การลงทุนสำหรับผม ก็เหมือนการเพาะปลูก
เริ่มต้นเลยเราก็ต้องคิดก่อนว่าจะปลูกอะไร (ถือหุ้นอะไร)
ถ้าคิดไม่ออก ก็อาจจะดูว่าเราถนัดปลูกพืชชนิดไหน ซึ่งจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น (เลือกหุ้นที่ถนัด และพอเข้าใจ)
พอรู้ว่าจะปลูกอะไรแล้ว ก็ต้องมาดูอีกว่า โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมีมากแค่ไหน โดยดูจากคู่แข่งในตลาดว่ามีมากน้อยแค่ไหน (มีคู่แข่งน้อย)
หรือถ้าเรามั่นใจว่า จะปลูกพืชชนิดนี้ พันธ์xxx แล้วได้ผลลัพธ์ที่สูง ยังไงคนก็ต้องเลือกซื้อพันธุ์นี้ ก็จัดเลย (เป็นผู้นำในตลาด)
จากนั้นพอตัดสินใจได้ว่าจะปลูกอะไรได้แล้ว ก็ต้องมาดูว่าทำเลที่ปลูกเป็นอย่างไร เคยผ่านร้อนผ่านหนาวปลูกอะไรมาก่อนหน้านี้ (มองดูพื้นฐานในอดีตของหุ้น)
จากนั้นก็มองหาช่วงเวลาที่จะทำการเพาะปลูก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ และต้นทุนตํ่า (มองหุ้นที่มีราคาตํ่ากว่ามูลค่าที่แท้จริง)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการปลูกพืชแค่ชนิดเดียวก็อาจเสี่ยงได้ ควรจะปลูกพืชหลายๆชนิดคละๆกันไป เพราะเรื่องของอนาคตเราไม่มีทางรู้เลยว่า จะมีอะไรเกิดขึ้น! (จัดพอร์ตให้มีหุ้นหลายๆประเภทคละๆกันไป เพื่อกระจายความเสี่ยง)
จากนั้นรอก็รอเก็บเกี่ยวผลผลิต ทุกๆปี (กินปันผลนั่นเอง)
แต่ถ้ารู้สึกว่าผลผลิตเริ่มแย่ ขายไม่ค่อยออก หรืออาจเพราะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น หรือทำเลที่เพาะปลูกเริ่มไม่ดี หรือภัยธรรมชาติ หรืออื่นๆ ก็ให้ใช้สติค่อยๆไตร่ตรอง แล้วจึงค่อยขายทิ้ง แล้วคิดหาโอกาสเพาะปลูกพืชชนิดใหม่ในครั้งต่อไป (หุ้นราคาสูงกว่ามาตราฐาน หรือ คู่แข่งเพิ่มขึ้นจนกำไรหดหาย หรือ พื้นฐานของกิจการหุ้นเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี หรือ ปัจจัยอื่นๆที่อาจจะทำให้หุ้นของเราตกตํ่าในอนาคต ก็ควรจะขายทิ้ง แล้วมาเริ่มต้นใหม่)
ปล.แล้วคุณล่ะ นิยามการลงทุนของคุณเป็นอย่างไร ?
นิยามการลงทุนของคุณ เป็นอย่างไร ?
เริ่มต้นเลยเราก็ต้องคิดก่อนว่าจะปลูกอะไร (ถือหุ้นอะไร)
ถ้าคิดไม่ออก ก็อาจจะดูว่าเราถนัดปลูกพืชชนิดไหน ซึ่งจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น (เลือกหุ้นที่ถนัด และพอเข้าใจ)
พอรู้ว่าจะปลูกอะไรแล้ว ก็ต้องมาดูอีกว่า โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมีมากแค่ไหน โดยดูจากคู่แข่งในตลาดว่ามีมากน้อยแค่ไหน (มีคู่แข่งน้อย)
หรือถ้าเรามั่นใจว่า จะปลูกพืชชนิดนี้ พันธ์xxx แล้วได้ผลลัพธ์ที่สูง ยังไงคนก็ต้องเลือกซื้อพันธุ์นี้ ก็จัดเลย (เป็นผู้นำในตลาด)
จากนั้นพอตัดสินใจได้ว่าจะปลูกอะไรได้แล้ว ก็ต้องมาดูว่าทำเลที่ปลูกเป็นอย่างไร เคยผ่านร้อนผ่านหนาวปลูกอะไรมาก่อนหน้านี้ (มองดูพื้นฐานในอดีตของหุ้น)
จากนั้นก็มองหาช่วงเวลาที่จะทำการเพาะปลูก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ และต้นทุนตํ่า (มองหุ้นที่มีราคาตํ่ากว่ามูลค่าที่แท้จริง)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการปลูกพืชแค่ชนิดเดียวก็อาจเสี่ยงได้ ควรจะปลูกพืชหลายๆชนิดคละๆกันไป เพราะเรื่องของอนาคตเราไม่มีทางรู้เลยว่า จะมีอะไรเกิดขึ้น! (จัดพอร์ตให้มีหุ้นหลายๆประเภทคละๆกันไป เพื่อกระจายความเสี่ยง)
จากนั้นรอก็รอเก็บเกี่ยวผลผลิต ทุกๆปี (กินปันผลนั่นเอง)
แต่ถ้ารู้สึกว่าผลผลิตเริ่มแย่ ขายไม่ค่อยออก หรืออาจเพราะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น หรือทำเลที่เพาะปลูกเริ่มไม่ดี หรือภัยธรรมชาติ หรืออื่นๆ ก็ให้ใช้สติค่อยๆไตร่ตรอง แล้วจึงค่อยขายทิ้ง แล้วคิดหาโอกาสเพาะปลูกพืชชนิดใหม่ในครั้งต่อไป (หุ้นราคาสูงกว่ามาตราฐาน หรือ คู่แข่งเพิ่มขึ้นจนกำไรหดหาย หรือ พื้นฐานของกิจการหุ้นเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี หรือ ปัจจัยอื่นๆที่อาจจะทำให้หุ้นของเราตกตํ่าในอนาคต ก็ควรจะขายทิ้ง แล้วมาเริ่มต้นใหม่)
ปล.แล้วคุณล่ะ นิยามการลงทุนของคุณเป็นอย่างไร ?