เราพึ่งมีโอกาสได้ดู แล้วพบว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังบู๊ แต่แฝงไปด้วยแนวคิดด้านการปกครองบ้านเมืองมากมาย
อำนาจเก่า(กงจักรโลหิตหน่วยกิโยติน) อำนาจใหม่(หน่วยปืนไฟ) ผู้มีอำนาจ(ฮ่องเต้) ผู้อยู่ใต้อำนาจ(เหล่าขุนนางทั้งหลาย) ผู้อยู่ข้างความยุติธรรม(พระเอกของเรื่อง-เลิ่ง) ผู้แสวงหาความยุติธรรม (คนเลี้ยงแกะ-สิคาร) ผู้กดขี่(ชาวแมนจู) ผู้ถูกกดขี่(ชาวฮั่น)
หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงอำนาจเก่าถูกทำลายล้างโดยอำนาจใหม่ เป็นหนังที่ดูแล้วบีบคั้นอารมณ์ไปตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ เราร้องไห้ตั้งแต่กลางเรื่องจนจบเรื่อง-
ตอนสุดท้ายสิ่งที่เลิ่งบอกกับฮ่องเต้ ผู้แสวงหายุคทอง
ยุคทองของท่านคืออะไร
ยุคทองของข้าคือ ไม่มีใครคิดก่อการกบฎในยุคของข้า
(แต่สิ่งที่ฮ่องเต้ซึ่งเป็นชาวแมนจูทำคือทำลายล้างและกดขี่ชาวฮั่น ซึ่งไม่ใช่เผ่าพันธุ์ของตัวเอง)
ผิดแล้ว...เลิ่งพูด
"ที่สุดแล้วหากประชาชนได้อยู่ดีกินดี มีอาหาร มียารักษาโรค พวกเขาย่อมไม่สนว่าใครเป็นฮ่องเต้ต่อให้เป็นเพียงคนเลี้ยงแกะหรือกบฎกลุ่มใดก็ตาม ประชาชนจะลุกฮือต่อเมื่อไม่มีที่ให้พึ่งพิง หากพวกเขาได้ใช้ชีวิตในยุคทองได้ลิ้มรสความสุขสงบมั่งมีพวกเขาย่อมไม่มีทางก่อกบฎ พวกเขาก่อกบฎเพราะความอยุติธรรมความไม่เท่าเทียมกัน ประชาชนที่ไม่คิดก่อการกบฎคือประชาชนที่อยู่ดีกินดี มีความเท่าเทียมกัน ก็จะไม่มีใครคิดต่อต้านฮ่องเต้ และนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองอย่างแท้จริง"
เราชอบมากหนังเรื่องนี้แฝงแนวคิดอะไรหลายๆอย่างทั้งความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อน ความจงรักภักดีต่อผู้มีพระคุณ พลังแห่งการต่อต้านความอยุติธรรมในสังคม แม้จะแพ้ในตอนจบนะ แต่มันให้อะไรมากมายจริงๆ
มีบางฉากที่ตัวละครเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปมันทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว เพราะความเชื่อว่าฝ่ายตัวเองเป็นฝ่ายถูกเพราะมีอำนาจหนุนหลัง แต่เมื่ออำนาจนั้นพังทลายลง ความจริงอีกด้านเริ่มปรากฎ ทำให้รู้ความจริงอีกด้านหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ยิ่งแบบเออใช่เลย คนเราเดี๋ยวนี้มักคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกเพราะมีอำนาจหนุนหลังโดยละเลยแก่นแท้จริงไป
แนะนำให้ดูค่ะ
ในสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยขณะนี้แนะนำให้ดูหนังเรื่องพยัคฆ์ร้ายกิโยติน The Guillotines (2012)
อำนาจเก่า(กงจักรโลหิตหน่วยกิโยติน) อำนาจใหม่(หน่วยปืนไฟ) ผู้มีอำนาจ(ฮ่องเต้) ผู้อยู่ใต้อำนาจ(เหล่าขุนนางทั้งหลาย) ผู้อยู่ข้างความยุติธรรม(พระเอกของเรื่อง-เลิ่ง) ผู้แสวงหาความยุติธรรม (คนเลี้ยงแกะ-สิคาร) ผู้กดขี่(ชาวแมนจู) ผู้ถูกกดขี่(ชาวฮั่น)
หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงอำนาจเก่าถูกทำลายล้างโดยอำนาจใหม่ เป็นหนังที่ดูแล้วบีบคั้นอารมณ์ไปตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ เราร้องไห้ตั้งแต่กลางเรื่องจนจบเรื่อง-
ตอนสุดท้ายสิ่งที่เลิ่งบอกกับฮ่องเต้ ผู้แสวงหายุคทอง
ยุคทองของท่านคืออะไร
ยุคทองของข้าคือ ไม่มีใครคิดก่อการกบฎในยุคของข้า
(แต่สิ่งที่ฮ่องเต้ซึ่งเป็นชาวแมนจูทำคือทำลายล้างและกดขี่ชาวฮั่น ซึ่งไม่ใช่เผ่าพันธุ์ของตัวเอง)
ผิดแล้ว...เลิ่งพูด
"ที่สุดแล้วหากประชาชนได้อยู่ดีกินดี มีอาหาร มียารักษาโรค พวกเขาย่อมไม่สนว่าใครเป็นฮ่องเต้ต่อให้เป็นเพียงคนเลี้ยงแกะหรือกบฎกลุ่มใดก็ตาม ประชาชนจะลุกฮือต่อเมื่อไม่มีที่ให้พึ่งพิง หากพวกเขาได้ใช้ชีวิตในยุคทองได้ลิ้มรสความสุขสงบมั่งมีพวกเขาย่อมไม่มีทางก่อกบฎ พวกเขาก่อกบฎเพราะความอยุติธรรมความไม่เท่าเทียมกัน ประชาชนที่ไม่คิดก่อการกบฎคือประชาชนที่อยู่ดีกินดี มีความเท่าเทียมกัน ก็จะไม่มีใครคิดต่อต้านฮ่องเต้ และนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองอย่างแท้จริง"
เราชอบมากหนังเรื่องนี้แฝงแนวคิดอะไรหลายๆอย่างทั้งความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อน ความจงรักภักดีต่อผู้มีพระคุณ พลังแห่งการต่อต้านความอยุติธรรมในสังคม แม้จะแพ้ในตอนจบนะ แต่มันให้อะไรมากมายจริงๆ
มีบางฉากที่ตัวละครเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปมันทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว เพราะความเชื่อว่าฝ่ายตัวเองเป็นฝ่ายถูกเพราะมีอำนาจหนุนหลัง แต่เมื่ออำนาจนั้นพังทลายลง ความจริงอีกด้านเริ่มปรากฎ ทำให้รู้ความจริงอีกด้านหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ยิ่งแบบเออใช่เลย คนเราเดี๋ยวนี้มักคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกเพราะมีอำนาจหนุนหลังโดยละเลยแก่นแท้จริงไป
แนะนำให้ดูค่ะ