เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนนี่เอง ที่ร้านดิวตี้ฟรีกลางสนามบินคันไซ มีนักท่องเที่ยวไทยมากับทัวร์กรุ๊ปนึงประมาณ 6-7 คน
กรูกันเข้ามาในร้าน
ตอนนั้นดึกแล้ว ร้านค้าอื่นๆปิดหมด เหลือร้านนี่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางร้านเดียว กลุ่มนี้ก็รีบคว้าตะกร้า รีบกระจายตัวกันไปหยิบสินค้ากันทั่วร้าน ส่งเสียงกันดังเซ็งแซ่ ร้องถามกันไปมาว่าชั้นจะซื้ออะไรดี ไอ้นั่นไอ้นี่อยูไหน ไกด์ทัวร์ต้องคอยบอกคอยชี้เป้าให้ แล้วก็พากันวิ่งกรูผ่าร้านแทรกคนอื่นเข้าไปหยิบ แบบว่าอย่าเรียกหยิบเลย เรียกว่าโกยดีกว่า
ต่างคนต่างโกยจนของเกือบเกลี้ยงชั้น เราเดินเลือกของอยู่ก็โดนเบียด เราต้องหลบไปอยู่ตามมุมๆ
พอดีมุมที่เราอยู่มีบ๊วยเค็มเนื้อนิ่มแบบไร้เม็ดวางอยู่ดูน่ากิน กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบ เสียงคุณไกด์ร้องบอกลูกทัวร์ดังลั่น
"บ๊วยค่ะบ๊วย อยู่ตรงนู้น อร่อยมากเลยนะคะ ราคาไม่แพงด้วยแพ็คละ 500เยนเองค่ะ "
ตามด้วยเสียงเซ็งแซ่ " เร็วๆเข้าเธอเดี๋ยวหมด" แล้วก็แห่กันมารุมตรงที่เรายืนอยู่ เราคิดในใจ อ่าวซวยแล้วตรู ต้องรีบหยิบ
กำลังเอื้อมมือจะไปหยิบแต่ไม่ทัน มีมืออีกหลายมือยื่นจากข้างหลังเข้ามาคว้าหมับๆๆๆ พร้อมเสียงพูด
"ฮู้ย โชคดีนะเนี่ยที่มีแต่พวกเรา เนี่ยถ้ามีกรุ๊ปอื่นอยู่ด้วยนะ แย่งกันจะเป็นจะตายเลย ของเหลือไม่พอให้เราซื้อหรอก วันนี้ช็อปสบ๊ายสบาย" ว่าแวกะโกยบ๊วยลงตะกร้ากันคนละหลายแพ็ค เราไม่กล้าแย่งกะเค้าก็เลยหดมือกลับ ถอยออกไปยืนดูว่าบ๊วยจะเหลือถึงเรามั้ย พอเค้าโกยกันพอใจแล้วถอนกำลังไปรุมที่อื่น เราเข้าไปดูปรากฏว่าอุตส่าห์เหลือให้เราแพ็คนึงแฮะ ค่อยยังชั่ว
จากนั้นเราเดินหลบเลี่ยงไปหยิบของอีกสองสามอย่าง แล้วไปเข้าแถวรอจ่ายเงิน ในแถวมีพวกเค้ายืนกระจายกำลังกันสลับกับลูกค้าอื่นๆ หลายเชื้อชาติ
เครื่องแคชเชียร์มีสองเครื่องตั้งอยู่ติดกัน แต่แถวมีแถวเดียว คือถ้าเครื่องไหนว่างแล้วแคชเชียร์จะส่งสัญญาณเรียกคนหัวแถวให้เข้าไปจ่าย เครื่องนึงมีคนไทยคู่นึงยืนจ่ายตังอยู่ อีีกเครื่องฝรั่งจ่ายกำลังจะเสร็จ
ข้างหน้าสุดตรงหัวแถวมีผู้ชายคนนึงท่าทางจะเป็นหัวโจกของกรุ๊ป คอยส่งเสียงดังแซวคนนั้นคนนี้ลั่นร้านตลอด
พอฝรั่งเดินไป ถึงคิวเค้าจ่ายตังก็เอาตะกร้าตัวเองไปวาง แล้วร้องบอกลูกเมียตัวเองให้ไปหยิบไอ้โน่นไอ้นี่มาเพิ่ม
"ลูกไปอันนี้เอามาอีกห้าอัน ไปฝากอี๊ เอาอันนี้อีกสามอันไปฝากม้า เธอไปเอาอันนี้มาอีกเยอะๆ เร็วๆเดี๋ยวหมด"
แล้วตัวเองก็ทิ้งตะกร้าเดินออกไปหยิบของเพิ่มอีก วุ่นวายขายปลาช่อนมาก กว่าจะกลับมาเอาของทั้งหมดสแกนบาร์ ห่ออีก แยกถุงแยกบ้านอีก ลูกค้าอื่นๆก็หิ้วตะกร้ารอกัน
เราชักหงุดหงิดแต่ก็พยายามอดทนยืนดูเฉยๆ จนกระทั่งพ่อคนนั้นจ่ายเงินเสร็จ หันมาร้องเรียกพรรคพวก
" เอ้า ใครจะจ่ายเงินมาต่อผมเลย ผมเสร็จแล้ว มาเร็วๆ"
เค้ามองหน้าเราแล้วกวักมือเรียกคนยืนข้างหลังเรา " คุณกอไก่ มาเร็วๆแซงขึ้นมาเลย มาต่อผมนี่ จะได้ไวๆ"
ยัยกอไก่รีบหิ้วตะกร้าเดินผ่านเราไปวางหน้าแคชเชียร์ทันที
แคชเชียร์สาวญี่ปุ่นทำหน้างง แต่ไม่กล้าขัดขืน ต้องยอมเอาของในตะกร้าออกมาสแกน
อ้าว ไหงงั้นล่ะพ่อคุณ เราชักหมดความอดทน อย่างนี้ต้องเจอโวยหน่อยแล้ว คิดว่าชั้นไม่ใช่คนไทยฟังภาษาไทยไม่ออกล่ะสิ
กำลังจะอ้าปาก แต่ช้าไป คนข้างหน้าเราปรากฏว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีนแม่สูงอายุ กับลูกชายประมาณ30ปี
คนลูกร้องขึ้นมา "Hey !!! They cut the queue "
คนแม่หันไปตะโกนด่าคนไทย ช้งเช้งๆเป็นภาษาจีนลั่นร้าน สลับกับลูกชายด่าภาษาอังกฤษใส่แคชเชียร์ ว่าทำไมปล่อยให้คนลัดคิว ทำไมไม่จัดการ ทำงี้ได้ไงเห็นอยู่ว่าเค้าลัดคิวชัดๆ แคชเชียร์ทำหน้าจะร้องไห้ ฝรั่งสองคนข้างหลังเราก็บ่นพึมพำๆ นายหัวโจกกับยายกอไก่ตีหน้ามึน ทำท่าฟังไม่รู้เรื่อง หรือรู้เรื่องแต่ไม่แคร์ก็ไม่รู้
เราทนไม่ไหวเลยเอ่ยขึ้นมาว่า " เก่งจังเลยเนอะ แซงคิวกันเก๊งเก่ง ให้คนจีนเค้าด่าเอาได้น่าภูมิใจจริงๆ"
น้องผู้หญิงอีกคนที่ยืนหน้าเราซึ่งคงจะมาด้วยกันกับทัวร์นี้หันมายิ้มแหยๆประมาณว่าอายแทน
ส่วนตัวต้นเรื่องก็ตีหน้ามึน เริ่ดเชิดต่อไป
อ่านข่าวเจอว่าบางประเทศแบนนักท่องเที่ยวจีน จนทางการจีนออกมาประกาศเตือนประชาชนจีนที่เดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ให้ระมัดระวังพฤติกรรมของตัวเองเวลาไปที่ต่างๆ และมีการอบรมแนะแนว(แกมบังคับ)ฝึกมารยาทที่ดีให้อีกด้วย
คนจีนด้วยกันเองในโลกไซเบอร์ก็ช่วยกันสอดส่องดูแล ใครทำอะไรน่าเกลียดอาจถูกถ่ายคลิปประจาน โดนรุมประณามให้อับอาย
คงต้องรอดูว่า มาตรการนี้จะทำให้นัักท่องเที่ยวจีนตกจากอันดับหนึ่ง เหรียญทองหลุดจากคอ สูญเสียตำแหน่งแชมเปี้ยนหรือไม่
และถ้าใช่ ใครกันนะจะเป็นตัวเกร็ง ขึ้นแท่นรับเหรียญทองต่อจากจีน หวาดเจี๋ยวจริงๆ
เดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวไทยเป็นกันถึงขนาดนี้แล้วหรือนี่ แซงคิิวเก่งจนโดนนักท่องเที่ยวจีนตะโกนด่า
กรูกันเข้ามาในร้าน
ตอนนั้นดึกแล้ว ร้านค้าอื่นๆปิดหมด เหลือร้านนี่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางร้านเดียว กลุ่มนี้ก็รีบคว้าตะกร้า รีบกระจายตัวกันไปหยิบสินค้ากันทั่วร้าน ส่งเสียงกันดังเซ็งแซ่ ร้องถามกันไปมาว่าชั้นจะซื้ออะไรดี ไอ้นั่นไอ้นี่อยูไหน ไกด์ทัวร์ต้องคอยบอกคอยชี้เป้าให้ แล้วก็พากันวิ่งกรูผ่าร้านแทรกคนอื่นเข้าไปหยิบ แบบว่าอย่าเรียกหยิบเลย เรียกว่าโกยดีกว่า
ต่างคนต่างโกยจนของเกือบเกลี้ยงชั้น เราเดินเลือกของอยู่ก็โดนเบียด เราต้องหลบไปอยู่ตามมุมๆ
พอดีมุมที่เราอยู่มีบ๊วยเค็มเนื้อนิ่มแบบไร้เม็ดวางอยู่ดูน่ากิน กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบ เสียงคุณไกด์ร้องบอกลูกทัวร์ดังลั่น
"บ๊วยค่ะบ๊วย อยู่ตรงนู้น อร่อยมากเลยนะคะ ราคาไม่แพงด้วยแพ็คละ 500เยนเองค่ะ "
ตามด้วยเสียงเซ็งแซ่ " เร็วๆเข้าเธอเดี๋ยวหมด" แล้วก็แห่กันมารุมตรงที่เรายืนอยู่ เราคิดในใจ อ่าวซวยแล้วตรู ต้องรีบหยิบ
กำลังเอื้อมมือจะไปหยิบแต่ไม่ทัน มีมืออีกหลายมือยื่นจากข้างหลังเข้ามาคว้าหมับๆๆๆ พร้อมเสียงพูด
"ฮู้ย โชคดีนะเนี่ยที่มีแต่พวกเรา เนี่ยถ้ามีกรุ๊ปอื่นอยู่ด้วยนะ แย่งกันจะเป็นจะตายเลย ของเหลือไม่พอให้เราซื้อหรอก วันนี้ช็อปสบ๊ายสบาย" ว่าแวกะโกยบ๊วยลงตะกร้ากันคนละหลายแพ็ค เราไม่กล้าแย่งกะเค้าก็เลยหดมือกลับ ถอยออกไปยืนดูว่าบ๊วยจะเหลือถึงเรามั้ย พอเค้าโกยกันพอใจแล้วถอนกำลังไปรุมที่อื่น เราเข้าไปดูปรากฏว่าอุตส่าห์เหลือให้เราแพ็คนึงแฮะ ค่อยยังชั่ว
จากนั้นเราเดินหลบเลี่ยงไปหยิบของอีกสองสามอย่าง แล้วไปเข้าแถวรอจ่ายเงิน ในแถวมีพวกเค้ายืนกระจายกำลังกันสลับกับลูกค้าอื่นๆ หลายเชื้อชาติ
เครื่องแคชเชียร์มีสองเครื่องตั้งอยู่ติดกัน แต่แถวมีแถวเดียว คือถ้าเครื่องไหนว่างแล้วแคชเชียร์จะส่งสัญญาณเรียกคนหัวแถวให้เข้าไปจ่าย เครื่องนึงมีคนไทยคู่นึงยืนจ่ายตังอยู่ อีีกเครื่องฝรั่งจ่ายกำลังจะเสร็จ
ข้างหน้าสุดตรงหัวแถวมีผู้ชายคนนึงท่าทางจะเป็นหัวโจกของกรุ๊ป คอยส่งเสียงดังแซวคนนั้นคนนี้ลั่นร้านตลอด
พอฝรั่งเดินไป ถึงคิวเค้าจ่ายตังก็เอาตะกร้าตัวเองไปวาง แล้วร้องบอกลูกเมียตัวเองให้ไปหยิบไอ้โน่นไอ้นี่มาเพิ่ม
"ลูกไปอันนี้เอามาอีกห้าอัน ไปฝากอี๊ เอาอันนี้อีกสามอันไปฝากม้า เธอไปเอาอันนี้มาอีกเยอะๆ เร็วๆเดี๋ยวหมด"
แล้วตัวเองก็ทิ้งตะกร้าเดินออกไปหยิบของเพิ่มอีก วุ่นวายขายปลาช่อนมาก กว่าจะกลับมาเอาของทั้งหมดสแกนบาร์ ห่ออีก แยกถุงแยกบ้านอีก ลูกค้าอื่นๆก็หิ้วตะกร้ารอกัน
เราชักหงุดหงิดแต่ก็พยายามอดทนยืนดูเฉยๆ จนกระทั่งพ่อคนนั้นจ่ายเงินเสร็จ หันมาร้องเรียกพรรคพวก
" เอ้า ใครจะจ่ายเงินมาต่อผมเลย ผมเสร็จแล้ว มาเร็วๆ"
เค้ามองหน้าเราแล้วกวักมือเรียกคนยืนข้างหลังเรา " คุณกอไก่ มาเร็วๆแซงขึ้นมาเลย มาต่อผมนี่ จะได้ไวๆ"
ยัยกอไก่รีบหิ้วตะกร้าเดินผ่านเราไปวางหน้าแคชเชียร์ทันที
แคชเชียร์สาวญี่ปุ่นทำหน้างง แต่ไม่กล้าขัดขืน ต้องยอมเอาของในตะกร้าออกมาสแกน
อ้าว ไหงงั้นล่ะพ่อคุณ เราชักหมดความอดทน อย่างนี้ต้องเจอโวยหน่อยแล้ว คิดว่าชั้นไม่ใช่คนไทยฟังภาษาไทยไม่ออกล่ะสิ
กำลังจะอ้าปาก แต่ช้าไป คนข้างหน้าเราปรากฏว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีนแม่สูงอายุ กับลูกชายประมาณ30ปี
คนลูกร้องขึ้นมา "Hey !!! They cut the queue "
คนแม่หันไปตะโกนด่าคนไทย ช้งเช้งๆเป็นภาษาจีนลั่นร้าน สลับกับลูกชายด่าภาษาอังกฤษใส่แคชเชียร์ ว่าทำไมปล่อยให้คนลัดคิว ทำไมไม่จัดการ ทำงี้ได้ไงเห็นอยู่ว่าเค้าลัดคิวชัดๆ แคชเชียร์ทำหน้าจะร้องไห้ ฝรั่งสองคนข้างหลังเราก็บ่นพึมพำๆ นายหัวโจกกับยายกอไก่ตีหน้ามึน ทำท่าฟังไม่รู้เรื่อง หรือรู้เรื่องแต่ไม่แคร์ก็ไม่รู้
เราทนไม่ไหวเลยเอ่ยขึ้นมาว่า " เก่งจังเลยเนอะ แซงคิวกันเก๊งเก่ง ให้คนจีนเค้าด่าเอาได้น่าภูมิใจจริงๆ"
น้องผู้หญิงอีกคนที่ยืนหน้าเราซึ่งคงจะมาด้วยกันกับทัวร์นี้หันมายิ้มแหยๆประมาณว่าอายแทน
ส่วนตัวต้นเรื่องก็ตีหน้ามึน เริ่ดเชิดต่อไป
อ่านข่าวเจอว่าบางประเทศแบนนักท่องเที่ยวจีน จนทางการจีนออกมาประกาศเตือนประชาชนจีนที่เดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ให้ระมัดระวังพฤติกรรมของตัวเองเวลาไปที่ต่างๆ และมีการอบรมแนะแนว(แกมบังคับ)ฝึกมารยาทที่ดีให้อีกด้วย
คนจีนด้วยกันเองในโลกไซเบอร์ก็ช่วยกันสอดส่องดูแล ใครทำอะไรน่าเกลียดอาจถูกถ่ายคลิปประจาน โดนรุมประณามให้อับอาย
คงต้องรอดูว่า มาตรการนี้จะทำให้นัักท่องเที่ยวจีนตกจากอันดับหนึ่ง เหรียญทองหลุดจากคอ สูญเสียตำแหน่งแชมเปี้ยนหรือไม่
และถ้าใช่ ใครกันนะจะเป็นตัวเกร็ง ขึ้นแท่นรับเหรียญทองต่อจากจีน หวาดเจี๋ยวจริงๆ