เคยตั้งกระทู้ไปค่ะว่าเป็นน้องริชชี่แล้วปวดมาก
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ที่ผ่านมา ต้องไปหาหมอที่ฝากท้องทุกๆเดือนอยู่แล้ว
เลยแวะหาหมอให้หมอดูน้องริชชี่ด้วยเลย ซึ่งตอนนั้นน้องริชชี่ อักเสบมาก บวมจนขนาดเท่าหัวแม่โป้ง
คุณหมอเลยแนะนำ 2 แนวทางในการรักษา
1. หมอจะดันติ่งนั้นกลับเข้ารูเดิม แล้วให้เรากินยารักษาตามอาการไป
2. ผ่าตัด
พอได้ยินคำว่าผ่าตัด เราตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลย หมอค่ะนู๋เลือกผ่าตัด
ซึ่งตอนนั้นเอง เราใจเร็วด่วนได้ ไม่ถามหมอให้ดี ว่าผ่าตัดมีข้อดีข้อเสียอะไร
ข้อดีก็อย่างรู้ๆ จะได้จัดการน้องริชชี่ให้หายไปเลย เพราะไม่รู้ว่ากินยาแล้วหล่อนจะหายไปตอนไหน
ส่วนข้่อเสีย เป็นข้อเสียที่แลกมากับการเจ็บปวดมากคือ ยาแก้ปวดรับได้แค่พาราน่ะค่ะ
ไม่สามารถฉีดยาแก้ปวดได้
เราไปหาหมอประมาณ 4 โมงเย็นของวันอาทิตย์ ซึ่งโชคดีบนความโชคร้าย คือวันนั้น เรายังไม่ได้กินอะไร
เลยทำให้ผ่าตัดได้ไวขึ้น 5 โมงเย็นเข้าห้องผ่าเลย
พอเข้าห้องผ่าตัด คำถามแรกที่เราถามหมอคือ "หมอค่ะ ผ่าเสร็จกินข้าวได้เลยไหม" อิอิ คือตอนนั้นหิวมาก
ต้องเข้าใจอารมณ์คนท้องน่ะค่ะ หิวคือหิว หิวแล้วไม่ได้กินจะหิวมากมาย อาจตาลายฆ่าคุณได้
หลังจากได้คำตอบกับคุณหมอแล้วว่า "ผ่าเสร็จแล้วกินได้เลยครับ"
เราก็สบายใจหละ
หลังจากนั้น หมอก็บอกว่า ไม่ได้ดมยาสลบน่ะครับฉีดยาชาแทน ... อ้าว ซวยแล้วตรู ลืมไปว่าตัวเองท้องเค้าไม่ให้ดมยาสลบ
หลังจากนั้นหมอก็จัดแจงเราขึ้นขาหยั่ง แค่ตอนขึ้นขาหยั่งก็ลำบากแล้วค่ะ สุดๆ
เพราะเรามีปัญหา เส้นเอนที่ขา ตั้งแต่ก่อนท้องแล้ว
ก่อนหน้าที่จะท้องก็ไปให้หมอจับเส้นจับให้ตลอด ขาดช่วงตอนท้องนี้หละ ใครๆก็ไม่จับเส้นให้นู๋...รู้ไหมทรมานแค่ไหน
พอมีปัญหาเรื่องเส้น ขึ้นขาหยั่ง เราก็จะขาตึง หมอยังไม่ทันจะทำอะไรก็งอแง หมอขา ขานู๋ตึง
ประสบการณ์ผ่าริดสีดวง ขณะท้อง 6 เดือน T_T
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ที่ผ่านมา ต้องไปหาหมอที่ฝากท้องทุกๆเดือนอยู่แล้ว
เลยแวะหาหมอให้หมอดูน้องริชชี่ด้วยเลย ซึ่งตอนนั้นน้องริชชี่ อักเสบมาก บวมจนขนาดเท่าหัวแม่โป้ง
คุณหมอเลยแนะนำ 2 แนวทางในการรักษา
1. หมอจะดันติ่งนั้นกลับเข้ารูเดิม แล้วให้เรากินยารักษาตามอาการไป
2. ผ่าตัด
พอได้ยินคำว่าผ่าตัด เราตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลย หมอค่ะนู๋เลือกผ่าตัด
ซึ่งตอนนั้นเอง เราใจเร็วด่วนได้ ไม่ถามหมอให้ดี ว่าผ่าตัดมีข้อดีข้อเสียอะไร
ข้อดีก็อย่างรู้ๆ จะได้จัดการน้องริชชี่ให้หายไปเลย เพราะไม่รู้ว่ากินยาแล้วหล่อนจะหายไปตอนไหน
ส่วนข้่อเสีย เป็นข้อเสียที่แลกมากับการเจ็บปวดมากคือ ยาแก้ปวดรับได้แค่พาราน่ะค่ะ
ไม่สามารถฉีดยาแก้ปวดได้
เราไปหาหมอประมาณ 4 โมงเย็นของวันอาทิตย์ ซึ่งโชคดีบนความโชคร้าย คือวันนั้น เรายังไม่ได้กินอะไร
เลยทำให้ผ่าตัดได้ไวขึ้น 5 โมงเย็นเข้าห้องผ่าเลย
พอเข้าห้องผ่าตัด คำถามแรกที่เราถามหมอคือ "หมอค่ะ ผ่าเสร็จกินข้าวได้เลยไหม" อิอิ คือตอนนั้นหิวมาก
ต้องเข้าใจอารมณ์คนท้องน่ะค่ะ หิวคือหิว หิวแล้วไม่ได้กินจะหิวมากมาย อาจตาลายฆ่าคุณได้
หลังจากได้คำตอบกับคุณหมอแล้วว่า "ผ่าเสร็จแล้วกินได้เลยครับ"
เราก็สบายใจหละ
หลังจากนั้น หมอก็บอกว่า ไม่ได้ดมยาสลบน่ะครับฉีดยาชาแทน ... อ้าว ซวยแล้วตรู ลืมไปว่าตัวเองท้องเค้าไม่ให้ดมยาสลบ
หลังจากนั้นหมอก็จัดแจงเราขึ้นขาหยั่ง แค่ตอนขึ้นขาหยั่งก็ลำบากแล้วค่ะ สุดๆ
เพราะเรามีปัญหา เส้นเอนที่ขา ตั้งแต่ก่อนท้องแล้ว
ก่อนหน้าที่จะท้องก็ไปให้หมอจับเส้นจับให้ตลอด ขาดช่วงตอนท้องนี้หละ ใครๆก็ไม่จับเส้นให้นู๋...รู้ไหมทรมานแค่ไหน
พอมีปัญหาเรื่องเส้น ขึ้นขาหยั่ง เราก็จะขาตึง หมอยังไม่ทันจะทำอะไรก็งอแง หมอขา ขานู๋ตึง