บทนำ - ตอนล่าสุด
http://my.dek-d.com/thezircon/writer/view.php?id=893020
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
23
“ครับ" จิรายุกดรับโทรศัพท์ซึ่งวางไว้บนคอนโซลหน้ารถโดยไม่ได้ดูชื่อผู้โทรเข้า มือบังคับพวงมาลัยให้เลี้ยวรถออกจากรั้วโรงงานไปพร้อมกัน
"พูดซะสุภาพ เผื่อว่าจะเป็นเกดหรือไง" ลอร่าค่อนแคะ
ชายหนุ่มเบ้ปากเมื่อจำเสียงสำเนียงไทยชัดแจ๋วของสาวลูกครึ่งได้ ถ้ารู้ก่อนหน้าเขาคงไม่พูดดีกับเด็กกวนประสาทพรรค์นี้แน่ และคงไม่เสียเวลาเสวนาด้วยสักนาทีเดียวหากคนรักของเขาไม่ได้อยู่กับเจ้าหล่อนล่ะก็
"นี่อยู่ไหนกัน เกดให้โทรมาล่ะสิ"
"หลงตัวเองไปหน่อยป่ะ" หญิงสาวย้อนด้วยน้ำเสียงที่จงใจให้ยียวนที่สุด "เกดไม่ได้บอกให้ฉันโทรหรอก แต่ฉันหวังดี กลัวนายจะห่วงว่าที่เจ้าสาวเลยโทรมาหา"
จิรายุชักหงุดหงิด สมองเขายังไม่หายเครียดเขม็งจากงาน ต้องมาเจอยัยเด็กแสบพูดจาเลี้ยวลดวกวนให้มึนงงยิ่งขึ้นไปอีก
"ถ้าจะมาพูดจากวนประสาทล่ะก็ แค่นี้นะ ฉันไม่มีอารมณ์ต่อปากต่อคำกับเธอ ฉันจะโทรหาเกดเอง"
ทว่าไม่ทันที่มือหนาจะกดตัดสาย เสียงแจ๋วๆ ก็แทรกมาก่อนอย่างเร่งร้อน
"ไม่ต้องโทรร้อก พี่ปอน่ะดูแลเกดดีอยู่แล้ว ดูแลมาทั้งชีวิต ดีกว่านายเสียด้วยซ้ำ"
ลอร่าเป็นฝ่ายวางสายหลังจากนั้นด้วยความสาแก่ใจที่ได้ปั่นป่วนเล็กๆ น้อยๆ หารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายไม่หยุดคิดเพียงเสียงสัญญาณขาดหายเท่านั้น แต่จิรายุคิดระแวงไปไกลอย่างคนรู้ความในใจเพื่อนดี
เขากดหาหมายเลขเกตน์สิรีอย่างร้อนใจ สายตามองหน้าจอสีสลับกับถนนหนทางข้างหน้าซึ่งความมืดค่อยแผ่ลงมาปกคลุมโดยลืมคำนึงถึงความปลอดภัย เสียงรอสายดังอยู่พักหนึ่งกว่าคนปลายทางจะกดรับ
"เกดอยู่ไหนคะ พี่เพิ่งเคลียร์งานเสร็จ ให้ไปรับไหม" เขาสงบใจถามเป็นปกติ
"เกดออกมาแล้วค่ะ กำลังกลับ พี่แบงค์กลับเข้าบ้านเถอะค่ะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" เกตน์สิรีตอบอย่างอาทร
หากนั่นไม่ช่วยคลายความระแวงของชายหนุ่มสักนิด ขณะเดียวกันก็แสลงใจคนที่ต้องตกอยู่กลางความรักซึ่งเขาไม่ได้เป็นเจ้าของ ปีแสงข่มใจไม่ให้วอกแวกออกนอกทาง
"แล้วกลับยังไง ใครไปส่ง"
จิรายุไม่ได้คิดเองว่าหญิงสาวเงียบไปก่อนตอบ เกตน์สิรีคิดหาคำตอบที่จะดีต่อทุกคน
"ลอร่าน่ะค่ะ" เธอปดเพื่อให้คนรักสบายใจ รวมทั้งเขาจะได้ไม่ต่อว่าเธอรบกวนปีแสงอย่างที่เคยติง
"ขอสายลอร่าหน่อยสิ" เขาใกล้ระเบิดเต็มที
"เอ่อ ลอร่าปฏิเสธ..." เธอเลือกใช้คำที่กันการรับรู้ของพี่ชายคนข้างๆ
จิรายุกำพวงมาลัยแน่นเมื่อมั่นใจว่าคนรักของตนกำลังโกหก คนหัวอ่อน ซื่อตรงอย่างเจ้าหล่อนกำลังโกหกเพราะเพื่อนเขาอย่างนั้นหรือ ทำไม!?
ชายหนุ่มกดตัดสาย ไม่อยากทนฟังคำโป้ปดอีกแม้แต่คำเดียว เขากลืนน้ำขมๆ ในคอ เท้าเหยียบคันเร่งน้ำมันให้แรงเท่าอารมณ์ รถสปอร์ตหรูพุ่งโจนทะยานไปเบื้องหน้า และเมื่อสัญญาณไฟเคลื่อนมาสีตรงกลาง เขาก็เร่งความเร็วขึ้นอีกหวังฝ่าผ่าน แต่แล้วรถจักรยานยนต์จากแยกกลับรถก็เลี้ยวมา ชายหนุ่มเหยียบเบรกจมเท้า หักหลบไปหยุดยังไหล่ทางได้หวุดหวิด
"เวรเอ๊ย!" จิรายุสบถพร้อมตบแตรลั่น
เขาสูดหายใจลึกสงบสติอารมณ์ ใจหล่นไปยังตาตุ่มหลังรอดจากการเกิดอุบัติเหตุ
เสียงโทรศัพท์ทั้งร้องและสั่นบนคอนโซลหน้าเรียกสติเขากลับมา รถซึ่งเริ่มเลี้ยวมาแล่นผ่านกระจกข้างไปคันต่อคัน จิรายุกดรับก่อนเข้าเกียร์ให้รถเคลื่อนไม่กีดขวางการจราจร
"ฮัลโหล" น้ำเสียงที่เอ่ยฟังดูเหนื่อยหน่าย แล้วเขาก็ต้องนิ่วหน้าประหลาดใจกับเสียงปลายสายไม่คุ้นเคย
"ตายจริง คุณแบงค์หรือคะ สงสัยสาจะโทรผิด จะโทรหาเพื่อนอีกคนน่ะค่ะ"
สาไหนวะ... ป่วยการจะคิดนอกจากรับคำส่งๆ ไป เขาอยากวางสายหากอีกฝ่ายยังคงเจื้อยแจ้วต่อด้วยน้ำเสียงแสดงความเห็นใจ
"เสียงคุณไม่ดีเลย มีอะไรให้สาช่วยไหมคะ" สาวิตรีมองเห็นช่องทางดำเนินตามแผนการง่ายกว่าที่คิด เมื่ออีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์อ่อนไหว "เอาอย่างนี้สิคะ วันนี้สาจัดปาร์ตี้วันเกิดที่คอนโดฯ คุณจำได้ไหมน้า คอนโดฯ ชั้นบนสุดแถวสุขุมวิท”
“อ้อ” จิรายุถึงบางอ้อ เขาจำเหตุการณ์คืนนั้นได้แม่นยำกว่าชื่อเจ้าหล่อนเสียอีก ผู้หญิงแก่ที่ทำตัวสาวสะพรั่ง แล้วต้องยอมรับว่าเธอทำได้ดีทีเดียว
ราวกับสมองหลั่งสารเอ็นโดรฟีนเพียงย้อนนึกกลับไป ความเหนื่อย โมโห หงุดหงิด เบาบางลงเหมือนเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ทะเลาะกับคนรัก ไม่ได้หวิดเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด
“มาเถอะค่ะ ดารานางแบบสาวๆ ก็มี อาจเป็นประโยชน์กับงานคุณก็ได้นะ สาไม่หักเปอร์เซ็นต์ด้วยเอ้า”
ชายหนุ่มหัวเราะ ก่อนเอ่ยทีเล่นทีจริง “ผมอยากดื่ม นั่งฟังเสียงคลื่นมากกว่าซีฮะ คุณสาคงไม่ต้องการงานวันเกิดแบบนี้แน่”
สาวิตรีกรีดร้องในใจ เขาพูดได้น่ามันเขี้ยวนัก และเธอก็ไม่ได้ใสซื่อจนไม่รู้ความนัย เหมือนที่เขาคงรู้ทันเธอทั้งเรื่องแกล้งโทรผิดและงานวัน ‘เกิดอยากเจอ’ ของเธอนั่นไง
...................................
เส้นทางมอร์เตอร์เวย์มุ่งสู่ภาคตะวันออกโล่งตลอดสาย รถญี่ปุ่นคันใหญ่ของสาวิตรีแล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วเก้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง เธออาสาเป็นคนขับและนำรถตนมา หลังโน้มน้าวจนชายหนุ่มแวะไปหาได้สำเร็จ โดยให้เขาจอดรถสปอร์ตไว้ที่คอนโดมิเนียมของเธอแทน
สาวิตรีไม่ถือสาที่จะต้องดูแลฝ่ายชาย เธอเชื่อว่าผู้หญิงสามารถ 'ให้' และ 'นำ' ได้เท่าๆ กับเพศชายถ้าเธอพึงใจ หมดสมัยที่เพศหญิงจะเป็นฝ่ายรอคอย รอให้ใครมาเลือกตนไป
เพียงชั่วโมงเศษจากเมืองหลวงก็มาถึงเมืองซึ่งไม่เคยหลับใหล แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างพัทยาคราคร่ำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ไกลจากความวุ่นวายนั้นคือคอนโดมิเนียมหรูติดโค้งทะเล สาวิตรีแอบซื้อเก็บไว้นานนับสิบปีจากเงินซึ่งเพื่อนนำมาลงทุน เธอมักแวะมาพักผ่อน แน่นอนว่ามีคนหนุ่มมากมายพร้อมปรนเปรอเธอ
สาวใหญ่กดปิดซีดีเพลงหลังนำรถเข้าจอดเรียบร้อย ทว่าคนซึ่งปรับเบาะเอนหลังอยู่ข้างๆ ยังไม่มีทีท่ารู้สึกตัว เล็บยาวสีสดลูบไล้ไปตามแนวคางซึ่งมีรอยบุ๋มนิดๆ ราวหยอกเย้าเจ้าแมว
"เกด..." จิตใต้สำนึกชายหนุ่มร้องเรียก
จิรายุเบี่ยงหน้าหนีพร้อมกับรู้สึกตัว สาวิตรีกระถดตัวกลับมานั่งเต็มเบาะ ซ่อนความสงสัยใคร่รู้ว่าคนที่เขาเรียกหาคือใครไว้ภายใต้ท่าทางสบายๆ ดังเคย
"ถึงแล้วค่ะ ฉันแวะซื้อของทานเล่นมาด้วย"
ชายหนุ่มลูบหน้าก่อนถามติดตลก "นี่ผมหลับสนิทขนาดนั้นเลยเหรอ กรนดังไหมฮะ"
"ไม่ค่า หลับได้น่ารักมาก" เธอกรีดนิ้วไปตามไรหนวดเกลี้ยงเกลา
จิรายุจับมือซุกซนไว้ เขาอยากพักผ่อนและหมายความตามนั้นจริงๆ จึงเลือกมากับสาวใหญ่ที่รู้ใจ ช่างเอาใจเป็นที่สุด
“ตาผมลงไปขนไวน์บ้าง กินแรงสุภาพสตรีมาเยอะแล้ว”
สาวิตรีมองตามแผ่นหลังกว้างที่เจ้าของลงไปเคาะให้เปิดฝากระโปรงหลังรถเพื่อขนไวน์ซึ่งนำมาจากคอนโดฯ ที่พักของเธอ รู้ดีว่าเขากำลังบ่ายเบี่ยง ไม่รับลูกเล่นกับเธอ
หรือจะเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น... เธอจำชื่อที่เขาเพ้อถึงได้แม่นยำ ชื่อเดียวกันกับชื่อของลูกสาวเพื่อนเก่าแก่ตน เถอะ เจ้าหล่อนจะเป็นใครก็ช่าง คนอย่างเธอก็ไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับหัวใจเขาอยู่แล้ว นอกจากร่างกาย...
เส้นขนานสองหัวใจ บทที่ ๒๓
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
23
“ครับ" จิรายุกดรับโทรศัพท์ซึ่งวางไว้บนคอนโซลหน้ารถโดยไม่ได้ดูชื่อผู้โทรเข้า มือบังคับพวงมาลัยให้เลี้ยวรถออกจากรั้วโรงงานไปพร้อมกัน
"พูดซะสุภาพ เผื่อว่าจะเป็นเกดหรือไง" ลอร่าค่อนแคะ
ชายหนุ่มเบ้ปากเมื่อจำเสียงสำเนียงไทยชัดแจ๋วของสาวลูกครึ่งได้ ถ้ารู้ก่อนหน้าเขาคงไม่พูดดีกับเด็กกวนประสาทพรรค์นี้แน่ และคงไม่เสียเวลาเสวนาด้วยสักนาทีเดียวหากคนรักของเขาไม่ได้อยู่กับเจ้าหล่อนล่ะก็
"นี่อยู่ไหนกัน เกดให้โทรมาล่ะสิ"
"หลงตัวเองไปหน่อยป่ะ" หญิงสาวย้อนด้วยน้ำเสียงที่จงใจให้ยียวนที่สุด "เกดไม่ได้บอกให้ฉันโทรหรอก แต่ฉันหวังดี กลัวนายจะห่วงว่าที่เจ้าสาวเลยโทรมาหา"
จิรายุชักหงุดหงิด สมองเขายังไม่หายเครียดเขม็งจากงาน ต้องมาเจอยัยเด็กแสบพูดจาเลี้ยวลดวกวนให้มึนงงยิ่งขึ้นไปอีก
"ถ้าจะมาพูดจากวนประสาทล่ะก็ แค่นี้นะ ฉันไม่มีอารมณ์ต่อปากต่อคำกับเธอ ฉันจะโทรหาเกดเอง"
ทว่าไม่ทันที่มือหนาจะกดตัดสาย เสียงแจ๋วๆ ก็แทรกมาก่อนอย่างเร่งร้อน
"ไม่ต้องโทรร้อก พี่ปอน่ะดูแลเกดดีอยู่แล้ว ดูแลมาทั้งชีวิต ดีกว่านายเสียด้วยซ้ำ"
ลอร่าเป็นฝ่ายวางสายหลังจากนั้นด้วยความสาแก่ใจที่ได้ปั่นป่วนเล็กๆ น้อยๆ หารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายไม่หยุดคิดเพียงเสียงสัญญาณขาดหายเท่านั้น แต่จิรายุคิดระแวงไปไกลอย่างคนรู้ความในใจเพื่อนดี
เขากดหาหมายเลขเกตน์สิรีอย่างร้อนใจ สายตามองหน้าจอสีสลับกับถนนหนทางข้างหน้าซึ่งความมืดค่อยแผ่ลงมาปกคลุมโดยลืมคำนึงถึงความปลอดภัย เสียงรอสายดังอยู่พักหนึ่งกว่าคนปลายทางจะกดรับ
"เกดอยู่ไหนคะ พี่เพิ่งเคลียร์งานเสร็จ ให้ไปรับไหม" เขาสงบใจถามเป็นปกติ
"เกดออกมาแล้วค่ะ กำลังกลับ พี่แบงค์กลับเข้าบ้านเถอะค่ะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" เกตน์สิรีตอบอย่างอาทร
หากนั่นไม่ช่วยคลายความระแวงของชายหนุ่มสักนิด ขณะเดียวกันก็แสลงใจคนที่ต้องตกอยู่กลางความรักซึ่งเขาไม่ได้เป็นเจ้าของ ปีแสงข่มใจไม่ให้วอกแวกออกนอกทาง
"แล้วกลับยังไง ใครไปส่ง"
จิรายุไม่ได้คิดเองว่าหญิงสาวเงียบไปก่อนตอบ เกตน์สิรีคิดหาคำตอบที่จะดีต่อทุกคน
"ลอร่าน่ะค่ะ" เธอปดเพื่อให้คนรักสบายใจ รวมทั้งเขาจะได้ไม่ต่อว่าเธอรบกวนปีแสงอย่างที่เคยติง
"ขอสายลอร่าหน่อยสิ" เขาใกล้ระเบิดเต็มที
"เอ่อ ลอร่าปฏิเสธ..." เธอเลือกใช้คำที่กันการรับรู้ของพี่ชายคนข้างๆ
จิรายุกำพวงมาลัยแน่นเมื่อมั่นใจว่าคนรักของตนกำลังโกหก คนหัวอ่อน ซื่อตรงอย่างเจ้าหล่อนกำลังโกหกเพราะเพื่อนเขาอย่างนั้นหรือ ทำไม!?
ชายหนุ่มกดตัดสาย ไม่อยากทนฟังคำโป้ปดอีกแม้แต่คำเดียว เขากลืนน้ำขมๆ ในคอ เท้าเหยียบคันเร่งน้ำมันให้แรงเท่าอารมณ์ รถสปอร์ตหรูพุ่งโจนทะยานไปเบื้องหน้า และเมื่อสัญญาณไฟเคลื่อนมาสีตรงกลาง เขาก็เร่งความเร็วขึ้นอีกหวังฝ่าผ่าน แต่แล้วรถจักรยานยนต์จากแยกกลับรถก็เลี้ยวมา ชายหนุ่มเหยียบเบรกจมเท้า หักหลบไปหยุดยังไหล่ทางได้หวุดหวิด
"เวรเอ๊ย!" จิรายุสบถพร้อมตบแตรลั่น
เขาสูดหายใจลึกสงบสติอารมณ์ ใจหล่นไปยังตาตุ่มหลังรอดจากการเกิดอุบัติเหตุ
เสียงโทรศัพท์ทั้งร้องและสั่นบนคอนโซลหน้าเรียกสติเขากลับมา รถซึ่งเริ่มเลี้ยวมาแล่นผ่านกระจกข้างไปคันต่อคัน จิรายุกดรับก่อนเข้าเกียร์ให้รถเคลื่อนไม่กีดขวางการจราจร
"ฮัลโหล" น้ำเสียงที่เอ่ยฟังดูเหนื่อยหน่าย แล้วเขาก็ต้องนิ่วหน้าประหลาดใจกับเสียงปลายสายไม่คุ้นเคย
"ตายจริง คุณแบงค์หรือคะ สงสัยสาจะโทรผิด จะโทรหาเพื่อนอีกคนน่ะค่ะ"
สาไหนวะ... ป่วยการจะคิดนอกจากรับคำส่งๆ ไป เขาอยากวางสายหากอีกฝ่ายยังคงเจื้อยแจ้วต่อด้วยน้ำเสียงแสดงความเห็นใจ
"เสียงคุณไม่ดีเลย มีอะไรให้สาช่วยไหมคะ" สาวิตรีมองเห็นช่องทางดำเนินตามแผนการง่ายกว่าที่คิด เมื่ออีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์อ่อนไหว "เอาอย่างนี้สิคะ วันนี้สาจัดปาร์ตี้วันเกิดที่คอนโดฯ คุณจำได้ไหมน้า คอนโดฯ ชั้นบนสุดแถวสุขุมวิท”
“อ้อ” จิรายุถึงบางอ้อ เขาจำเหตุการณ์คืนนั้นได้แม่นยำกว่าชื่อเจ้าหล่อนเสียอีก ผู้หญิงแก่ที่ทำตัวสาวสะพรั่ง แล้วต้องยอมรับว่าเธอทำได้ดีทีเดียว
ราวกับสมองหลั่งสารเอ็นโดรฟีนเพียงย้อนนึกกลับไป ความเหนื่อย โมโห หงุดหงิด เบาบางลงเหมือนเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ทะเลาะกับคนรัก ไม่ได้หวิดเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด
“มาเถอะค่ะ ดารานางแบบสาวๆ ก็มี อาจเป็นประโยชน์กับงานคุณก็ได้นะ สาไม่หักเปอร์เซ็นต์ด้วยเอ้า”
ชายหนุ่มหัวเราะ ก่อนเอ่ยทีเล่นทีจริง “ผมอยากดื่ม นั่งฟังเสียงคลื่นมากกว่าซีฮะ คุณสาคงไม่ต้องการงานวันเกิดแบบนี้แน่”
สาวิตรีกรีดร้องในใจ เขาพูดได้น่ามันเขี้ยวนัก และเธอก็ไม่ได้ใสซื่อจนไม่รู้ความนัย เหมือนที่เขาคงรู้ทันเธอทั้งเรื่องแกล้งโทรผิดและงานวัน ‘เกิดอยากเจอ’ ของเธอนั่นไง
...................................
เส้นทางมอร์เตอร์เวย์มุ่งสู่ภาคตะวันออกโล่งตลอดสาย รถญี่ปุ่นคันใหญ่ของสาวิตรีแล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วเก้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง เธออาสาเป็นคนขับและนำรถตนมา หลังโน้มน้าวจนชายหนุ่มแวะไปหาได้สำเร็จ โดยให้เขาจอดรถสปอร์ตไว้ที่คอนโดมิเนียมของเธอแทน
สาวิตรีไม่ถือสาที่จะต้องดูแลฝ่ายชาย เธอเชื่อว่าผู้หญิงสามารถ 'ให้' และ 'นำ' ได้เท่าๆ กับเพศชายถ้าเธอพึงใจ หมดสมัยที่เพศหญิงจะเป็นฝ่ายรอคอย รอให้ใครมาเลือกตนไป
เพียงชั่วโมงเศษจากเมืองหลวงก็มาถึงเมืองซึ่งไม่เคยหลับใหล แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างพัทยาคราคร่ำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ไกลจากความวุ่นวายนั้นคือคอนโดมิเนียมหรูติดโค้งทะเล สาวิตรีแอบซื้อเก็บไว้นานนับสิบปีจากเงินซึ่งเพื่อนนำมาลงทุน เธอมักแวะมาพักผ่อน แน่นอนว่ามีคนหนุ่มมากมายพร้อมปรนเปรอเธอ
สาวใหญ่กดปิดซีดีเพลงหลังนำรถเข้าจอดเรียบร้อย ทว่าคนซึ่งปรับเบาะเอนหลังอยู่ข้างๆ ยังไม่มีทีท่ารู้สึกตัว เล็บยาวสีสดลูบไล้ไปตามแนวคางซึ่งมีรอยบุ๋มนิดๆ ราวหยอกเย้าเจ้าแมว
"เกด..." จิตใต้สำนึกชายหนุ่มร้องเรียก
จิรายุเบี่ยงหน้าหนีพร้อมกับรู้สึกตัว สาวิตรีกระถดตัวกลับมานั่งเต็มเบาะ ซ่อนความสงสัยใคร่รู้ว่าคนที่เขาเรียกหาคือใครไว้ภายใต้ท่าทางสบายๆ ดังเคย
"ถึงแล้วค่ะ ฉันแวะซื้อของทานเล่นมาด้วย"
ชายหนุ่มลูบหน้าก่อนถามติดตลก "นี่ผมหลับสนิทขนาดนั้นเลยเหรอ กรนดังไหมฮะ"
"ไม่ค่า หลับได้น่ารักมาก" เธอกรีดนิ้วไปตามไรหนวดเกลี้ยงเกลา
จิรายุจับมือซุกซนไว้ เขาอยากพักผ่อนและหมายความตามนั้นจริงๆ จึงเลือกมากับสาวใหญ่ที่รู้ใจ ช่างเอาใจเป็นที่สุด
“ตาผมลงไปขนไวน์บ้าง กินแรงสุภาพสตรีมาเยอะแล้ว”
สาวิตรีมองตามแผ่นหลังกว้างที่เจ้าของลงไปเคาะให้เปิดฝากระโปรงหลังรถเพื่อขนไวน์ซึ่งนำมาจากคอนโดฯ ที่พักของเธอ รู้ดีว่าเขากำลังบ่ายเบี่ยง ไม่รับลูกเล่นกับเธอ
หรือจะเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น... เธอจำชื่อที่เขาเพ้อถึงได้แม่นยำ ชื่อเดียวกันกับชื่อของลูกสาวเพื่อนเก่าแก่ตน เถอะ เจ้าหล่อนจะเป็นใครก็ช่าง คนอย่างเธอก็ไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับหัวใจเขาอยู่แล้ว นอกจากร่างกาย...