มีเรื่องโจ๊กเล่ากันมาขำๆว่า “ตอนที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาใหม่ๆ อวัยวะต่างๆในร่างกายก็ทะเลาะกันว่า ใครควรจะเป็นหัวหน้า สมองก็บอกว่า “ฉันควรจะเป็นหัวหน้าเพราะฉันคิดและตัดสินใจต่างๆนานา” เท้าก็เถียงว่า “ฉันต่างหากที่ควรเป็นหัวหน้าเพราะฉันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ที่ต้องพาพวกแกทั้งหลายเคลื่อนไปยังจุดหมาย” มือก็สวนขึ้นทันควัน “ฉันต่างหากที่ควรเป็นหัวหน้าเพราะฉันทำงานหาเงินมา ทำให้พวกแกทั้งหลายมีชีวิตอยู่ได้” แล้วอวัยวะทั่วทั้งร่างกายต่างก็ยกเหตุผลที่ว่าตัวเองควรเป็นหัวหน้า จนมาถึง ระบบขับถ่าย ที่อยากจะคลี่คลายปัญหาและอยากให้ทุกอวัยวะกลับมาทำงานประสานกันเหมือนเดิม แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยเหตุผลของตัวเอง ทุกอวัยวะก็ขำกลิ้งแล้วพร้อมใจกันบอกว่า “ไม่มีทาง พวกเราไม่มีวันให้ระบบขับถ่ายเป็นหัวหน้าแน่นอน” เมื่อเป็นดังนั้น “ระบบขับถ่ายจึงสไตร์คไม่ยอมทำงาน เพียงไม่นานอวัยวะต่างๆก็พากันปั่นป่วนไปหมด สมองที่ว่าแน่ๆถึงกับสลบเหมือด ระบบอื่นๆในร่างกายก็พากันรวน ท้ายสุดจึงต้องพร้อมใจกันขอโทษระบบขับถ่าย และร่วมใจกันกลับมาทำงานตามหน้าที่ของตน ร่างกายก็กลับมาดีดังเดิม อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงขมวดคิ้วสงสัยว่าเรื่องของลำไส้มาเกี่ยวข้องกับความสวยได้อย่างไร คุณคงคิดไม่ถึงใช่ไหมว่า ระบบการย่อยและการดูดซึมอาหารมีส่วนสำคัญมหาศาลกับร่างกายมนุษย์ ทางการแพทย์ยกให้เป็นอันดับสองรองจากสมองหรือเป็นสมองส่วนที่สองเลยทีเดียว เพราะถ้าร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารเพื่อนำไปใช้ได้ และไม่สามารถขับถ่ายเพื่อนำสารพิษหรือของเสียออกจากร่างกายได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะสมอง ร่างกายอาจเสียสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง นำคุณไปสู่อาการต่างๆของระบบประสาท เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล ฉุนเฉียวง่าย หรือมีพฤติกรรมสุดเพี้ยน และนั่นหมายความว่าคุณอาจขาดสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิวของคุณเช่นกัน เมื่อเซลล์ผิวขาดสารอาหารไปเลี้ยงก็จะทำให้เมตาบอลิซึมของเซลล์ไม่ดี เซลล์ของคุณก็จะเสื่อมก่อนวัย เพราะเซลล์ของคุณไม่มีพลังงาน ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะไปซ่อมแซมผิวเมื่อเวลาผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด ความเครียด หรือการรับประทานอาหารที่ไม่ดี เป็นต้น
เท่านั้นยังไม่พอ คุณรู้หรือไม่ว่าไส้เป็นพิษ ยังสามารถนำไปสู่ผิวที่แพ้ง่าย อ่อนแอ ผิวพรรณที่ดูบวมฉุ ไม่เต่งตึง ไม่มีน้ำมีนวล แห้งกร้าน หรืออาจทำให้คุณเป็นผื่นเรื้อรัง หรือสิวอักเสบเรื้อรัง และภาวะแก่ก่อนวัยได้ สาเหตุเกิดเนื่องจากภาวะที่เราเรียกว่าภูมิแพ้อาหารหรือร่างกายมีความไวต่ออาหารที่รับประทานเป็นประจำจากภาวะไส้รั่ว เพราะเยื่อบุภายในของผนังลำไส้มีรูรั่วเล็กๆ ทำให้อาหารที่เรารับประทานเข้าไป ไม่ทันได้ถูกดูดซึมและย่อยเป็นสารอาหารโมเลกุลเล็กๆ แต่อาหารเหล่านั้นกลับถูกดูดซึมเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้ถูกย่อยสลายอย่างสมบูรณ์เข้าไปในกระแสเลือด เช่น ถ้าเราบริโภคไก่ แทนที่ร่างกายจะย่อยสลายโปรตีนจากเนื้อไก่ให้เป็นโมเลกุลของกรดอะมิโนขนาดเล็กที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ กลายเป็นว่าร่างกายกลับดูดซึมไก่เข้าไปในกระแสเลือด เห็นทีเจ้าบ้านนั่นคือร่างกายซึ่งไม่เคยรู้จักเจ้าไก่มาก่อน เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมานั้นรู้จักแต่ไก่ที่ถูกย่อยเป็นโมเลกุลกรดอะมิโนขนาดเล็กๆแล้วเท่านั้น จึงเกิดปฏิกิริยาต่อต้านไก่ที่คุณรับประทานเป็นประจำนั่นเอง เมื่อคุณรับประทานไก่ คุณอาจเกิดอาการผิดปกติทั้งทางด้านผิวหนังหรือการทำงานอื่นของร่างกายโดยที่คุณอาจไม่ทันสังเกต เนื่องจากอาการไม่ได้เกิดในทันทีทันใด สามารถใช้เวลาได้นานเป็นชั่วโมงหรืออาจนานเป็นอาทิตย์กว่าคุณจะรู้ตัวว่ามาจากไก่จานโปรดของคุณ สาเหตุหนึ่งของการเกิดไส้รั่วนั้นเนื่องมาจากการดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ การรับประทานยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้เมื่อเวลาเจ็บป่วยไม่สบายหรือใช้ในการรักษาสิว นอกจากนี้เจ้าความเครียดก็เป็นตัวการสำคัญ นานๆเข้าภูมิต้านทานของเยื่อบุลำไส้ที่เสียไปก็สามารถจะก่อให้เกิดโรคภายในได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว ส่วนการเปลี่ยนแปลงบริเวณผิวหนังที่คุณเห็นนั้นเป็นเพียงแค่สิ่งที่คุณเห็นจากภายนอก เพราะผิวหนังเป็นกระจกของสุขภาพภายในร่างกาย เมื่อร่างกายภายในทำงานไม่ดี ก็แสดงออกให้เห็นภายนอกผ่านทางผิวหนัง ขณะที่ร่างกายอาจทำงานปั่นป่วนโดยที่คุณไม่มีวันรู้ว่ามันมาจากอาหารที่คุณรับประทานนั่นเอง เช่น คุณอาจจะมีอาการมีน้ำมูก คัดจมูก หรือเป็นไซนัสตลอดปี มีลมพิษเรื้อรัง มีอาการนอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า วิตกกังวลเกินเหตุ ปวดข้อ ข้ออักเสบ ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลำไส้แปรปรวน มีกลิ่นปาก ความจำไม่ดี ไม่มีสมาธิ เป็นต้น นี่ยังไม่นับรวมถึงความเสื่อมภายในเซลล์ที่ท้ายที่สุดอาจนำคุณไปสู่ภาวะของเนื้องงอกหรือมะเร็งในที่สุด
หมอแนะนำวิธีปฏิบัติตัวทำสวย ผ่านทางลำไส้ของคุณดังนี้ค่ะ
1. ทำลำไส้ของคุณให้สะอาด วิธีง่ายๆ คือ อย่ารับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารแปรรูป เนื้อสัตว์ อาหารมัน อาหารทอด อาหารรสจัด นมและผลิตภัณฑ์ของนมทั้งหลาย ควรรับประทานแต่อาหารที่มาจากธรรมชาติ เช่น พืช ผัก ผลไม้ที่ใหม่สด ไม่มีสารพิษ ไม่มียาฆ่าแมลง ไม่รับประทานอาหารกระป๋อง อาหารหมัก อาหารดอง แหนม ไส้กรอก หมูยอ ควรรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและไม่รบกวนการย่อยและดูดซึม และอย่าลืมเคี้ยวอย่างน้อย 30 ครั้งก่อนกลืน เพื่อกระตุ้นให้เกิดมีการหลั่งเอนไซม์มาย่อยอาหารจานโปรดของคุณ
2. กำจัดของเสียเก่าๆออกจากร่างกาย ง่ายสุดคือการขับถ่ายทุกวัน เพื่อกำจัดของเสียออกทางลำไส้ ออกกำลังกายให้สารพิษถูกขับออกทางเหงื่อ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ให้ไตได้กำจัดของเสียออกจากระบบให้มากพอ รักษาตับของคุณให้ดี ไม่รับประทานยาโดยไม่จำเป็น ไม่รับประทานอาหารที่เก็บทิ้งไว้จนขึ้นราหรือค้างคืน หรือไม่รับประทานอาหารที่อาจมีสารพิษตกค้างเจือปน
3. เพิ่มภูมิต้านทานร่างกายของคุณให้แข็งแรง คุณควรจะรับประทานสารอาหารที่ช่วยลดการเกิดสารอนุมูลอิสระ จำง่ายๆคือผักสีเขียวและผลไม้หลากหลายสี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กำจัดความเครียดโดยการหัวเราะ ทำจิตใจให้แจ่มใส ทำสมาธิเช้าและก่อนนอนได้ยิ่งดี อะไรที่ปล่อยวางได้ก็ปล่อยไปเถอะค่ะ ถ้าอยากจะมีผิวสวย อย่าไปคิดมาก อย่าไปคิดล่วงหน้า ทำจิตใจให้สบาย ล้างจิตของคุณให้สะอาดผ่องใส
4. ถ้าเป็นมากจริงๆ คุณอาจจะต้องการอาหารเสริมเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานของลำไส้ คุณควรปรึกษาแพทย์และตรวจให้เป็นเรื่องเป็นราว แพทย์อาจจะให้คุณตรวจอุจจาระ เพื่อดูเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ หรือตรวจเลือดเพื่อดูว่าคุณแพ้อาหารชนิดใดเพื่อจะได้หลีกเลี่ยงได้ถูกต้องตามประเภทของอาหาร
และนั่นคือวิธีการดูแลไส้ไม่ให้เป็นพิษ และคุณก็จะมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใส อย่ามัวแต่ใส่ใจประทินผิว แต่เพียงภายนอก หลงมองเพียงแต่ว่าผิวหนังเป็นส่วนที่ปกคลุมและให้เพียงแต่ความสวยงาม จนละเลยความสำคัญของผิวหนังที่ทำหน้าที่ที่มีคุณประโยชน์ต่อชีวิตของคุณ คุณควรเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพผิว เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ไม่มีวันสาย ให้คุณได้เผยผิวใสๆจากคุณภาพภายในที่แท้จริง จากผิวที่แข็งแรงสมบูรณ์ของคุณเอง โดยไม่ต้องโบ๊ะ ไม่ต้องแต่ง ไม่ต้องเสริม หรือทำอะไรให้เจ็บตัว เคล็ดลับสูตรสวยธรรมชาติแบบยั่งยืนแบบนี้ หมอให้เลย ไม่หวง ไม่สงวนลิขสิทธิ์ เพราะอยากให้ทุกคนสวย สุขภาพดีกันถ้วนหน้าค่ะ
ผิวไม่ใสเพราะไส้ทำพิษ
มีเรื่องโจ๊กเล่ากันมาขำๆว่า “ตอนที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาใหม่ๆ อวัยวะต่างๆในร่างกายก็ทะเลาะกันว่า ใครควรจะเป็นหัวหน้า สมองก็บอกว่า “ฉันควรจะเป็นหัวหน้าเพราะฉันคิดและตัดสินใจต่างๆนานา” เท้าก็เถียงว่า “ฉันต่างหากที่ควรเป็นหัวหน้าเพราะฉันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ที่ต้องพาพวกแกทั้งหลายเคลื่อนไปยังจุดหมาย” มือก็สวนขึ้นทันควัน “ฉันต่างหากที่ควรเป็นหัวหน้าเพราะฉันทำงานหาเงินมา ทำให้พวกแกทั้งหลายมีชีวิตอยู่ได้” แล้วอวัยวะทั่วทั้งร่างกายต่างก็ยกเหตุผลที่ว่าตัวเองควรเป็นหัวหน้า จนมาถึง ระบบขับถ่าย ที่อยากจะคลี่คลายปัญหาและอยากให้ทุกอวัยวะกลับมาทำงานประสานกันเหมือนเดิม แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยเหตุผลของตัวเอง ทุกอวัยวะก็ขำกลิ้งแล้วพร้อมใจกันบอกว่า “ไม่มีทาง พวกเราไม่มีวันให้ระบบขับถ่ายเป็นหัวหน้าแน่นอน” เมื่อเป็นดังนั้น “ระบบขับถ่ายจึงสไตร์คไม่ยอมทำงาน เพียงไม่นานอวัยวะต่างๆก็พากันปั่นป่วนไปหมด สมองที่ว่าแน่ๆถึงกับสลบเหมือด ระบบอื่นๆในร่างกายก็พากันรวน ท้ายสุดจึงต้องพร้อมใจกันขอโทษระบบขับถ่าย และร่วมใจกันกลับมาทำงานตามหน้าที่ของตน ร่างกายก็กลับมาดีดังเดิม อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงขมวดคิ้วสงสัยว่าเรื่องของลำไส้มาเกี่ยวข้องกับความสวยได้อย่างไร คุณคงคิดไม่ถึงใช่ไหมว่า ระบบการย่อยและการดูดซึมอาหารมีส่วนสำคัญมหาศาลกับร่างกายมนุษย์ ทางการแพทย์ยกให้เป็นอันดับสองรองจากสมองหรือเป็นสมองส่วนที่สองเลยทีเดียว เพราะถ้าร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารเพื่อนำไปใช้ได้ และไม่สามารถขับถ่ายเพื่อนำสารพิษหรือของเสียออกจากร่างกายได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะสมอง ร่างกายอาจเสียสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง นำคุณไปสู่อาการต่างๆของระบบประสาท เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล ฉุนเฉียวง่าย หรือมีพฤติกรรมสุดเพี้ยน และนั่นหมายความว่าคุณอาจขาดสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิวของคุณเช่นกัน เมื่อเซลล์ผิวขาดสารอาหารไปเลี้ยงก็จะทำให้เมตาบอลิซึมของเซลล์ไม่ดี เซลล์ของคุณก็จะเสื่อมก่อนวัย เพราะเซลล์ของคุณไม่มีพลังงาน ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะไปซ่อมแซมผิวเมื่อเวลาผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด ความเครียด หรือการรับประทานอาหารที่ไม่ดี เป็นต้น
เท่านั้นยังไม่พอ คุณรู้หรือไม่ว่าไส้เป็นพิษ ยังสามารถนำไปสู่ผิวที่แพ้ง่าย อ่อนแอ ผิวพรรณที่ดูบวมฉุ ไม่เต่งตึง ไม่มีน้ำมีนวล แห้งกร้าน หรืออาจทำให้คุณเป็นผื่นเรื้อรัง หรือสิวอักเสบเรื้อรัง และภาวะแก่ก่อนวัยได้ สาเหตุเกิดเนื่องจากภาวะที่เราเรียกว่าภูมิแพ้อาหารหรือร่างกายมีความไวต่ออาหารที่รับประทานเป็นประจำจากภาวะไส้รั่ว เพราะเยื่อบุภายในของผนังลำไส้มีรูรั่วเล็กๆ ทำให้อาหารที่เรารับประทานเข้าไป ไม่ทันได้ถูกดูดซึมและย่อยเป็นสารอาหารโมเลกุลเล็กๆ แต่อาหารเหล่านั้นกลับถูกดูดซึมเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้ถูกย่อยสลายอย่างสมบูรณ์เข้าไปในกระแสเลือด เช่น ถ้าเราบริโภคไก่ แทนที่ร่างกายจะย่อยสลายโปรตีนจากเนื้อไก่ให้เป็นโมเลกุลของกรดอะมิโนขนาดเล็กที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ กลายเป็นว่าร่างกายกลับดูดซึมไก่เข้าไปในกระแสเลือด เห็นทีเจ้าบ้านนั่นคือร่างกายซึ่งไม่เคยรู้จักเจ้าไก่มาก่อน เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมานั้นรู้จักแต่ไก่ที่ถูกย่อยเป็นโมเลกุลกรดอะมิโนขนาดเล็กๆแล้วเท่านั้น จึงเกิดปฏิกิริยาต่อต้านไก่ที่คุณรับประทานเป็นประจำนั่นเอง เมื่อคุณรับประทานไก่ คุณอาจเกิดอาการผิดปกติทั้งทางด้านผิวหนังหรือการทำงานอื่นของร่างกายโดยที่คุณอาจไม่ทันสังเกต เนื่องจากอาการไม่ได้เกิดในทันทีทันใด สามารถใช้เวลาได้นานเป็นชั่วโมงหรืออาจนานเป็นอาทิตย์กว่าคุณจะรู้ตัวว่ามาจากไก่จานโปรดของคุณ สาเหตุหนึ่งของการเกิดไส้รั่วนั้นเนื่องมาจากการดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ การรับประทานยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้เมื่อเวลาเจ็บป่วยไม่สบายหรือใช้ในการรักษาสิว นอกจากนี้เจ้าความเครียดก็เป็นตัวการสำคัญ นานๆเข้าภูมิต้านทานของเยื่อบุลำไส้ที่เสียไปก็สามารถจะก่อให้เกิดโรคภายในได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว ส่วนการเปลี่ยนแปลงบริเวณผิวหนังที่คุณเห็นนั้นเป็นเพียงแค่สิ่งที่คุณเห็นจากภายนอก เพราะผิวหนังเป็นกระจกของสุขภาพภายในร่างกาย เมื่อร่างกายภายในทำงานไม่ดี ก็แสดงออกให้เห็นภายนอกผ่านทางผิวหนัง ขณะที่ร่างกายอาจทำงานปั่นป่วนโดยที่คุณไม่มีวันรู้ว่ามันมาจากอาหารที่คุณรับประทานนั่นเอง เช่น คุณอาจจะมีอาการมีน้ำมูก คัดจมูก หรือเป็นไซนัสตลอดปี มีลมพิษเรื้อรัง มีอาการนอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า วิตกกังวลเกินเหตุ ปวดข้อ ข้ออักเสบ ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลำไส้แปรปรวน มีกลิ่นปาก ความจำไม่ดี ไม่มีสมาธิ เป็นต้น นี่ยังไม่นับรวมถึงความเสื่อมภายในเซลล์ที่ท้ายที่สุดอาจนำคุณไปสู่ภาวะของเนื้องงอกหรือมะเร็งในที่สุด
หมอแนะนำวิธีปฏิบัติตัวทำสวย ผ่านทางลำไส้ของคุณดังนี้ค่ะ
1. ทำลำไส้ของคุณให้สะอาด วิธีง่ายๆ คือ อย่ารับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารแปรรูป เนื้อสัตว์ อาหารมัน อาหารทอด อาหารรสจัด นมและผลิตภัณฑ์ของนมทั้งหลาย ควรรับประทานแต่อาหารที่มาจากธรรมชาติ เช่น พืช ผัก ผลไม้ที่ใหม่สด ไม่มีสารพิษ ไม่มียาฆ่าแมลง ไม่รับประทานอาหารกระป๋อง อาหารหมัก อาหารดอง แหนม ไส้กรอก หมูยอ ควรรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและไม่รบกวนการย่อยและดูดซึม และอย่าลืมเคี้ยวอย่างน้อย 30 ครั้งก่อนกลืน เพื่อกระตุ้นให้เกิดมีการหลั่งเอนไซม์มาย่อยอาหารจานโปรดของคุณ
2. กำจัดของเสียเก่าๆออกจากร่างกาย ง่ายสุดคือการขับถ่ายทุกวัน เพื่อกำจัดของเสียออกทางลำไส้ ออกกำลังกายให้สารพิษถูกขับออกทางเหงื่อ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ให้ไตได้กำจัดของเสียออกจากระบบให้มากพอ รักษาตับของคุณให้ดี ไม่รับประทานยาโดยไม่จำเป็น ไม่รับประทานอาหารที่เก็บทิ้งไว้จนขึ้นราหรือค้างคืน หรือไม่รับประทานอาหารที่อาจมีสารพิษตกค้างเจือปน
3. เพิ่มภูมิต้านทานร่างกายของคุณให้แข็งแรง คุณควรจะรับประทานสารอาหารที่ช่วยลดการเกิดสารอนุมูลอิสระ จำง่ายๆคือผักสีเขียวและผลไม้หลากหลายสี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กำจัดความเครียดโดยการหัวเราะ ทำจิตใจให้แจ่มใส ทำสมาธิเช้าและก่อนนอนได้ยิ่งดี อะไรที่ปล่อยวางได้ก็ปล่อยไปเถอะค่ะ ถ้าอยากจะมีผิวสวย อย่าไปคิดมาก อย่าไปคิดล่วงหน้า ทำจิตใจให้สบาย ล้างจิตของคุณให้สะอาดผ่องใส
4. ถ้าเป็นมากจริงๆ คุณอาจจะต้องการอาหารเสริมเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานของลำไส้ คุณควรปรึกษาแพทย์และตรวจให้เป็นเรื่องเป็นราว แพทย์อาจจะให้คุณตรวจอุจจาระ เพื่อดูเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ หรือตรวจเลือดเพื่อดูว่าคุณแพ้อาหารชนิดใดเพื่อจะได้หลีกเลี่ยงได้ถูกต้องตามประเภทของอาหาร
และนั่นคือวิธีการดูแลไส้ไม่ให้เป็นพิษ และคุณก็จะมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใส อย่ามัวแต่ใส่ใจประทินผิว แต่เพียงภายนอก หลงมองเพียงแต่ว่าผิวหนังเป็นส่วนที่ปกคลุมและให้เพียงแต่ความสวยงาม จนละเลยความสำคัญของผิวหนังที่ทำหน้าที่ที่มีคุณประโยชน์ต่อชีวิตของคุณ คุณควรเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพผิว เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ไม่มีวันสาย ให้คุณได้เผยผิวใสๆจากคุณภาพภายในที่แท้จริง จากผิวที่แข็งแรงสมบูรณ์ของคุณเอง โดยไม่ต้องโบ๊ะ ไม่ต้องแต่ง ไม่ต้องเสริม หรือทำอะไรให้เจ็บตัว เคล็ดลับสูตรสวยธรรมชาติแบบยั่งยืนแบบนี้ หมอให้เลย ไม่หวง ไม่สงวนลิขสิทธิ์ เพราะอยากให้ทุกคนสวย สุขภาพดีกันถ้วนหน้าค่ะ