จากเพจ ชูวิทย์ I'm No.5 ค่ะ แท็กในเรื่องลึกลับ เพราะหาแท็กพวกฆาตกรรมไม่เจอค่ะ
ชิงทรัพย์ หรือ ฆาตกรรมอำพราง?
เมื่อคืน ผมพบกับอดีตนายตำรวจใหญ่ ท่านเกษียณไปแล้ว เป็น "ปรมาจารย์สืบสวนสอบสวน" ท่านกรุณาเล่าให้ผมฟังว่า
เรื่องคุณเอกยุทธ ไม่ใช่เรื่อง "การชิงทรัพย์" หรือ "เรียกค่าไถ่" แต่เป็นการ "ฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" เพราะคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์ แม้กระทั่งเข้าไปในบ้าน ก็ไม่ได้รื้อค้นทรัพย์สิน ส่วนทรัพย์ที่ได้มา ก็เอาไปโยนทิ้งน้ำ แต่ดันไปเอา "เซิร์ฟเวอร์" ซึ่งจริงๆอาจไม่ได้ต้องการข้อมูลในกล้องอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีข้อมูลสำคัญอื่นๆอยู่ด้วย ถ้าชิงทรัพย์จริง ต้องเอา "ทรัพย์สิน" ที่บ้านไปด้วย ส่วน "พระสมเด็จ" ที่ห้อยคอ เขาบอกว่า ตกอยู่ที่มือ "ใครบางคน" เพราะถูกใจ ชอบเล่น "พระเครื่อง" และที่ว่าไม่ใช่เป็นการ "เรียกค่าไถ่" เพราะบังคับให้เขียนเช็คได้เงินแล้ว ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัว แสดงว่าประสงค์ต่อ "ชีวิต" มากกว่า "ทรัพย์"
ระดับคนขับรถอย่าง "นายบอล" อายุอานามไม่เกิน 25 ปี พยายามไปสร้างภาพให้เห็นว่าเป็น "มือสังหาร" ระดับ "พระกาฬ" ทั้งๆที่ดูหน้าก็รู้ มันเด็กเมื่อวานซืน ปืนยังไม่มีสักกระบอก อาจจะเป็นพวก "รู้มาก" แต่ไม่ใช่ "มือสังหาร" ตัวจริง ที่สำคัญ หน้าตา ร่างกาย ของนายบอล ไม่มีบาดแผลหรือรอยขีดข่วนแม้แต่นิดเดียว แถมคุยโทรศัพย์มือถือตลอดเวลา เหมือน "รับคำสั่ง" อยู่
ตามแผนแล้ว นายบอลคนขับรถ จะต้องหายไปพร้อมกับนายเอกยุทธ แต่ที่รอดมาได้เพราะมัน "ผิดคิว" เนื่องจากผบ.ตร.ไปให้ข่าวว่า "เจอตัวแล้ว" แต่พอไปถาม ผบช.น. บอกว่า "ยังไม่เจอตัว" นายตำรวจระดับผู้ใหญ่ 2 นาย ให้สัมภาษณ์ขัดแย้งกันเอง
ท่านยังเล่าต่ออีกว่า มีการ "วางแผน" โดยทีม "มืออาชีพ" สังหารนายเอกยุทธ ที่บริเวณพื้นที่ที่นายบอลอ้างว่า นายเอกยุทธเปิดประตูรถหนีลงไป เพราะ "ช่วงเวลา" ตรงนี้ นายบอลอ้างว่า วิ่งตามนายเอกยุทธไป แล้วพลั้งมือไปฆ่าตายเสียแล้ว ยังไปบอกนายเบิ้มว่าให้เอาเชือกรัดคอ นายเบิ้มบอกว่า "ตายแล้วจะให้รัดคอซ้ำทำไม?” แล้วนายบอลก็บอก "ทำตามที่บอกแล้วกัน"
นายบอล และนายเบิ้ม พูดจริงบ้าง เท็จบ้าง แต่พูดไม่หมด เหมือนมีคน "เตี๊ยม" ให้พูด พูดให้ดู "เจือสม" มีโอกาสสู้คดีรอดห้าสิบๆ แต่ติดจริงๆไม่เกิน 10 ปี ถ้าพูดจริงหมด พ่อ แม่ ลูก เมีย อยู่ลำบาก
ส่วนศพ ทีแรกเอาไปฝังอีกที่หนึ่ง อย่างที่แรกๆออกข่าวว่าเจอศพที่พัทลุงแล้ว ต่อมาบอกว่าไม่เจอ เมื่อนำนายบอลไปหา ก็จำไม่ได้ว่าฝังศพที่ไหน หาอยู่ครึ่งวัน บอกว่าฝนตกหนัก ทั้งๆที่วันนั้นฝนตกแค่กรุงเทพ ที่พัทลุงฝนไม่ได้ตก เขาบอกว่า ศพเพิ่งถูกย้ายเอามาฝังอีกที่หนึ่ง ถอดเสื้อผ้าออกหมด เพราะอาจเป็นหลักฐานสำคัญ ที่มี DNA ของ "ทีมสังหาร" ติดอยู่
อดีตนายตำรวจท่านนี้บอกว่า นี่คือ "ฆาตกรรมอำพราง" ส่วนทีมงานที่ทำมันไม่เนียนเท่าไหร่ ผลการสอบสวนก็ออกมาทะแม่งๆแบบนี้
วงการตำรวจเขารู้กัน มีบำเหน็จให้ มันต้องทำงานตอบแทน เพราะงานนี้ระดับ "สารวัตร" เขาสั่งการ "ผู้บัญชาการ" ได้ แนวทางการสืบสวนถูกขีดวงจำกัด แล้วญาติก็ "ไม่ติดใจ" เพราะเกรงอำนาจมืด
เรื่องที่ผมเล่ามา ผมฟังเขามาอีกที ไม่ต้องเรียกผมไปสอบนะครับ เพราะขนาดคุณหญิง "ตาทิพย์" เอ้ย "พรทิพย์" ยังไม่อยากเข้าไปยุ่งเลย
ผมมันชาวบ้านธรรมดา ต้องระวังตัวเหมือนกัน เดี๋ยวจะถูก "อุ้ม" รอบสอง
ชูวิทย์วิพากษ์ คดีเอกยุทธ์ ชิงทรัพย์ หรือ ฆาตกรรมอำพราง?
ชิงทรัพย์ หรือ ฆาตกรรมอำพราง?
เมื่อคืน ผมพบกับอดีตนายตำรวจใหญ่ ท่านเกษียณไปแล้ว เป็น "ปรมาจารย์สืบสวนสอบสวน" ท่านกรุณาเล่าให้ผมฟังว่า
เรื่องคุณเอกยุทธ ไม่ใช่เรื่อง "การชิงทรัพย์" หรือ "เรียกค่าไถ่" แต่เป็นการ "ฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" เพราะคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์ แม้กระทั่งเข้าไปในบ้าน ก็ไม่ได้รื้อค้นทรัพย์สิน ส่วนทรัพย์ที่ได้มา ก็เอาไปโยนทิ้งน้ำ แต่ดันไปเอา "เซิร์ฟเวอร์" ซึ่งจริงๆอาจไม่ได้ต้องการข้อมูลในกล้องอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีข้อมูลสำคัญอื่นๆอยู่ด้วย ถ้าชิงทรัพย์จริง ต้องเอา "ทรัพย์สิน" ที่บ้านไปด้วย ส่วน "พระสมเด็จ" ที่ห้อยคอ เขาบอกว่า ตกอยู่ที่มือ "ใครบางคน" เพราะถูกใจ ชอบเล่น "พระเครื่อง" และที่ว่าไม่ใช่เป็นการ "เรียกค่าไถ่" เพราะบังคับให้เขียนเช็คได้เงินแล้ว ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัว แสดงว่าประสงค์ต่อ "ชีวิต" มากกว่า "ทรัพย์"
ระดับคนขับรถอย่าง "นายบอล" อายุอานามไม่เกิน 25 ปี พยายามไปสร้างภาพให้เห็นว่าเป็น "มือสังหาร" ระดับ "พระกาฬ" ทั้งๆที่ดูหน้าก็รู้ มันเด็กเมื่อวานซืน ปืนยังไม่มีสักกระบอก อาจจะเป็นพวก "รู้มาก" แต่ไม่ใช่ "มือสังหาร" ตัวจริง ที่สำคัญ หน้าตา ร่างกาย ของนายบอล ไม่มีบาดแผลหรือรอยขีดข่วนแม้แต่นิดเดียว แถมคุยโทรศัพย์มือถือตลอดเวลา เหมือน "รับคำสั่ง" อยู่
ตามแผนแล้ว นายบอลคนขับรถ จะต้องหายไปพร้อมกับนายเอกยุทธ แต่ที่รอดมาได้เพราะมัน "ผิดคิว" เนื่องจากผบ.ตร.ไปให้ข่าวว่า "เจอตัวแล้ว" แต่พอไปถาม ผบช.น. บอกว่า "ยังไม่เจอตัว" นายตำรวจระดับผู้ใหญ่ 2 นาย ให้สัมภาษณ์ขัดแย้งกันเอง
ท่านยังเล่าต่ออีกว่า มีการ "วางแผน" โดยทีม "มืออาชีพ" สังหารนายเอกยุทธ ที่บริเวณพื้นที่ที่นายบอลอ้างว่า นายเอกยุทธเปิดประตูรถหนีลงไป เพราะ "ช่วงเวลา" ตรงนี้ นายบอลอ้างว่า วิ่งตามนายเอกยุทธไป แล้วพลั้งมือไปฆ่าตายเสียแล้ว ยังไปบอกนายเบิ้มว่าให้เอาเชือกรัดคอ นายเบิ้มบอกว่า "ตายแล้วจะให้รัดคอซ้ำทำไม?” แล้วนายบอลก็บอก "ทำตามที่บอกแล้วกัน"
นายบอล และนายเบิ้ม พูดจริงบ้าง เท็จบ้าง แต่พูดไม่หมด เหมือนมีคน "เตี๊ยม" ให้พูด พูดให้ดู "เจือสม" มีโอกาสสู้คดีรอดห้าสิบๆ แต่ติดจริงๆไม่เกิน 10 ปี ถ้าพูดจริงหมด พ่อ แม่ ลูก เมีย อยู่ลำบาก
ส่วนศพ ทีแรกเอาไปฝังอีกที่หนึ่ง อย่างที่แรกๆออกข่าวว่าเจอศพที่พัทลุงแล้ว ต่อมาบอกว่าไม่เจอ เมื่อนำนายบอลไปหา ก็จำไม่ได้ว่าฝังศพที่ไหน หาอยู่ครึ่งวัน บอกว่าฝนตกหนัก ทั้งๆที่วันนั้นฝนตกแค่กรุงเทพ ที่พัทลุงฝนไม่ได้ตก เขาบอกว่า ศพเพิ่งถูกย้ายเอามาฝังอีกที่หนึ่ง ถอดเสื้อผ้าออกหมด เพราะอาจเป็นหลักฐานสำคัญ ที่มี DNA ของ "ทีมสังหาร" ติดอยู่
อดีตนายตำรวจท่านนี้บอกว่า นี่คือ "ฆาตกรรมอำพราง" ส่วนทีมงานที่ทำมันไม่เนียนเท่าไหร่ ผลการสอบสวนก็ออกมาทะแม่งๆแบบนี้
วงการตำรวจเขารู้กัน มีบำเหน็จให้ มันต้องทำงานตอบแทน เพราะงานนี้ระดับ "สารวัตร" เขาสั่งการ "ผู้บัญชาการ" ได้ แนวทางการสืบสวนถูกขีดวงจำกัด แล้วญาติก็ "ไม่ติดใจ" เพราะเกรงอำนาจมืด
เรื่องที่ผมเล่ามา ผมฟังเขามาอีกที ไม่ต้องเรียกผมไปสอบนะครับ เพราะขนาดคุณหญิง "ตาทิพย์" เอ้ย "พรทิพย์" ยังไม่อยากเข้าไปยุ่งเลย
ผมมันชาวบ้านธรรมดา ต้องระวังตัวเหมือนกัน เดี๋ยวจะถูก "อุ้ม" รอบสอง