แอบไปอ่านเรื่องย่อในผู้จัดการมาก่อน...............
รัชชานนท์โดดลงจากกำแพงวัง มองไปเห็นเป็นที่รกร้างที่มีแต่พงหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตาเขาเดินลุยพงหญ้าออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อมองไปข้างหน้าก็เห็นแต่พงหญ้าสีเขียว
“สถานีรถไฟ สร้อยฟ้าต้องไปสถานีรถไฟแน่”
รัชชานนท์เปลี่ยนทิศทาง ลุยพงหญ้าออกไปอย่างรวดเร็ว รัชชานนท์ชะงักเมื่อเห็นจุดดำๆเล็กๆ เคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้าไกลออกไป
“สร้อยฟ้า”
สร้อยได้ยินเสียงรัชชานนท์ก็ต้องชะงักกึก ก่อนที่จะตัดสินใจลุยหนีต่อไป รัชชานนท์มองออกไปเห็นจุดดำๆที่เป็นสร้อยหายวับไป เขาใจหายวาบ
“สร้อยฟ้า !! กลับมา ! กลับมาเดี๋ยวนี้”
รัชชานนท์ลุยฝ่าพงหญ้าอย่างไม่ยอมแพ้
สร้อยวิ่งอย่างไม่หยุดพักจนหลุดพ้นออกมาจากที่รกร้างซึ่งมีแต่ดงหญ้า สร้อยวิ่งมาจนเจอทางรถไฟที่ทอดยาวไปไกลเป็นจุดเริ่มต้นที่จะไปสู่สถานีรถไฟ
สร้อยยืนพักเหนื่อยหอบ ก่อนที่จะรวบรวมแรงกำลังทั้งหมดออกวิ่งไปอีกครั้ง รัชชานนท์พุ่งเข้ามากอดสร้อยไว้จากด้านหลัง
“ฉันไม่ให้เธอไป”
“ปล่อย ! ข้อยสิกลับไปหาพ่อใหญ่”
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เราเจอเจ้ารัชทายาทเมื่อไหร่ เราถึงจะกลับไปหาพ่อใหญ่ด้วยกัน”
สร้อยสะบัดตัวออกจากรัชชานนท์
“ข้อยบอกเจ้าแล้วว่า เฮาบ่มีวันเจอเพิ่น เฮื่องเจ้ารัชทายาทบ่ใช่เฮื่องจริง พ่อใหญ่หลอกข้อยให้มากับเจ้า เพื่อกันบ่ให้ข้อยไปร่วมกับกองกำลังกู้ชาติ พ่อใหญ่ย่านว่าข้อยสิบุกไปฆ่าไอ้เซกอง แล้วข้อยสิต้องถูกฆ่าตายเสียเอง”
“ที่ว่านอนคิดมาทั้งคืนนี่ คิดได้แค่นี้เหรอ”
“ข้อยเว้าแม่นบ่ล่ะ เฮื่องตามหาแหวนให้เจอแล้วสิพบเจ้าชายเอง มันเป็นนิทานหลอกเด็กชัดๆ ถ้ามีเจ้าชายอีหลี เป็นหยังเพิ่นถึงบ่กลับไปเวียงพูคำ ช่วยเจ้าหลวงล่ะ ข้อยบ่น่าโง่หลงเชื่อพ่อใหญ่ บ่มีแหวน บ่มีเจ้ารัชทายาท บ่มีอะหยังทั้งนั้น”
“ถ้าไม่มีแหวนรัชทายาท แล้วนี่อะไร”
รัชชานนท์หยิบแหวนเจ้ารัชทายาทออกมา สร้อยจ้องมองแหวนอย่างตกตะลึง สร้อยรีบดึงแหวนที่คล้องอยู่กับสายสร้อยออกมาเทียบดู
“แหวนเจ้ารัชทายาทอีหลี ! เจ้าหาแหวนเจอแล้ว”
สร้อยกระโดดกอดรัชชานนท์อย่างลืมตัว
“ขอบใจหลายๆ เด้อ ขอบใจๆ”
สร้อยกอดรัชชานนท์อย่างดีใจอยู่หนึ่งอึดใจแล้วเพิ่งรู้สึกว่ากอดกันนานไปแล้ว สร้อยเก้อเขินรีบผละออกมา แต่รัชชานนท์รั้งตัวสร้อยยังคงกอดตัวไว้แน่น
“ฉันไม่ต้องการคำขอบใจ ฉันต้องการคำสัญญา...ต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะต้องอยู่ด้วยกัน ห้ามหนีไปจากฉันอย่างนี้อีก รับปากสิ”
“เจ้ากะฮู้ว่า ซักวันนึงเฮากะต้องจากกันไป”
“ไม่ ! เราจะไม่จากกันไปไหน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หม่อมย่าจะยอมแพ้เรา เราคงจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างนี้อีกนานแสนนานเลย ห้ามหนีฉันไปไหนอีก รับปากฉันสิ สร้อยฟ้า”
“ข้อยรับปากเจ้า ข้อยสิบ่หนีเจ้าไปไสอีก”
ตัดฉากน่ารักๆ ไปหมดเลยอ่ะ ติ่งชายป่าอดฟิน
[คุณชายรัชชานนท์] ฉากฟินสร้อยฟ้ากับคุณชายหายไปไหน แอร๊ยย
รัชชานนท์โดดลงจากกำแพงวัง มองไปเห็นเป็นที่รกร้างที่มีแต่พงหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตาเขาเดินลุยพงหญ้าออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อมองไปข้างหน้าก็เห็นแต่พงหญ้าสีเขียว
“สถานีรถไฟ สร้อยฟ้าต้องไปสถานีรถไฟแน่”
รัชชานนท์เปลี่ยนทิศทาง ลุยพงหญ้าออกไปอย่างรวดเร็ว รัชชานนท์ชะงักเมื่อเห็นจุดดำๆเล็กๆ เคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้าไกลออกไป
“สร้อยฟ้า”
สร้อยได้ยินเสียงรัชชานนท์ก็ต้องชะงักกึก ก่อนที่จะตัดสินใจลุยหนีต่อไป รัชชานนท์มองออกไปเห็นจุดดำๆที่เป็นสร้อยหายวับไป เขาใจหายวาบ
“สร้อยฟ้า !! กลับมา ! กลับมาเดี๋ยวนี้”
รัชชานนท์ลุยฝ่าพงหญ้าอย่างไม่ยอมแพ้
สร้อยวิ่งอย่างไม่หยุดพักจนหลุดพ้นออกมาจากที่รกร้างซึ่งมีแต่ดงหญ้า สร้อยวิ่งมาจนเจอทางรถไฟที่ทอดยาวไปไกลเป็นจุดเริ่มต้นที่จะไปสู่สถานีรถไฟ
สร้อยยืนพักเหนื่อยหอบ ก่อนที่จะรวบรวมแรงกำลังทั้งหมดออกวิ่งไปอีกครั้ง รัชชานนท์พุ่งเข้ามากอดสร้อยไว้จากด้านหลัง
“ฉันไม่ให้เธอไป”
“ปล่อย ! ข้อยสิกลับไปหาพ่อใหญ่”
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เราเจอเจ้ารัชทายาทเมื่อไหร่ เราถึงจะกลับไปหาพ่อใหญ่ด้วยกัน”
สร้อยสะบัดตัวออกจากรัชชานนท์
“ข้อยบอกเจ้าแล้วว่า เฮาบ่มีวันเจอเพิ่น เฮื่องเจ้ารัชทายาทบ่ใช่เฮื่องจริง พ่อใหญ่หลอกข้อยให้มากับเจ้า เพื่อกันบ่ให้ข้อยไปร่วมกับกองกำลังกู้ชาติ พ่อใหญ่ย่านว่าข้อยสิบุกไปฆ่าไอ้เซกอง แล้วข้อยสิต้องถูกฆ่าตายเสียเอง”
“ที่ว่านอนคิดมาทั้งคืนนี่ คิดได้แค่นี้เหรอ”
“ข้อยเว้าแม่นบ่ล่ะ เฮื่องตามหาแหวนให้เจอแล้วสิพบเจ้าชายเอง มันเป็นนิทานหลอกเด็กชัดๆ ถ้ามีเจ้าชายอีหลี เป็นหยังเพิ่นถึงบ่กลับไปเวียงพูคำ ช่วยเจ้าหลวงล่ะ ข้อยบ่น่าโง่หลงเชื่อพ่อใหญ่ บ่มีแหวน บ่มีเจ้ารัชทายาท บ่มีอะหยังทั้งนั้น”
“ถ้าไม่มีแหวนรัชทายาท แล้วนี่อะไร”
รัชชานนท์หยิบแหวนเจ้ารัชทายาทออกมา สร้อยจ้องมองแหวนอย่างตกตะลึง สร้อยรีบดึงแหวนที่คล้องอยู่กับสายสร้อยออกมาเทียบดู
“แหวนเจ้ารัชทายาทอีหลี ! เจ้าหาแหวนเจอแล้ว”
สร้อยกระโดดกอดรัชชานนท์อย่างลืมตัว
“ขอบใจหลายๆ เด้อ ขอบใจๆ”
สร้อยกอดรัชชานนท์อย่างดีใจอยู่หนึ่งอึดใจแล้วเพิ่งรู้สึกว่ากอดกันนานไปแล้ว สร้อยเก้อเขินรีบผละออกมา แต่รัชชานนท์รั้งตัวสร้อยยังคงกอดตัวไว้แน่น
“ฉันไม่ต้องการคำขอบใจ ฉันต้องการคำสัญญา...ต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะต้องอยู่ด้วยกัน ห้ามหนีไปจากฉันอย่างนี้อีก รับปากสิ”
“เจ้ากะฮู้ว่า ซักวันนึงเฮากะต้องจากกันไป”
“ไม่ ! เราจะไม่จากกันไปไหน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หม่อมย่าจะยอมแพ้เรา เราคงจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างนี้อีกนานแสนนานเลย ห้ามหนีฉันไปไหนอีก รับปากฉันสิ สร้อยฟ้า”
“ข้อยรับปากเจ้า ข้อยสิบ่หนีเจ้าไปไสอีก”
ตัดฉากน่ารักๆ ไปหมดเลยอ่ะ ติ่งชายป่าอดฟิน