เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐบาลตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงในหลายๆ ส่วนของเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ต่างพากันส่งข้อมูลข่าวสารและเอกสารทางนโยบายที่มีความอ่อนไหว ผ่านพวกบริการอีเมลของเว็บไซต์ยักษ์ใหญ่อเมริกัน และจึงกำลังเกิดความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะถูกเฝ้าติดตามคอยรวบรวมโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) มาช้านานแล้ว
       
        จากนามบัตรอย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลจำนวนมากในแถบเอเชีย ตัวอย่างเช่น อธิบดีและผู้อำนวยการกองหลายต่อหลายคนในกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ปรากฏว่าให้ที่อยู่ทางอีเมลไว้แต่ที่ผ่านทาง ยาฮู (yahoo) และ จีเมล (gmail) ซึ่งเป็นบริการของบริษัทยาฮู อิงก์ และ บริษัทกูเกิล อิงก์ ขณะที่นักวิจัยผู้หนึ่งซึ่งติดต่อธุระเป็นประจำกับพวกเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ตำรวจของแดนอิเหนาก็กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้ทุกคนล้วนใช้ จีเมล หรือ ยาฮู ในการสื่อสารรับส่งข้อมูลข่าวสารที่บ่อยครั้งเป็นสารสนเทศที่มีความอ่อนไหวสูง
       
        ทางด้าน กาต็อต เอส เดวา โบรโต ผู้ทำหน้าที่โฆษกให้แก่กระทรวงสื่อสารและสารสนเทศของอินโดนีเซีย ยอมรับว่าพวกเจ้าหน้าที่ของแดนอิเหนาตระหนักรับรู้มานานแล้วว่า ที่อยู่อีเมลแบบบริการสาธารณะเช่นนี้ “ง่ายต่อการถูกเจาะ” แต่ยังคงเป็นเรื่องลำบากที่จะบังคับให้ใช้แอคเคาต์อีเมลของทางการอย่างเคร่งครัด
       
        ไม่เพียงที่แดนอิหนา ยังมีตัวอย่างจากการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ยูเอ็นเอสแคป) ที่กรุงเทพฯ ซึ่งปรากฏว่าพวกเจ้าหน้าที่จาก 20 ใน 33 ชาติเอเชียที่เข้าร่วมการประชุมคราวนั้น ต่างระบุที่อยู่อีเมลในแบบฟอร์มการติดต่อของพวกเขาเอาไว้ที่ จีเมล, ฮอตเมล (hotmail), หรือ ยาฮู
       
        ในจำนวนเจ้าหน้าที่ไทย 18 คนที่เข้าร่วมการประชุม มีเพียง 6 คนเท่านั้นซึ่งให้ที่อยู่อีเมลในแอคเคาต์ทางการของพวกเขา ทั้งๆ ที่รัฐบาลไทยมีการแจกจ่ายที่อยู่อีเมลทางการให้ใช้เพื่อความปลอดภัยกันอยู่แล้ว
       
        “พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลมีเว็บโดเมน go.th ให้ใช้ โดยที่เราสามารถรับรองได้ว่าโดเมนนี้มีความปลอดภัย” โฆษกรัฐบาล ธีรัตถ์ รัตนเสวี คุย
       
        ในทางเป็นจริงแล้ว พวกเจ้าหน้าที่ทางการตลอดทั่วโลกมีการใช้ที่อยู่อีเมลส่วนตัวเพื่อทำเรื่องส่วนตัวต่างๆ กันเป็นประจำ ทว่าในหลายๆ ส่วนของเอเชียนั้นบางทีก็แทบไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้มันเพื่อทำการงานราชการด้วย เจ้าหน้าที่ของหลายๆ ประเทศบอกว่า มีบางกระทรวงทบวงกรมในบางประเทศนั้นไม่ได้มีเว็บโดเมนของตนเอง หรือถ้ามีก็มักสามารถใช้งานได้อย่างย่ำแย่เต็มที หรือไม่สามารถเข้าถึงได้ถ้าหากใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน
     http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000071121