ครม.ญี่ปุ่นมีมติให้ยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวไทยและมาเลเซียแล้ว เพื่อทำตามเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2556 ว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร โดยครม.มีมติ ให้ยกเว้นการขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและมาเลเซียเป็นการชั่วคราว และอนุญาตให้ออกวีซ่าประเภทเข้า-ออกหลายครั้ง แก่นักท่องเที่ยวชาวฟิลิปปินส์และเวียดนามด้วย โดยจะเริ่มในช่วงฤดูร้อนนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นออกเอกสารรายงานด้านการท่องเที่ยวปี 2013 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระบุว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็น 2 ล้านคนภายในปี 2016 โดยมาตรการยกเว้นการขอวีซ่า เป็นหนึ่งในความพยายามนั้น และเป็นส่วนหนึ่งในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2012 ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 8.37 ล้านคน กว่า 65% เป็นนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้, จีน, ไต้หวัน และฮ่องกง และมีเพียง 780,000 คน หรือ 9.3% เท่านั้นที่มาจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอกสารของรัฐบาลญี่ปุ่นยังเรียกร้องให้เพิ่มความพยายามในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคนี้ให้มากขึ้น.
ที่มาของข่าว :
http://www.thairath.co.th/content/oversea/350695
ญี่ปุ่นไฟเขียว ยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวไทย-มาเลย์แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2556 ว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร โดยครม.มีมติ ให้ยกเว้นการขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและมาเลเซียเป็นการชั่วคราว และอนุญาตให้ออกวีซ่าประเภทเข้า-ออกหลายครั้ง แก่นักท่องเที่ยวชาวฟิลิปปินส์และเวียดนามด้วย โดยจะเริ่มในช่วงฤดูร้อนนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นออกเอกสารรายงานด้านการท่องเที่ยวปี 2013 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระบุว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็น 2 ล้านคนภายในปี 2016 โดยมาตรการยกเว้นการขอวีซ่า เป็นหนึ่งในความพยายามนั้น และเป็นส่วนหนึ่งในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2012 ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 8.37 ล้านคน กว่า 65% เป็นนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้, จีน, ไต้หวัน และฮ่องกง และมีเพียง 780,000 คน หรือ 9.3% เท่านั้นที่มาจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอกสารของรัฐบาลญี่ปุ่นยังเรียกร้องให้เพิ่มความพยายามในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคนี้ให้มากขึ้น.
ที่มาของข่าว : http://www.thairath.co.th/content/oversea/350695