ขอถามเรื่องคีโมเพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 2 ค่ะ... รบกวนด้วยนะคะ

กระทู้คำถาม
ขอเล่าเรื่องแม่ของเราก่อนนะคะ แม่อายุ 71 ปีค่ะ  เมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา แม่ปวดท้องบ่อยๆ และทานข้าวไม่ค่อยได้ ไปตรวจที่คลินิก 2 แห่ง แต่หมอบอกว่า แม่มีลมในช่องท้องเยอะ อาจจะเป็นโรคกระเพาะให้ยามาทาน แต่อาการก็ไม่ได้หายไป จนเมื่อปลายเดือนมีอาการปวดท้องด้านขวาอย่างรุนแรง และเบื่ออาหารมาก มีอาการท้องผูกไม่ขับถ่ายประมาณ 10 กว่าวัน เลยต้องส่งโรงพยาบาลค่ะ หลังจากคุณหมอวิเคราะห์ ทุกขั้นตอน พบว่าลำไส้อุดตัน วิธีเดียวที่จะรักษาให้หายคือผ่าตัด ตอนนั้นเราและพี่สาวกังวลใจมาก เพราะกลัวว่าการผ่าตัดจะเป็นอย่างไร แม่จะทนกับความเจ็บปวดหรือไม่ สุดท้ายให้แม่ตัดสินใจ แม่บอกว่าขอผ่าตัด ช่วงทุ่มครึ่งเข้าห้องผ่าตัด กว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปห้าทุ่มกว่า เมื่อผ่าตัดเสร็จคุณหมอได้มาบอกกับญาติว่าเจอปัญหาและได้ตัดเนื้องอกในลำไส้ออกหมด แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว เราคิดเลยว่าคงไม่ใช่ลำไส้อุดตันหรือเนื้องอกแล้ว หลังจากนั้น 3 วัน คุณหมอเฉพาะทางก็แจ้งให้ทราบว่า แม่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระยะที่ 2 จะแจ้งให้แม่ทราบไหม? จะให้คีโมไหม? เพราะแม่อายุมากแล้ว

ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้แจ้งให้แม่ทราบ เพราะไม่อยากให้เครียด และตอนนี้ยังพักฟื้นจากการผ่าตัดอยู่
ส่วนทางลูกๆ มึนตึบ... ต่างคนต่างแอบร้องไห้กันไปตามแต่จะสะดวก

ตามที่คุณหมอแจ้งมา... ถ้าไม่รับคีโมคุณแม่อาจจะอยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี แต่ถ้ารักษาด้วยคีโมและคุณแม่รับไหวจะสามารถยืดระยะเวลาได้ประมาณ 2 ปี

เรามีพี่น้องแค่ 2 คนนะคะ... พี่สาวเราไม่อยากให้คุณแม่รับเคมีบำบัดและขอให้ปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน อยากให้แม่รับทราบเพียงแค่ว่า เป็นเนื้องอก..ในลำไส้  เพราะไม่อยากให้แม่เสียกำลังใจและกล้วว่าแม่ต้องทุกข์ทรมานกับการรักษา และกลัวว่าร่างกายแม่จะรับไม่ไหว อยากให้ดูแลรักษาแบบประคับประคองไปตามอาการ แล้วใช้เวลาอีกที่เหลืออยู่ เห็นท่านมีความสุข กินได้ ยิ้มได้ เพื่อจะได้จากไปอย่างสงบดีกว่า  

สำหรับเรา... เราบอกหมอว่าเราเลือกจะบอกแม่ เพราะการรักษา คนไข้ย่อมทราบว่าเป็นโรคอะไร ให้คุณแม่เป็นผู้ตัดสินใจรักษาค่ะ ถ้าเลือกรักษาแล้ว ก็สู้เต็มที่ค่ะถ้ามีกำลัง ชีวิตแม่เราทั้งคน สุดท้ายเป็นยังไงก็รับผลได้ค่ะ เพราะสู้เต็มที่แล้ว แต่ถ้าให้อยู่เฉยๆ ทำใจไม่ได้ค่ะ ส่วนตัวคิดว่าคนเป็นมะเร็งยังไงพอใกล้ถึงวาระสุดท้ายก็คงเจ็บปวดกันทั้งนั้น คงยากที่จะจากไปอย่าสงบ

อยากได้คำแนะนำจากทุกท่านที่เคยเห็นช่วงชีวิตสุดท้ายของคนที่เป็นมะเร็ง ช่วยแชร์ความรู้และประสบการณ์ด้วยนะคะ จะรักษาอย่างไร ปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อจะได้นำมาปรับใช้ดูแลแม่ค่ะ  

1. คิดว่าสมควรแจ้งความจริงแก่ผู้ป่วยหรือไม่ อย่างไร
2. ถ้าจะรักษาด้วยคีโมจะเกิดผลข้างเคียงอะไรบ้างคะ แล้วทรมานมากไหม เราไม่ทราบเลยเพราะที่บ้านยังไม่เคยมีใครเป็นมะเร็งมาก่อน
3. มีมากไหมคะที่จากไปอย่างสงบ และอย่างอาการแย่เลยเป็นยังไงบ้างคะ  

ขอบคุณทุกๆ ท่านค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อย่างแรกนะครับกลับไปเคลียร์ให้ดีก่อนว่าระยะที่ 2 จริงมั้ย และ คุณคุยกับหมออะไรมา เขารู้เรื่องมะเร็งดีแค่ไหน?

ถ้าเป็นลำไส้ใหญ่ระยะที่ 2 จริงในอดีต(คือช่วงปี 1970) คนไข้ราวๆครึ่งหนึ่งจะอยู่ได้นาน 2-3 ปี โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม(ให้คีโม)

ในปี 1990 คนไข้ระยะที่ 2 จะมีโอกาสอยู่ได้ที่ 5 ปีข้างหน้าราวๆ 70% หากไม่ให้คีโม แต่จะเพิ่มเป็น 80% หากให้คีโม ผมพูดถึง 5 ปีนะครับดังนั้นจริงๆแล้ว 1-2 ปีแรกโอกาสเสียชีวิตต่ำมาก

ในแง่ประโยชน์การรักษาด้วยคีโมแม้จะดูว่าไม่ได้ดีมากคือเพิ่มจาก 70% เป็น 80% แต่ในคนไข้ระยะที่ 2 ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงสูงเช่นมาด้วยอาการลำไส้อุดตันนั้นโอกาสกลับมาเป้นซ้ำจะสูงกว่านี้เล็กน้อยประโยชน์ของคีโมจะยิ่งมากขึ้น


มาถึงคำถามที่ถาม
1. คิดว่าสมควรแจ้งความจริงแก่ผู้ป่วยหรือไม่ อย่างไร
แล้วแต่ครับลองหากข้อมูลจากหมอใหม่ดีๆ ลองขอคุยกับหมอเคมีบไบัดด้วยก็ได้ว่ามีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับตัวโรค ก่อนจะเอามาคิดใหม่อีกที

2. ถ้าจะรักษาด้วยคีโมจะเกิดผลข้างเคียงอะไรบ้างคะ แล้วทรมานมากไหม เราไม่ทราบเลยเพราะที่บ้านยังไม่เคยมีใครเป็นมะเร็งมาก่อน
อายุเท่านี้ถ้าเดินได้ช่วยเหลือตัวเองได้โดยมากจะไม่มีปัญหาครับ คนไข้มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนใหญ่ที่รักษาอยู่ด้วยเคมีบำบัดก็ราวๆนี้ครับอายุมากสุดที่ให้ยาอยู่ก็คือ 82 ปีครับ ส่วนตัวเองถ้าเกิน 90 เรื่องผลข้างเคียงขอให้คุยกับหมอที่จะให้ยาครับ เพราะอาจจะไม่จำเป็นต้องให้ยาก็ได้ โดยมากตัวยาหลักคือ 5FU จะมีผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือท้องเสียถ่ายเหลว ร้อนในแผลในปาก ผมไม่ค่อยร่วง ไม่ค่อยคลื่นไส้อาเจียน ไม่ปวดไม่เมื่อย ฯลฯ ความรุนแรงมักจะไม่มากครับ ราวๆ 5-10% ของคนไข้ที่จำเป็นต้องลดขนาดยาเพราะผลข้างเคียง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่