีโทรถามที่ รพ. ว่าจะเอาของไปบริจาค มีเด็กอยู่กี่คนที่พักฟื้นอยู่
สรุปเลย >>> อยากชวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ไปทำบุญที่โรงพยาบาลกัน
ไม่ต้องกลัวเชื้อโรค ถ้าคุณแข็งแรงไม่มีโรค (แค่ระวังถ้าเราไม่สบายจะไปติดคนป่วย)
ใครไปทำแล้ว มาแชร์ประสบการณ์กันบ้างนะคะ^^
มนุษย์เงินเดือน แชร์ประสบการณ์ แบ่งเงินไปทำบุญกันจ้า
เราเป็นมนุษย์เงินเดือนคนคนนึง มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ
ปกติ ตามประสามนุษย์เงินเดือทั่วไป เงินเดือนออกปุ๊บ เราก็จัดสรรเงินตามประสา
มีจ่ายค่าหอ ค่านู้นนั้น ให้พ่อแม่ บันเทิงเริงใจ เก็บออม ลงทุน
และบางคน ก็อาจแบ่งเงินไว้ ทำประโยชน์เพื่อสังคม อย่างการบริจาคหรือทำบุญ
ตั้งแต่เรียนจบ ทำงานมีเงินเดือน เจ้าของกระทู้ก็เริ่มกันเงิน ไว้ส่วนนึง 2-3%
คิดคร่าวๆ เงินเดือน 15,000x3% = 450 บาท
เงินเดือน 25,000x3% = 750 บาท >>> ถือว่าน้อยมากๆพอๆกับ ค่าโทรศัพท์หรืออินเตอร์เนตไอโฟนซะอีก
เงินก้อนนี้ที่เรากันไว้ เอาไปทำประโยชน์อะไรได้มากมาย หลายอย่าง หลายสถานที่
แต่วันนี้ เราขอแชร์ สถานที่ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนึกถึงเวลาสุขสบาย
นั่นคือ ........"โรงพยาบาล"
(เน้นโรงพยาบาลของรัฐ)
ใครที่ไปโรงพยาบาลก็จะรู้ ไม่ว่าจะไปหาหมอ หรือเยี่ยมคนป่วย
บรรยากาศมันช่างน่าเศร้าและหดหู่ ไม่ค่อยอยากอยู่นานๆ >>> ด้วยเหตุฉะนี้แล
เราจึงคิดได้ว่า คนที่อยู่ในโรงพยาบาล ทั้ง "ร่างกาย" และ "จิตใจ" ต้องการการฟื้นฟูอย่างที่สุด
เพราะฉะนั้น เจ้าของกระทุ้ จึงเลือกที่จะทำบุญกับโรงพยาบาลทุกๆเดือน
ยกตัวอย่าง
1.แผนกพระสงฆ์อาพาต ทุกๆโรงพยาบาลจะมีแผนกนี้ หลายๆคนอาจไปทำบุญกับพระกันที่วัด
น้อยคนที่จะนึกถึงว่า ที่โรงพยาบาลก็มีพระนอนรักษาตัวด้วยเหมือนกัน บางทีหลายสิบรูปเลยก็มี
(ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า "ถ้าจะปรนนิบัติดูแลเรา จงปรนนิบัติดูแลพระสงฆ์ผู้อาพาตเทอด")
>>>> เราสามารถนำเงินไปซื้อข้าวของมาถวาย เช่น ผ้าเช็ดปาก หนังสือธรรมมะ (พระบางรูปพักฟื้นนาน ท่านอาจเอาไว้อ่านยามว่าง) น้ำปานะบ้างก็นม น้ำผลไม้ เหมือนเราถวายพระที่วัดเลย แต่ ต้องดูด้วยว่า รูปไหนฉันได้ ป่วยหนักแค่ไหน บางรูปห้ามฉันนม ห้ามฉันของหวาน
2.แผนกเด็ก (กุมารเวช) อันนี้แนะนำว่าต้องลองไปบริจาคให้ได้ ท่านจะกลับมาด้วยควาซาบซึ้งตรึงใจ จากรอยยิ้มของเด็กๆ (แต่บางคนก็ไม่ยิ้มนะ เพราะป่วยมาก น่าสงสารมากๆ) อายุเด็กก็มีตั้งแต่ ไม่กี่เดือน จนถึงประถม
>>>> ของที่เอาไปให้ แนะนำให้เป็นของเล่น ตุ๊กตา สมุดระบายสีพร้อมสี(ทุกเพศ ทุกวัย เด็กชอบกันหมด)
3.แผนกอายุรกรรม ส่วนใหญ่ก็ผุ้สูงอายุ (ซึ่งบางคนก็อายุเยอะมาก บางเตียงไม่มีญาติพี่น้อง ดูเขาเหงากันมากๆ)
>>>> ของที่เอาไปให้ได้หมด หรือ ถ้าให้แนะนำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
นี่แค่ตัวอย่างการนำเงินไปของเรา (หลายคนอาจ งง เงินแค่นี้บริจาคหมดได้ไง) เงินหลักร้อย
- เจ้าของกระทู้ปกติ จะซื้อ เป็นแพคๆใหญ่ๆ ตามห้างแมคโคร พวก นม น้ำผลไม้ ต่างๆ
- ของเล่นให้เด็ก ก็พวกของเล่นแผงๆ สมุดระบายสีก็เป็นโหลๆ จะถูก และก็ของเล่นตามร้านทุกอย่าง 20 มีเยอะมากๆ
แนะนำให้ซื้อเผื่อไป (โดยเฉพาะแผนกเด็ก) ถ้าจะให้ดีโทรถามที่ รพ. ว่าจะเอาของไปบริจาค มีเด็กอยู่กี่คนที่พักฟื้นอยู่
สรุปเลย >>> อยากชวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ไปทำบุญที่โรงพยาบาลกัน
ไม่ต้องกลัวเชื้อโรค ถ้าคุณแข็งแรงไม่มีโรค (แค่ระวังถ้าเราไม่สบายจะไปติดคนป่วย)
ใครไปทำแล้ว มาแชร์ประสบการณ์กันบ้างนะคะ^^