วันนี้มีบทความสาระน่ารู้เกียวกับโรคฝ่าเท้าอักเสบ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Sore hock โดยคุณหมอตาอ้อยมาฝากค่ะ
คิดว่าคนที่เลี้ยงกระต่าย น่าจะพอ คุ้นๆ กับโรคนี้อยู่บ้างนะครับ โรคนี้ถ้าจะเปรียบเทียบให้ฟังดูง่ายก็คือ โรคแผลกดทับ นั่นแหละครับ เพียงแต่ว่า มันเกิดแผลกดทับที่่ฝ่าเท้า โดยเฉพาะ ใน กระต่าย และ หนู แกสบี้ ที่จะพบได้บ่่อย ถามว่าทำไมเกิดได้บ่อย และ เกิด จากสาเหตุอะไร ? อันดับแรกคงต้อง อธิบายก่อนครับ ว่า ฝ่าเท้ากระต่าย ไม่ได้มีผิวหนังที่อ่อนนุ่ม เหมือนในสุนัข แต่เป็น ผิวหนัง ที่ห่อหุ้มกระดูกเท้า และมี ขน เป็นสิ่งปกคลุม .. แค่นั้นครับ
สาเหตุที่โน้มนำทำให้เกิด โรคฝ่าเท้าในกระต่ายหลักแล้วก็คือ
1.สายพันธุ์ กระต่าย เช่น กระต่ายสายพันธุ์ Rex,Mini Rex หรือ ลูกครึ่งของพันธุ์ นี้ เนื่องจากขนที่ละเอียด สั้น และ บาง โดยเฉพาะบริเวณฝ่าเท้า ทำให้ฝ่าเท้า เสียดสีกับพื้น มากเกินไป จนทำให้เกิด เท้าด้าน และ เป็นแผลตามาครับ
ตัวอย่างโรคฝ่าเท้าอักเสบ ระยะที่ 1
2.การที่ให้กระต่าย อยู่แต่ในกรงเป็นระยะเวลานานๆ โดยเฉพาะกรง ที่มีขนาดเล็ก และ พื้นกรง มีเส้นลวด ขนาดเล็ก กรงที่มีขนาดเล็กจะทำให้กระต่ายไม่ค่อยได้ขยับตัว จะทำให้แรงกดที่เท้า ลงน้ำหนัก ที่จุดๆเดียวนานๆ ก็จะทำให้เกิดผิวหนังขาดเลือดมาเลี้ยงทำให้ผิวหนังอ่อนแอ และ เกิดบาดแผล ติดเชื้อได้ง่ายครับ ส่วน พื้นกรง ที่เป็นซี่ลวดที่มีขนาดเล็กเกินไป ก็จะทำให้เกิด แรงกด แรง เค้น ที่ฝ่าเท้า เยอะกว่าปกติ กระต่ายไม่ได้ฝึกความอดทนเหมือนโยคี ทำไมต้องให้กระต่าย ยืนบนลวด จริิงมั้ยครับ ^^
ตัวอย่างโรคฝ่าเท้าอักเสบ ระยะที่ 2
3.กรงสกปรก นี่คือสาเหตุ ที่พบได้เป็นประจำคือ กรงเลี้ยงสกปรก และเจ้าของลืมทำความสะอาดบ่อย ทำให้กระต่ายเหยียบ อึ เหยียบฉี่ ทำให้ขนเปียก และ เกิด ผิวหนังอักเสบตามมา หลังจากนั้น ขนจะค่อยๆ ร่วงหลุด ไป เหลือ แต่ผิวหนัง ที่ห่อหุ้มกระดูก ทีนี้ พอเกิดการติดเชื้อ เชื้อก็จะลามเข้ากระดูก โอกาสที่จะต้องสูญเสียขา ก็จะสูงครับ
พื้นที่เลี้ยงที่สกปรก
4.กระต่ายเจ้าอารมณ์ พอโกรธที ก็ชอบ กระทืบเท้า ตอนกระทีบเท้านี่แหละครับ ถ้าพื้นที่อยู่ ไม่แข็งมาก ก็คงไม่เป็นไร เช่นในธรรมชาติ กระทีบเท้ากับดิน ก็คงไม่เป็นไร แต่ พอกระทืบ เท้าบน พื้นคอนกรีตเรื่อยๆ เข้า ก็อาจจะทำให้เกิดแผล ขนร่วง และกลายเป็นโรคนี้ตามมาได้ครับ
ตัวอย่างโรคฝ่าเท้าอักเสบ ระยะสุดท้าย
5.กระต่ายอ้วนไป , กระต่ายผอมไป .. อ่านไม่ผิดหรอกครับ อ้วนก็เกิดน้ำหนัก กดลงที่ฝ่าเท้ามากไป ทำให้เกิดแผลได้เช่นกัน ส่วนผอม ก็จะทำให้ไขมันใต้ชั้นผิวหนังน้อยเกินไป ก็ทำให้เกิด แผลง่ายครับ
6.ร้านอาบน้ำตัดขน .... กรณีนี้ เป็นความซวยของกระต่ายจริงๆครับ ืั้เจ้าของพาไปอาบน้ำ แล้ว ช่างดันไถ ขนฝ่าเท้ากระต่ายออกไปด้วย .. กระต่ายนะครับ ไม่ใช่หมา ไม่ต้องตัดขนใต้ฝ่าเท้าครับ
7.สาเหตุอื่นๆ อีกมากมายตาแป๊ะไก่ครับ .. เช่น โรคกระดูก , หรือ โรคที่ทำให้กระต่ายไม่เดิน ฉี่แล้วเหยียบทับ หรือ อีกสาเหตุคือ เล็บยาว แล้วไม่ยอมตัดครับ ทำให้กระต่าย ลงน้ำหนักไม่ถนัดครับ
วันนี้เอาสาเหตุไปก่อนนะครับ แล้วคราวหน้าจะมาพูดถึงวิธีการรักษา ครับ ^^
ปล.ไม่สงวนลิขสิทธิ์ เพื่อประโยชน์ ต่อมวลษยกระต่ายครับ 555
ด้วยความปราถนาดี น.สพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล
ที่มาของบทความ
http://exoticvetexoticpet.blogspot.com/2013/06/blog-post.html
เห็นอย่างนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่กระต่ายทุกท่านอย่าลืมสำรวจเด็กๆที่บ้าน และหมั่นทำความสะอาดกรงนะคะ
รู้แล้วป้องกันไว้ก่อน ปลอดภัยที่สุด ดีกว่ามาตามรักษาภายหลังค่า
[++กระทู้สาระ++] โรคฝ่าเท้าอักเสบ (Pododermatitis,Sore hock) ของน้องกระต่าย
คิดว่าคนที่เลี้ยงกระต่าย น่าจะพอ คุ้นๆ กับโรคนี้อยู่บ้างนะครับ โรคนี้ถ้าจะเปรียบเทียบให้ฟังดูง่ายก็คือ โรคแผลกดทับ นั่นแหละครับ เพียงแต่ว่า มันเกิดแผลกดทับที่่ฝ่าเท้า โดยเฉพาะ ใน กระต่าย และ หนู แกสบี้ ที่จะพบได้บ่่อย ถามว่าทำไมเกิดได้บ่อย และ เกิด จากสาเหตุอะไร ? อันดับแรกคงต้อง อธิบายก่อนครับ ว่า ฝ่าเท้ากระต่าย ไม่ได้มีผิวหนังที่อ่อนนุ่ม เหมือนในสุนัข แต่เป็น ผิวหนัง ที่ห่อหุ้มกระดูกเท้า และมี ขน เป็นสิ่งปกคลุม .. แค่นั้นครับ
สาเหตุที่โน้มนำทำให้เกิด โรคฝ่าเท้าในกระต่ายหลักแล้วก็คือ
1.สายพันธุ์ กระต่าย เช่น กระต่ายสายพันธุ์ Rex,Mini Rex หรือ ลูกครึ่งของพันธุ์ นี้ เนื่องจากขนที่ละเอียด สั้น และ บาง โดยเฉพาะบริเวณฝ่าเท้า ทำให้ฝ่าเท้า เสียดสีกับพื้น มากเกินไป จนทำให้เกิด เท้าด้าน และ เป็นแผลตามาครับ
ตัวอย่างโรคฝ่าเท้าอักเสบ ระยะที่ 1
2.การที่ให้กระต่าย อยู่แต่ในกรงเป็นระยะเวลานานๆ โดยเฉพาะกรง ที่มีขนาดเล็ก และ พื้นกรง มีเส้นลวด ขนาดเล็ก กรงที่มีขนาดเล็กจะทำให้กระต่ายไม่ค่อยได้ขยับตัว จะทำให้แรงกดที่เท้า ลงน้ำหนัก ที่จุดๆเดียวนานๆ ก็จะทำให้เกิดผิวหนังขาดเลือดมาเลี้ยงทำให้ผิวหนังอ่อนแอ และ เกิดบาดแผล ติดเชื้อได้ง่ายครับ ส่วน พื้นกรง ที่เป็นซี่ลวดที่มีขนาดเล็กเกินไป ก็จะทำให้เกิด แรงกด แรง เค้น ที่ฝ่าเท้า เยอะกว่าปกติ กระต่ายไม่ได้ฝึกความอดทนเหมือนโยคี ทำไมต้องให้กระต่าย ยืนบนลวด จริิงมั้ยครับ ^^
ตัวอย่างโรคฝ่าเท้าอักเสบ ระยะที่ 2
3.กรงสกปรก นี่คือสาเหตุ ที่พบได้เป็นประจำคือ กรงเลี้ยงสกปรก และเจ้าของลืมทำความสะอาดบ่อย ทำให้กระต่ายเหยียบ อึ เหยียบฉี่ ทำให้ขนเปียก และ เกิด ผิวหนังอักเสบตามมา หลังจากนั้น ขนจะค่อยๆ ร่วงหลุด ไป เหลือ แต่ผิวหนัง ที่ห่อหุ้มกระดูก ทีนี้ พอเกิดการติดเชื้อ เชื้อก็จะลามเข้ากระดูก โอกาสที่จะต้องสูญเสียขา ก็จะสูงครับ
พื้นที่เลี้ยงที่สกปรก
4.กระต่ายเจ้าอารมณ์ พอโกรธที ก็ชอบ กระทืบเท้า ตอนกระทีบเท้านี่แหละครับ ถ้าพื้นที่อยู่ ไม่แข็งมาก ก็คงไม่เป็นไร เช่นในธรรมชาติ กระทีบเท้ากับดิน ก็คงไม่เป็นไร แต่ พอกระทืบ เท้าบน พื้นคอนกรีตเรื่อยๆ เข้า ก็อาจจะทำให้เกิดแผล ขนร่วง และกลายเป็นโรคนี้ตามมาได้ครับ
ตัวอย่างโรคฝ่าเท้าอักเสบ ระยะสุดท้าย
5.กระต่ายอ้วนไป , กระต่ายผอมไป .. อ่านไม่ผิดหรอกครับ อ้วนก็เกิดน้ำหนัก กดลงที่ฝ่าเท้ามากไป ทำให้เกิดแผลได้เช่นกัน ส่วนผอม ก็จะทำให้ไขมันใต้ชั้นผิวหนังน้อยเกินไป ก็ทำให้เกิด แผลง่ายครับ
6.ร้านอาบน้ำตัดขน .... กรณีนี้ เป็นความซวยของกระต่ายจริงๆครับ ืั้เจ้าของพาไปอาบน้ำ แล้ว ช่างดันไถ ขนฝ่าเท้ากระต่ายออกไปด้วย .. กระต่ายนะครับ ไม่ใช่หมา ไม่ต้องตัดขนใต้ฝ่าเท้าครับ
7.สาเหตุอื่นๆ อีกมากมายตาแป๊ะไก่ครับ .. เช่น โรคกระดูก , หรือ โรคที่ทำให้กระต่ายไม่เดิน ฉี่แล้วเหยียบทับ หรือ อีกสาเหตุคือ เล็บยาว แล้วไม่ยอมตัดครับ ทำให้กระต่าย ลงน้ำหนักไม่ถนัดครับ
วันนี้เอาสาเหตุไปก่อนนะครับ แล้วคราวหน้าจะมาพูดถึงวิธีการรักษา ครับ ^^
ปล.ไม่สงวนลิขสิทธิ์ เพื่อประโยชน์ ต่อมวลษยกระต่ายครับ 555
ด้วยความปราถนาดี น.สพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล
ที่มาของบทความ
http://exoticvetexoticpet.blogspot.com/2013/06/blog-post.html
เห็นอย่างนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่กระต่ายทุกท่านอย่าลืมสำรวจเด็กๆที่บ้าน และหมั่นทำความสะอาดกรงนะคะ
รู้แล้วป้องกันไว้ก่อน ปลอดภัยที่สุด ดีกว่ามาตามรักษาภายหลังค่า