นายพินิจ ลาภธนานนท์ อาจารย์จากสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในหัวข้อ สถานการณ์เร่งด่วนสุขภาวะพระสงฆ์ : ระเบิดที่รอเวลา ในงาน "สานงาน เสริมพลัง ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่" ว่า จากการสำรวจสุขภาพพระสงฆ์ พบพฤติกรรมเสี่ยงหลายปัจจัย ทั้งการสูบบุหรี่ ภาวะอ้วน การดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง และพบว่า พระสงฆ์ร้อยละ 40.2 มีโรคประจำตัว 5 อันดับแรกได้แก่ 1.โรคภูมิแพ้ 2.โรคกระเพาะอาหาร 3.โรคความดันโลหิตสูง 4.โรคทางตา และ 5.โรคเบาหวาน เมื่อสำรวจถึงพฤติกรรมการออกกำลังกายของพระ พบว่ากิจวัตรประจำวัน เช่น การบิณฑบาต กวาดลานวัด เดินจงกรม ถือเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับพระสงฆ์ แต่พบว่าบางกลุ่มไม่ได้ปฏิบัติ เนื่องจากมีภารกิจมาก



นายพินิจกล่าวว่า ปัญหาที่ทำลายสุขภาพของพระสงฆ์ คือ อาหารใส่บาตร เมื่อสำรวจตามตลาดในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ สงขลา ภูเก็ต พบว่าจะมีการแยกกันขายระหว่างอาหารใส่บาตร กับอาหารที่ซื้อไปรับประทานเอง ทดลองซื้ออาหารใส่บาตรในตลาดแห่งหนึ่ง จ.เชียงใหม่ พบว่าซื้อมาเวลา 06.00 น. เมื่อแกะถุงเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน อาหารบูด ถือว่าเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้พระสงฆ์ได้รับอาหารที่ไม่มีคุณภาพ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ที่น่าสนใจ คือ หากพระสงฆ์ปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ทุกวัน จะได้ออกกำลังกายเฉลี่ยวันละ 60-65 นาที

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1pXRXdNakEzTURZMU5nPT0=§ionid=TURNek1BPT0=&day=TWpBeE15MHdOaTB3Tnc9PQ==

เวลาไปช่วยงานที่วัด กับข้าวกับปลาจากคนที่มาทำบุญเยอะแยะไปหมด ต้องคอยระมัดระวังในการเลือกชนิดอาหารและปริมาณในการทาน ไม่งั้นเย็นนั้นจะทั้งจุกแน่นท้องบางทีพาท้องเสีย แต่ผมจะดื่มแค่น้ำเปล่าธรรมดาไม่ใส่น้ำแข็ง